ตาเมือน-ตาควายปะทะอีก!
มีเสียงปืนดังขึ้นอีกที่บริเวณปราสาท ตาเมือนและตาควาย ด้าน รัฐบาลเขมร ออกแถลงการณ์รัฐบาลเขมร จะไม่อ่อนข้อไทยอีกแล้ว จำเป็นต้องตอบโต้คืน แม้กองทัพจะเจรจาหยุดยิง แต่กล่าวหาไทยยิงก่อน
มีเสียงปืนดังขึ้นอีกที่บริเวณปราสาท ตาเมือนและตาควาย ด้าน รัฐบาลเขมร ออกแถลงการณ์รัฐบาลเขมร จะไม่อ่อนข้อไทยอีกแล้ว จำเป็นต้องตอบโต้คืน แม้กองทัพจะเจรจาหยุดยิง แต่กล่าวหาไทยยิงก่อน
วิทยุบายน กัมพูชา คลื่น 95 .00 MHZ ตั้งอยู่ที่จังหวัดอุดรมีชัย ได้อ่านแถลงการณ์รัฐบาลกัมพูชา มีใจความว่า จากเหตุปะทะตามชายแดนจังหวัดสุรินทร์นั้น เป็นเพราะประเทศไทยไม่ได้ยึดถือตามสนธิสัญญาระหว่างประเทศที่ไทยและฝรั่งเศส ร่วมกันทำไว้ในอดีต ตลอดจนไทยไม่ยึดถือตามข้อตกลงความร่วมมือที่เคยทำกับกัมพูชาเมื่อปี พ.ศ.2542 แม้จะมีการเจรจาโดยพลโทธวัชชัย สมุทรสาคร มาทัพภาคที่ 2 และพลโท เจียมอน ผู้บัญชาการทหารภูมิภาคที่ 4 จังหวัดอุดรมีชัย กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 เมษายน แล้วก็ตาม ฝ่ายไทยยังละเมิดข้อตกลงแอบซุ่มยิงทหารกัมพูชาอีกเมื่อคืนที่ผ่านมาทำให้เกิดการปะทะเดือดอีกรอบบริเวณปราสาทตากระไบ(ตาควาย)และปราสาทตาเมือนธม จนมีทหารเสียชีวิตทั้งสองฝ่าย ทำให้รัฐบาลกัมพูชาจำเป็นต้องตอบโต้คืน และจากเหตุการณ์นี้ กัมพูชาขอเรียกร้องถึงสหประชาชาติรีบจัดส่งกองกำลังนานาชาติเข้าควบคุมสถานการณ์ และอาเซียนควรผลักดันให้ยูเนสโกช่วยเหลือให้มีการขึ้นทะเบียนมรดกโลกทันที แม้จะมีเหตุการณ์ปะทะ ต่อจากนี้ไปกัมพูชาจะไม่ยอมเจรจากับไทยอีกในทุกระดับ ต้องยูเอ็นเข้ามาเท่านั้น ในขณะเดียวกัน ทางรัฐบาลกัมพูชาได้สั่งอพยพประชาชนที่อยู่ริมชายแดนไทย กัมพูชา ในรัศมี 20 กิโลเมตร ออกเข้าไปพักในที่ปลอดภัย จำนวนกว่า 35,000 คนในช่วงเช้าวันนี้ เพื่อความปลอดภัยหลังจากมีกระสุนปืนใหญ่จากไทยตกลงในพื้นที่พลเรือนจำนวนมากและในขณะนี้ยังมีการอพยพอย่างต่อเนื่อง โดยระบุว่าอาจมีการสู้รบหนักหน่วงกว่าเดิมเพราะสภาสูงกัมพูชาอนุมัติเปิดไพเขียวให้ทหารสู้เต็มตัวได้ เพื่อป้องกันการรุกรานจากไทย
ชาวบ้านครวญวิทยุไทยมีแต่เปิดเพลง
