posttoday

ชายแดนเขมรเดือดบานปลายพื้นที่การรบขยายถึงสุรินทร์

23 เมษายน 2554

โดย...ทีมข่าวภูมิภาค

โดย...ทีมข่าวภูมิภาค

ชายแดนเขมรเดือดบานปลายพื้นที่การรบขยายถึงสุรินทร์

แม้การปะทะระหว่างทหารไทยและกัมพูชาบริเวณปราสาทตาควาย ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เมื่อเช้าตรู่วันที่ 22 เม.ย. จะยุติลงหลังจากทั้งสองฝ่ายใช้สรรพอาวุธตอบโต้กันนานกว่า 4 ชั่วโมง มาตรการทางทหารยุติลงชั่วคราว ขณะที่กระบวนการทางการทูตกำลังเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งและที่น่าจับตายิ่งก็คือ นี่คือครั้งแรกที่แนวปะทะผลพวงความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ขยายจากปราสาทพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ ออกมายังพื้นที่อื่น
         
เหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 06.00 น.ทหารกัมพูชาซึ่งวางกำลังอยู่ติดกับฝ่ายไทยได้เริ่มโจมตีฐานที่ตั้งของทหารไทยที่บริเวณปราสาทตาควาย และลุกลามไปจนถึงปราสาทตาเมือน แนวปะทะระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร การปะทะเริ่มจากอาวุธประจำกายกระทั่งฝ่ายกัมพูชายิงปืนใหญ่ตกฝั่งไทย บ้านเรือนราษฎรเสียหาย 1 หลัง ฝ่ายไทยจึงตอบโต้ด้วยปืนใหญ่กลับไป กระทั่งเวลาประมาณ 10.20 น. เสียงปืนทุกชนิดจึงยุติลง ฝ่ายไทยมีทหารเสียชีวิต 4 นาย บาดเจ็บ 14 นาย
         
สำหรับทหารที่สละชีวิตเพื่อชาติประกอบด้วยจ.ส.อ.วิทยะ สวนชูผลสังกัดกองร้อยทหารพรานจู่โจมที่ 960 เสียชีวิตที่จุดปะทะปราสาทตาเมือนธม จ.ส.อ.บุญรัตน์ สุขจิตร ส.อ.ประเวช หาราช และพลทหารอีกหนึ่งนายยังไม่ทราบชื่อ สังกัดกองร้อยทหารพราน2606 เสียชีวิตที่จุดปะทะปราสาทตาควาย
         
ระหว่างการปะทะ ฝ่ายปกครองได้อพยพราษฎรบ้านไทยสันติสุขและพื้นที่ใกล้เคียง 7,000 คนออกนอกพื้นที่ เพื่อความปลอดภัยจนกว่าสถานการณ์จะสงบโดย จ.สุรินทร์ ได้จัดเตรียมอาหาร ตลอดจนสิ่งของจำเป็นต่างๆ ตามแผนรองรับผู้อพยพหลังจากเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้ที่ จ.ศรีสะเกษ เมื่อต้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา
         
ผลพวงสถานการณ์ที่ยังไม่น่าวางใจทำให้ พล.ท.ธวัชชัยสมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 มีคำสั่งปิดด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ และจุดผ่านแดนช่องสะงำอ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ทันที

ลำดับเหตุการณ์ไทย-กัมพูชา

ก.ค. 2550 กัมพูชาเสนอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก
18 มิ.ย. 2551 นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ ลงนามในแถลงการณ์ร่วมสนับสนุนกัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร
8 ก.ค. 2551 ที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ที่นครควิเบก ประเทศแคนาดาประกาศขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก
ก.ค. 2551 กองกำลังสุรนารี ส่งกำลังเข้าไปยังพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร เพื่อรักษาสิทธิอธิปไตย
15 ต.ค. 2551 เกิดการปะทะครั้งแรกระหว่างทหารไทย-กัมพูชารอบปราสาทพระวิหาร ไทยและกัมพูชาเสียชีวิตฝ่ายละ 1 นาย
3 เม.ย. 2552 เกิดการปะทะครั้งที่ 2 ไม่มีผู้เสียชีวิต
24 ม.ค. 2553 เกิดการปะทะครั้งที่ 3 ไม่มีผู้เสียชีวิต
4 ก.พ. 2554 เกิดการปะทะด้วยอาวุธหนักตลอดแนวเผชิญหน้า และเกิดการปะทะต่อเนื่องกันมาอีกหลายครั้ง ฝ่ายไทยเสียชีวิต 5 นาย
14 ก.พ. 2554 ที่ประชุมยูเอ็นเอสซี มีมติให้ไทยและกัมพูชาร่วมเจรจา โดยให้อินโดนีเซียในฐานะประธานอาเซียนเป็นคนกลางเจรจา
19 เม.ย. 2554 รัฐสภามีมติถอนการพิจารณากรอบการเจรจาเจบีซีไทยกัมพูชา

ผบ.ทบ.ยืนยัน'ตอบโต้ตามสมควร'
         
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) แถลงยืนยันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ทหารไทยกับกัมพูชาวางกำลังห่างกันประมาณ 100 เมตร แต่ช่วงเช้าวันที่ 22 เม.ย. ได้ตรวจพบการเคลื่อนไหวของฝ่ายกัมพูชาทางด้านตะวันออกของปราสาทตาควาย ฝ่ายไทยจึงจัดกำลังออกไปตรวจสอบ
         
"เราพยายามเจรจาให้เขาถอนกำลังออก ฝ่ายโน้นได้ใช้อาวุธกับเราก่อนจึงได้โต้ตอบ ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธขนาดหนักมากขึ้น เริ่มตั้งแต่ ค.120 ขึ้นมาไปจนถึงปืนใหญ่จรวด ตามลำดับ มีกระสุน 3 นัดตกเข้ามาในพื้นที่พลเรือนหมู่บ้านของไทย เราได้มีการตอบโต้ตามสมควร"
         
ผบ.ทบ.ฉายภาพเหตุการณ์ในพื้นที่ต่อว่า กระทั่งเวลาประมาณ 10.30 น. การปะทะก็ได้ยุติ โดยได้ประสานไปยังฝ่ายกัมพูชา แต่อุปสรรคที่การปะทะยืดเยื้อใช้เวลานาน เนื่องจากอุปสรรคการสื่อสารของฝ่ายกัมพูชาเอง
         
"พื้นที่ปราสาทตาควายเป็นป่าเขา ทั้งสองฝ่ายพยายามพูดคุยกันให้อยู่ในจุดที่ตรวจการได้ และจะไม่เข้าไปในปราสาทเนื่องจากยังเป็นพื้นที่มีปัญหา เมื่อยิงปืนใหญ่มาเราก็โต้ตอบ ฝ่ายกัมพูชาขอให้หยุดยิง พอเราหยุดเขาก็เริ่มใช้กลับมาอีก ไม่เข้าใจสาเหตุเหมือนกัน เราจะตอบโต้เท่าที่จำเป็น แต่วันนี้เขาใช้มากกว่าเรา" ผบ.ทบ. กล่าว

เปิดศึกการทูต ชิงนำฟ้องสังคมโลก

หลังการปะทะยุติลง ทั้งสองประเทศต่างรีบชี้แจงเหตุการณ์ โดยต่างกล่าวหากันว่าอีกฝ่ายเป็นผู้เริ่มละเมิดอธิปไตยกันและกันก่อน   นายกษิต ภิรมย์รมว.ต่างประเทศ เปิดเผยว่า เตรียมออกหนังสือเชิญนางยูออย เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย เพื่อประท้วงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ ขณะเดียวกันก็เตรียมออกแถลงการณ์ชี้แจงประชาคมโลก ส่วนการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมเขตแดนไทย-กัมพูชา ทุกระดับยังคงดำเนินการต่อไป ขณะที่ในเดือน พ.ค.นี้ ทูตยูเนสโกได้ประสานไทยและกัมพูชาได้หารือกัน ก่อนที่จะถึงการประชุมมรดกโลกในเดือน มิ.ย.
         
ด้านนายฮอร์นัมฮงรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศกัมพูชา ยืนยันว่า ไทยเป็นผู้รุกราน ละเมิดข้อตกลงที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหรือ UNSC เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา การพยายามในการเรียกร้องเจรจาทวิภาคีของไทยนั้นเป็นเรื่องหลอกลวง เพราะเมื่อสบโอกาสก็ใช้กำลังเข้ารุกรานกัมพูชาตลอดเวลา

 

ข่าวล่าสุด

"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณส่งออกน้ำมัน ทางบก-เรือ พร้อมร่วมมือกองทัพสกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา