ทหารพรานเสริมกำลัง ชายแดน"ตาเมือนธม"เครียด
แม่ทัพภาคที่ 2 เผย ฮุนเซน อยากให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชาเหมือนเดิม เยือนปราสาทตาเมือนธมพรุ่งนี้ขณะที่ สถานการณ์ชายแดน เริ่มตรึงเครียด
แม่ทัพภาคที่ 2 เผย ฮุนเซน อยากให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชาเหมือนเดิม เยือนปราสาทตาเมือนธมพรุ่งนี้ขณะที่ สถานการณ์ชายแดน เริ่มตรึงเครียด
พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยหลังเดินทางขึ้นไปเข้าพบ สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรี ที่เดินทางมาตรวจเยี่ยมกำลังพลที่ปราสาทพระวิหาร ว่า สมเด็จฮุนเซนอยากให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชากลับไปเป็นเหมือนก่อนวันที่ 15 กรกฎาคม 2551 ที่ยังไม่มีเหตุปะทะกัน อยากให้นำสันติกลับมาอีกครั้ง ซึ่งหลังจากตรวจเยี่ยมและมอบสิ่งของให้กับกำลังพลแล้ว สมเด็จฮุน เซนและคณะจะเดินทางต่อไปที่จังหวัดเสียมเรียบ พักค้าง 1 คืน และพรุ่งนี้ (7ก.พ.)จะเดินทางไปยังปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ เพื่อตรวจเยี่ยมกำลังพลต่อไป
ทั้งนี้การพูดคุยเจรจากับสมเด็จฮุนเซน เป็นไปด้วยดี โดยสมเด็จฮุน เซน ขึ้นมาทำพิธีบวงสรวงสักการะเทวรูปที่โคปุระชั้น 4 ของปราสาทพระวิหาร แต่ไม่ได้เข้ามาพื้นที่ทับซ้อน ซึ่งขบวนรถขับผ่านขึ้นไปตัวปราสาทพระวิหารเลย
ส่วนสถานการณ์ทั่วไปบนชายแดนเขาพระวิหารหลังจากที่คณะของสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเดินทางกลับ สถานการณ์ความตึงเครียดก็ได้คลี่คลายลง ส่งผลให้บรรยากาศตามแนวชายแดนเข้าสู่ภาวะปกติ โดยผู้บังคับบัญชาฝ่ายไทยมีคำสั่งถอนกำลังพลบางส่วนที่ถูกเรียกตัวขึ้นไปเสริมประจำจุดประชิดชายแดนเมื่อช่วงเช้า กลับลงมาปฏิบัติหน้าที่ประจำที่ตั้งปกติตามแต่ละฐานปฏิบัติการทั้งหมดแล้ว
ขณะเดียวกันทางด้าน สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน“ปราสาทตาเมือนธม” อ.พนมดงรัก สุรินทร์ กลับมีความตึงเครียดอย่างหนัก หลังจากที่สมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา มีกำหนดการเดินทางมาเยือนพื้นที่ชายแดนด้านปราสาทตาเมือนธมในวันพรุ่งนี้ (7 ก.พ.) โดยทหารพรานได้สั่งปิดทางขึ้นห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าเด็ดขาด พร้อมวางกำลัง-อาวุธหนักเต็มพื้นที่ตัวปราสาทและตั้งกองอำนวยการทางยุทธการเตรียมรับสถานการณ์ร้ายแรง ขณะทหารเขมร นับร้อยนายเสริมกำลังพร้อมอาวุธหนัก“อาร์พีจี” ประชิดปราสาทตาเมือนธมเผชิญหน้าทหารไทยตลอดแนวชายแดน
ล่าสุดทหารพรานกองร้อยจู่โจมที่ 960 ได้วางกำลัง พร้อมอาวุธ ตลอดแนวชายแดน ในขณะที่ทหารกัมพูชา จากกองพันทหารชายแดน ที่ 422 นับร้อยนาย นำโดย พ.อ.เนี๊ยะ วงศ์ ผู้บังคับกองพันทหารชายแดนที่ 422 ได้เคลื่อนกำลังพร้อมด้วยอาวุธหนักเบา ปืนอาร์ก้า และจรวด อาร์พีจี เข้าประชิดชายแดนไทย บริเวณทางขึ้นปราสาทตาเมือนธมด้านฝั่งประเทศกัมพูชา
นอกจากนั้นยังมีความพยายามส่งกำลังทหารติดอาวุธ เข้าประชิดและวางกำลัง ให้อยู่ใกล้ กับกำลังทหารพรานกองร้อยทหารพรานจู่โจม ที่960 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาค ที่ 2 ของไทยให้มากที่สุด
พ.อ.อดุล บุณธรรมเจริญ ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 26 และ ร.อ.สมควร ไชยนิตย์ ผู้บังคับการกองร้อยทหารพรานจู่โจม ที่ 960 ซึ่งเข้าบัญชาการอยู่ที่ฐานปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานจู่โจม ที่ 960 ปราสาทตาเมือนธม ได้ประสานงานเจรจากับ กำลังทหารกัมพูชาที่พยายามวางกำลังทหารประชิดกับกองร้อยทหารพรานจู่โจม ที่ 960 ทำให้ทหารกัมพูชา ได้ถอยห่างจากกำลังทหารพรานไทยออกไป แต่ยังมีการเผชิญหน้ากันอยู่ตลอดแนวชายแดนด้านปราสาทตาเมือนธม
พ.อ.อดุล บุณธรรมเจริญ ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 26 ได้สั่งการให้มีการเสริมกำลังทหาร พร้อมด้วยอาวุธประจำกายและอาวุธหนัก พื้นที่ตัวปราสาทตาเมือนธมและพื้นที่โดยรอบชายแดนปราสาทตาเมือนธม รวมทั้งได้มีการเจรจา กับ พ.อ.เนี๊ยะ วงศ์ เพื่อไม่ให้เกิดความตึงเครียดและไม่ให้เกิดการปะทะกันของทหารทั้ง 2 ฝ่าย
พร้อมทั้งได้สั่งปิดทางเข้าปราสาทตามเมือน ห้ามไม่ให้ประชาชน นักท่องเที่ยว และผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องขึ้นไปยังตัวปราสาทตาเมือนธมอย่างเด็ดขาด รวมทั้งได้ตั้งกองอำนวยการทางยุทธการขึ้นในการเตรียมรับสถานการณ์ร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
ขณะเดียวกัน นายธีรวัฒน์ สุดสุข นายอำเภอกาบเชิง จ.สุรินทร์ได้เดินทางขึ้นมาประสานงานกับ พ.อ.อดุล บุณธรรมเจริญ ผู้บังคับการกรมทหารที่ 26 เพื่อติดตามสถานการณ์ความตึงเครียดของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดทั้งวันอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเตรียมประสานการสนับสนุนกับเจ้าหน้าที่ทหารพรานในการป้องกันรักษาอธิปไตยของประเทศชาติ อย่างเต็มขีดความสามารถ