ขณะเดียวกันประชาชนไทยตามริมชายแดนที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบ โอดครวญว่าวิทยุหรือสื่อกัมพูชาทั้งประเทศต่างร่วมมือกันเป็นหนึ่งระดมกล่าวโจมตีประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ถ่ายทอดสัญญาณเสียงผ่านเครือข่ายทั่วประเทศ แต่วิทยุหรือสื่อในไทยกลับมีแต่เปิดเพลง เปิดละคร วิทยุชุมชนในพื้นที่ ที่ออกอากาศคลื่นเดียวกันกลับโฆษณาขายแต่น้ำผลไม้ ไม่สนใจเหตุการณ์บ้านเมือง ทำเหมือนเหตุการณ์ปกติ ทั้งที่ชาวบ้านเดือดร้อนอพยพหนีตายขณะนี้กว่า 41,000 คน รวม 37 ศูนย์อพยพไปแล้ว จึงขอเรียกร้องฝ่ายบ้านเมืองสั่งปิดสถานีวิทยุชุมชนเหล่านั้นเพื่อจะได้รับฟังความเคลื่อนไหวจากวิทยุกัมพูชามากขึ้น
อีกทั้งอยากเรียกร้องให้ฝ่ายทหารหน่วยประชาสัมพันธ์ตอบโต้การกระจายข่าวที่กัมพูชากล่าวโจมตีไทยบ้าง เราฟังจนรู้สึกเหมือนว่าเรากำลังแพ้ในการสื่อเผยแพร่ข่าว เพราะยังไม่เคยได้ยินทางทหารไทยโต้ข่าวเรื่องเหล่านี้เลย
ส่วนผลการเจรจาที่บอกว่าจะมีการเปิดด่านถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ด อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ให้ประชาชนทั้งสองประเทศผ่านเข้าออกได้ในวันที่ 29 เมษายน 2554 เวลา 10.00 น.นั้น เป็นเพียงแค่แนวทาง หากยุติการสู้รบ ก็จะเปิดด่านผ่านแดน แต่หากยังสู้รบ กันอยู่ ยังไม่มีการเปิดด่านแต่อย่างใด
การค้าชายแดนเงียบเหงา
ตลาดการค้าชายแดนไทย กัมพูชา ช่องจอม ยังร้างผู้คนเช่นเดิม มีเพียงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตลาดมาดูแลข้าวของ สินค้าที่ยังตกค้างตามร้านค้าของบรรดาพ่อค้า แม่ค้าชาวกัมพูชาที่เก็บออกไปยังไม่หมดเท่านั้น บรรยากาศเงียบเหงา ทำให้สูญเสียรายได้จำนวนมาก เพราะตลาดแห่งนี้เป็นตลาดกระจายสินค้าและสร้างรายได้ได้เปรียบดุลการค้ากัมพูชาจำนวนมาก
อพยพชาวบ้านต่อเนื่อง
ส่วนบรรยากาศตามหมู่บ้านต่างๆริมชายแดนหลังจากมีการอพยพออกนอกพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอดแนวชายแดนลึกไปเป็นระยะทางกว่า20 กิโลเมตรแล้ว บรรยากาศเงียบเหมือนหมู่บ้านร้างมีเพียงรถบรรทุกทหารวิ่งผ่านไปมาตลอดวัน ยังมีชาวบ้านจำนวนหนึ่งที่ยังต้องดูแลบ้าน และห่วงทรัพย์สิน ต่างพากันขุดหลุมหลบภัยและสร้างบังเกอร์หลบภัยด้วยตนเอง นายชัยวัชระ ประยงค์หอม อายุ 45 ปี ชาวบ้านหินโคน หมู่ที่ 2 ต.โคกตะเคียน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เล่าว่า ตนลงมือสร้างหลุมหลบภัยก่อด้วยอิฐถือปืน ความหนา 50 เซนติเมตร กว้างยาวกว่า 3 เมตร จำนวน 2 ห้อง ด้วยตนเองเป็นงบประมาณกว่า 20,000 บาท จุคนได้ไม่ต่ำกว่า 30 คน เพื่อไว้สำหรับการหลบลูกปืนใหญ่ที่มักจะตกลงมารอบบริเวณหมู่บ้านโดยเฉพาะเมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา มีลูกจรวดจากปืน บีเอ็ม 21 ของกัมพูชาที่ยิงมาตกลงห่างหมู่บ้านแห่งนี้เพียง 500 เมตร กว่า 20 ลูก ชาวบ้านหนีตายกันจ้าละหวั่น ดีที่ลงในทุ่งนาไม่ลงในหมู่บ้าน ตนทำไว้สำหรับครอบครัวและชาวบ้านข้างเคียงที่จะมาหลบด้วยกัน หากรองบจากทางราชการคงตายก่อนแน่นอน และยังมีชาวบ้านอีกหลายคนกำลังเร่งสร้างหลุมหลบภัยไว้เช่นเดียวกัน
