นกน้อย อุไรพร บวชชีหนีช้ำศก.ซบเซา
หัวหน้าวงเสียอีสานโดนพิษเศรษฐกิจกระหน่ำ งานหดรายได้วูบ ต้องบวชชีพึ่งธรรมเป็นเวลา 15 วัน ที่วัดดังเมืองอุดรธานี
หัวหน้าวงเสียอีสานโดนพิษเศรษฐกิจกระหน่ำ งานหดรายได้วูบ ต้องบวชชีพึ่งธรรมเป็นเวลา 15 วัน ที่วัดดังเมืองอุดรธานี
นางอุไร ฉิมหลวง หรือ นกน้อยอุไรพร เจ้าของวงดนตรีเสียงอีสาน ได้มาทำการบวชชีที่วัดมัชฌิมาวาส ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยมีพระเทพรัตนมุนี เจ้าคณะจังหวัดอุดรธานี และเป็นเจ้าอาวาสวัด เป็นพระอุปชาย์บวชให้ โดยก่อนหน้านี้วงเสียงอีสานบอบชํ้าอย่างหนักเนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจซบเซา ไม่มีงานเข้ามาทำให้รายได้หดหายลูกน้องเกือบพันชีวิตต่างก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก
แม่ชีนกน้อยอุไร กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาพิษเศรษฐกิจเล่นงานอย่างจัง ไม่มีงานเข้ามา หนักสุดช่วงเดือนเม.ย.แทบไม่ได้เดินทางทำให้เกิดความท้ออย่างหนัก จนคิดจะยุบวงดนตรีปิดตำนาน เสียงอีสาน พอดีมีพระอาจารย์แห้ว ซึ่งขณะนั้นไปแสดงที่จ.นครสวรรค์ ท่านมาทักว่าวงดนตรีเสียงอีสานจะกลับมาโด่งดังอีกครั้ง โดยขอให้ทนไปจนถึงเดือนเม.ย. ชีวิตจะกลับมาเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ จะดีขึ้นมา ซึ่งก็ได้มีงานเข้ามาถึง 7-8 งาน
ต่อมาเดือนมี.ค.พูดคุยกับท่านสีสุก ท่านเป็น ส.ว.สรรหาของจังหวัดศรีสะเกษ มานั่งคุยด้วย จากนั้นได้เล่าถึงเรื่องงานที่ไม่ค่อยมีใครมาจ้าง ท่านบอกว่าเลิกไม่ได้นะ เพราะวัฒนธรรมของวงดนตรีเสียงอีสานช่วยให้หมอลำและคนอีสานมีลมหายใจอยู่ ท่านสีสุก บอกว่าจะให้ไปแสดงปลอบขวัญให้กับพี่น้องที่โดนไฟสงครามแถบชายแดนศรีสะเกษเราคิดว่าแค่ 1 งานแต่กลายเป็น 35 คิวทำให้สถานการณ์ของวงสามารถเดินต่อได้จนถึงกำหนดที่ปิดวงเมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา"นกน้อย ระบุ
หลังจากนั้นจึงได้ตัดสินใจมาบวชชีเป็นระยะเวลา 15 วัน บวชเพื่อหาปาฏิหาริย์กับ ให้งานเข้าเยอะหาเงินเลี้ยงลูกน้องภายในวงเพราะตอนนี้มีลูกน้องอยู่ครึ่งพันชีวิต ซึ่งก็ได้บนบานศาลกล่าวกับหลวงปูนาคกับหลวงปู่ขุนเดชให้มีคนเมตตาเข้ามาหอบหิ้ววงดนตรีอีสานให้มีงานคอนเสิร์ตเข้ามา เพราะโดนโดนพิษเศรษฐกิจเล่นงานเอา หลวงปูนาคกับหลวงปู่ขุนเดชเอาไว้ เพื่อขอหาปาฏิหาริย์ ให้งานเข้ามาเยอะๆ จะได้กลับมารวยอีกครั้งเหมือนที่พระอาจารย์ แห้ว ได้ทักเอาไว้ และ ท่านสีสุก ที่ให้กำลังใจในการต่อสู้ต่อไปดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่าสถานการณ์วงดนตรีเสียงอิสาน เป็นอย่างไรเพราะมีความเปลี่ยนแปลงในวงอยู่บ่อยๆ และวงหมอลำกำลังเจอคู่แข่งเป็นหมอลำซิ่ง
"ตอนนี้คิดว่ากระแสงานโชว์ของวงดนตรีเสียงอิสาน ดีขึ้น ความรุนแรงของกระแสวัยรุ่นที่ชอบตีกันหน้าเวทีลดน้อยลงไปมาก ภาพของพ่อแก่แม่เฒ่าจูงเด็กมานั่งดูหน้าเวทีกันเป็นครอบครัว เราสู้งานนะแม่เห็นภาพนั้นแล้วมีความสุขมากอยากที่จะสู้อีกสักตั้งหนึ่ง กำลังใจมันเพิ่มขึ้น เราเห็นหมอลำปิดตัวกันไปเยอะก็พยายามหาคำตอบให้กับตัวเองและแฟนคลับอยู่เพราะที่ผ่านมามีคำถามเข้ามาเยอะมาก ส่วนมากไม่อยากให้เราปิดตัว เขาทำใจรับไม่ได้ "
นอกจากการกลับมาสู้กับสภาพความเปลี่ยนแปลงของสังคมแล้วนกน้อย ยังบอกถึงการตอบรับของวัยรุ่นอีสานที่เดินเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกใหม่นับร้อยๆ คนในเวลานี้ทำให้เธอมีความสุขและพร้อมที่จะปั้นเด็กรุ่นใหม่พวกนี้
"ตอนนี้เด็กรุ่นใหม่ๆ เดินเข้ามาที่บ้าน 555 มาสมัครเป็นนักร้อง เป็นตลก เป็นหางเครื่องในวงกันหลายร้อยคนแล้ว พวกเขาบอกว่าอยากที่จะมาเป็นศิลปินอีสานที่สืบสานวัฒนธรรมอีกสานซึ่งทำให้เราตื้นตันใจมาก ก็เลยตั้งใจว่าหลังจากบวชครบ 15 วันแล้วนกน้อย อุไรพรจะทุ่มเทแรงกาย แรงใจอีกครั้งเพื่อปลุกปั้นเด็กๆ รุ่นใหม่เหล่านี้ให้มาเป็นบุคลากรมาเป็นกำลังหลักของวงเสียงอิสานต่อไป เราเปิดโอกาสให้ทุกคน"
โดยแม่ชีนกน้อยอุไร ได้เดินทางกลับไปที่บ้านพักเลขที่555 หมู่10 บ้าหนองใส ตำบลหนองนาคำ อ.เมืองอุดรธานี เพื่อไปรับประทานอาหาร ก่อนที่จะไปปฏิบัติธรรม ที่วัดดงสะพังทอง ต.หนองคำ ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ในระหว่างการจัดทำกรมธรรม์ขั้นตอนสุดท้าย เพื่อขออนุมัติกรมธรรม์จากสำนักงาน คปภ. ก่อนจะมีการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในรายละเอียดกรมธรรม์ให้แก่เกษตรกร ก่อนเริ่มการเอาประกันภัยจริงต่อไป


