พลังเสื้อแดง 'ปากน้ำ' ก้างชิ้นใหญ่ ปชป-ภูมิใจไทย ยากฝ่าด่าน

สนามเลือกตั้งเมืองปากน้ำ จ.สมุทรปราการ เป็นสนามเลือกตั้งที่ถูกจับตามองมากที่สุด

โดย...ทีมข่าวภูมิภาค

สนามเลือกตั้งเมืองปากน้ำ จ.สมุทรปราการ เป็นสนามเลือกตั้งที่ถูกจับตามองมากที่สุด เพราะเลือกตั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติแข่งขันรุนแรงดุเดือดท่วมจอ เพียงคล้อยหลังยุบสภาไม่กี่วัน ก็เกิดเหตุลอบยิง ประชา ประสพดี อดีต สส.พรรคเพื่อไทย ได้รับบาดเจ็บ ตามด้วยปาระเบิดใส่รถหัวคะแนนเพื่อไทย

การเลือกตั้งปี 2550 พรรคไทยรักไทยพลังประชาชนก่อนถูกยุบ ต่อมากลายพันธุ์เป็นพรรคเพื่อไทยกินเรียบคู่แข่งเบ็ดเสร็จยึด 7 ที่นั่ง สำหรับเลือกตั้งครั้งนี้ก็ยังเป็นการแข่งขันของ 2 พรรคใหญ่คู่ปรับที่ส่งผู้สมัครครบทุกเขต ถือว่าทุกเขตเป็นศึกช้างชนช้าง โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์คราวนี้หวังยึดครองที่นั่งสร้างประวัติศาสตร์หลังจากไม่เคยได้สส.ในเมืองปากน้ำแม้แต่คนเดียว จึงต้องทุ่มสรรพกำลังเต็มที่

สำรวจเจาะลึกเขตเลือกตั้งที่ 1 ศึกชิงดำ 3 ตระกูลใหญ่ พรรคเพื่อไทย ส่ง อรุณลักษณ์ กิจเลิศไพโรจน์ อดีต สส.สมุทรปราการ ภรรยา สงคราม กิจเลิศไพโรจน์ อดีต รมช.พาณิชย์ ในรัฐบาล สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี แต่ยังคงเป็นเต็งหนึ่งได้รับแรงหนุนจากคนเสื้อแดง ทำให้ได้เปรียบกว่าผู้สมัครคนอื่นๆ ด้านพรรคประชาธิปัตย์ ส่ง จรูญ ยังประภากร อดีต สว.สมุทรปราการ เจ้าของฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ ส่วนคู่แข่งอีกคนที่มองข้ามไม่ได้คือ อัครวัฒน์ อัศวเหม หลานชาย วัฒนา อัศวเหมเจ้าถิ่นเมืองปากน้ำ ถูกส่งเข้าในนามพรรคมาตุภูมิ ชื่อชั้นภาษีตระกูลอัศวเหมการันตีอยู่แล้ว ยิ่ง ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม เพิ่งได้รับเลือกตั้งนายก อบจ.สมุทรปราการ มาหมาดๆ ดังนั้นคู่แข่งประมาทไม่ได้

เขตเลือกตั้งที่ 2 พรรคประชาธิปัตย์ ส่ง สรชา วีรชาติวัฒนา ลงสมัคร สส. โดยครั้งที่แล้วเหมือนมีบุญแต่กรรมบัง ชนะเลือกตั้งแต่ไม่ได้เป็น สส. เพราะมีปัญหาเรื่องถูกร้องเรียน ครั้งนี้มั่นใจว่าจะคว้าชัยอีกครั้ง เพราะลงพื้นที่ต่อเนื่อง แต่ฝันอาจไม่เป็นจริง เพราะต้องเจอกับด่านหิน ประเสริฐ ชัยกิจเด่นนภาลัย พรรคเพื่อไทย อดีต สส.ที่คร่ำหวอดครองพื้นที่แห่งนี้มานาน 3 สมัย ส่วนพรรคอื่นๆกระแสตอบรับไม่ดีนัก

เขตเลือกตั้งที่ 3 อนุสรา ยังตรง อดีต สส. และอดีต สว.สมุทรปราการ ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย ต้องมาเจอกับคู่ปรับ ชินโชติ หรือ ประเทือง แสงสังข์ ประธานสภาองค์การลูกจ้างสภาแรงงานแห่งประเทศไทย ลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ แต่ก็ต้องพิสูจน์กันว่า จะสามารถทานกระแสคนเสื้อแดงปากน้ำได้หรือไม่

เขตเลือกตั้งที่ 4 จิรพันธ์ ลิ้มสกุลศิริรัตน์ หรือทนายเส่ง อดีต สส.พรรคเพื่อไทย มาครั้งนี้ย้ายค่ายซบภูมิใจไทย แต่คู่แข่งที่เพื่อไทยส่งลงมาแทนก็คือ วรชัย เหมะ แกนนำคนเสื้อแดง ทำให้กระแสตอบรับมีไม่ใช่น้อย ส่วนอีกคนที่มองข้ามไม่ได้ก็คือ เกรียงศักดิ์ บุญประเสริฐ จากประชาธิปัตย์

เขตเลือกตั้งที่ 5 การต่อสู้ค่อนข้างหนัก ระหว่างเพื่อไทยและภูมิใจไทย เริ่มต้นจาก นที สุทินเผือก หรือ กรุง ศรีวิไล นักแสดงชื่อดัง มาครั้งนี้เปลี่ยนชื่อใหม่ ให้คนจำได้ง่ายขึ้นเป็น “กรุงศรีวิไล สุทินเผือก” ซึ่งเป็นอดีต สส.พรรคเพื่อไทย ที่ย้ายค่ายมาอยู่ภูมิใจไทย ความขยันลงพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ ทำให้กระแสตอบรับยังไม่ตก ส่วนคู่แข่งคือ สลิลทิพย์ สุขวัฒน์ อดีต สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ที่ได้ฐานสนับสนุนจาก ประเสริฐ สุขวัฒน์ อดีต สส.สมุทรปราการ ผู้เป็นบิดา

เขตเลือกตั้งที่ 6 เขตนี้ก็มีความรุนแรงไม่น้อยเช่นกัน เริ่มจาก เรวดี รัศมิทัต อดีต สส.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นลูกสาวของ อำนวย รัศมิทัต อดีตนายก อบจ.สมุทรปราการ ที่เพิ่งพ่ายการเลือกตั้งให้กับ ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม เรวดีในนามภูมิใจไทย จะฝ่าด่านเข้าสภาไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เมื่อ ประชา ประสพดี ส่งนฤมล ธารดำรงค์ น้องสาว ลงสมัครรักษาแชมป์

เขตเลือกตั้งที่ 7 ดุเดือดไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเขตอื่นๆ เนื่องจาก ประชา ประสพดี อดีต สส.พรรคเพื่อไทย แบกเอาเหตุถูกลอบยิงมาขอความเห็นใจเป็นคะแนน ส่วนคู่แข่งที่มาแรงคือ พูลผล อัศวเหม ที่ลงสมัคร สส.ในนามพรรคมาตุภูมิ รวมทั้ง สมยศ ประกอบผล จากประชาธิปัตย์ ซึ่งแม้จะพ่ายแพ้ทุกครั้ง แต่ก็สั่งสมประสบการณ์หาเสียงไว้โชกโชน