สำหรับพื้นที่การสู้รบในเขตบริเวณปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก กำลังทหารราบจากจังหวัดสระบุรี จำนวน 745 นายเดินทางมาถึงและเข้าประจำฐานปฏิบัติการร่วมกับกองกำลังหน่วยรบพิเศษ ลพบุรี เรียบร้อยแล้ว ส่วนการให้ขวัญและกำลังใจจากแนวหลังสู่แนวหน้ายังคงมีอย่างต่อเนื่อง
กลุ่มโจ๋เดอะแก๊งค์เข้าแจกน้ำ-อาหารให้ผู้อพยพ
โดยในวันนี้มีกลุ่มวัยรุ่นชื่อเดอะแก็งค์ เป็นชายหญิงอายุระหว่าง18-21 ปี จำนวน 20 คน นำสิ่งของ อาหารสำเร็จรูป น้ำดื่ม เข้าไปมอบเพื่อช่วยเหลือให้หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 26 ฐานปฏิบิตการช่องจอม พร้อมกล่าวขอบคุณทหารที่ช่วยปกป้องอธิปไตยของไทย ขอให้มีกำลังใจและมีสุขภาพแข็งแรง สามารถต่อสู้กับศัตรูผู้รุกรานได้ตลอดไป ขณะที่ศูนย์อพยพทุกแห่งมีชาวบ้านร่วมกันนำสิ่งของมามอบช่วยเหลือไม่ขาดระยะ โดยในขณะนี้ศูนย์อพยพที่เปิดใหม่กว่า 10 ศูนย์ ทางจังหวัดได้ส่งเจ้าหน้าที่ เข้าไปดูแลอย่างเต็มที่แล้ว
ปิดรพ.พนมดงรัก
สำหรับที่ที่ว่าการอำเภอพนมดงรัก โรงพยาบาลพนมดงรัก ที่ทางทหารประกาศเป็นพื้นที่เสี่ยงห้ามบุคคลทั่วไปและสื่อเข้า ไปทำข่าวนั้น ปรากฏว่า ในโรงพยาบาล ได้มีคำสั่งสละโรงพยาบาลหมดแล้ว มีการอพยพพยาบาล แพทย์ ผู้ป่วย ออกนอกพื้นที่ไปหมดแล้ว ที่เหลืออยู่มีเพียงหน่วยกู้ชีพตาเมียง หน่วยกู้ภัยสุรินทร์ และหน่วยพยาบาลทหารเพียงไม่กี่นายที่มีจิตอาสากล้าเสี่ยงภัย ที่รอรับผู้บาดเจ็บจากการปะทะเพื่อส่งต่อโรงพยาบาลปราสาท เท่านั้น
ส่วนเหตุปะทะกันวันนี้ตั้งแต่ช่วงเช้ายังไม่มีเหตุเกิดขึ้น ยังคงเงียบแต่ทหารไทยก็ยังไม่ไว้วางใจคุมเข้มตลอดเวลา
ปะทะอีก!ตาเมือน-ตาควาย
ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ได้เกิดเหตุการณ์ประทะกันอีกครั้งระหว่างทหารไทยและกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควาย โดยมีการใช้อาวุธประจำกายปืนเล็กและปืน ค. ยิงเข้าใส่กัน เสียงดังสนั่นจนถึงอำเภอพนมดงรัก จนถึงขณะนี้ยังมีเสียงปืนดังไม่หยุด และตอนนี้ยังไม่มีรายงานว่ามีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต


