posttoday

การเมืองดุรับเลือกตั้งซุ้มมือปืนรับจ้างงานชุก

09 มีนาคม 2554

ยังไม่ทันมีความชัดเจนว่าเลือกตั้งใหญ่จะเป็นเดือนไหน วันใด การเมืองก็เริ่มดุเสียแล้ว ทั้งเสียงปืน เสียงระเบิดดังสนั่น

ยังไม่ทันมีความชัดเจนว่าเลือกตั้งใหญ่จะเป็นเดือนไหน วันใด การเมืองก็เริ่มดุเสียแล้ว ทั้งเสียงปืน เสียงระเบิดดังสนั่น

ส่งผลให้นักการเมืองท้องถิ่นบางรายถูกกระชากวิญญาณไปจากร่าง บางคนก็บาดเจ็บ ไล่เรียงตั้งแต่ จ.ปราจีนบุรี ราชบุรี และนนทบุรี เปิดศักราชประเดิมเหตุการณ์เลือดไปอย่างดุเดือด จัดหนักมาทั้งกระสุนและระเบิด เป็นที่สะเทือนขวัญกันไปทั้งบาง

การเมืองดุรับเลือกตั้งซุ้มมือปืนรับจ้างงานชุก

ไล่เรียงตั้งแต่ต้นเดือน มี.ค. นายโกวิทย์ เจริญนนทสิทธิ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบางบัวทอง จ.นนทบุรี ถูกยิงที่หน้าบ้านพักตัวเอง ห่างจาก สภ.บางบัวทอง เพียงไม่กี่เมตร ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตหลังนำส่งโรงพยาบาล

นายโกวิทย์ มีฐานเสียงแน่นในพื้นที่ และประกาศตัวจะส่งพี่ชายลงเลือกตั้ง สส.สังกัดพรรคเพื่อไทย แต่ก็มาถูกยิงตายก่อนวันจัดงานเลี้ยงเปิดตัวพี่ชายลงเลือกตั้ง สส.เพียงวันเดียว

นายอะนนท์ เจริญสุข นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ก็ถูกคนร้ายลอบติดตั้งระเบิดไว้ใต้รถยนต์แลนด์ครุยเซอร์ ใช้โทรศัพท์มือถือเป็นตัวกดชนวนระเบิด ทำให้นายอะนนท์ขาขาดทั้งสอง ข้างทันที ปมหนึ่งที่ตำรวจตั้งไว้คือเรื่องการเมือง เนื่องจากนายอะนนท์เป็นเลขานุการ นายชยุต ภุมมะกาญจนะ สส.ปราจีนบุรี พรรคกิจสังคม

อีกคดีที่นักการเมืองตกเป็นเหยื่อก็โหดไม่แพ้กัน นายมะนิ เม่งเวหา ประธานสภาเทศบาลตำบลกรับใหญ่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ถูกยิง แต่เคราะห์ดีที่เฉี่ยวปลายจมูกไปอย่างหวุดหวิด ในขณะที่ นายพิชิต พันธ์เพียร อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลกรับใหญ่ ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลกรับใหญ่ ถูกยิงเข้าที่คอด้านขวาได้รับบาดเจ็บสาหัสในเหตุการณ์เดียวกัน ตำรวจตั้งข้อสันนิษฐานเป็นการเมืองท้องถิ่น เพราะนายพิชิต อดีตนายกเทศมนตรี เพิ่งลาออก แล้วไปสนับสนุนคนใกล้ชิดลงสมัครจนชนะการเลือกตั้ง

ถ้าดูทั้ง 3 เหตุการณ์ จะพบว่าแนวโน้มความรุนแรงจะมีมากขึ้น แม้จะยังไม่ชัดเจน 100% ว่ามาจากเหตุผลทางการเมืองหรือไม่ แต่ถ้าพินิจพิเคราะห์ให้ดี ก็เนื่องมาจากนักการเมืองบางกลุ่มไม่ได้รับความเป็นธรรมในการใช้กติกาทางสังคม และยังมีนักการเมืองบางกลุ่มอาศัยอำนาจเถื่อนและอิทธิพลที่เหนือกว่ากำจัดคู่แข่งทางการเมืองที่มีต้นทุนทางสังคมที่ดีกว่า

ฉะนั้น กลไกสำคัญอยู่ที่อำนาจรัฐว่าจะกล้าปราบปรามกลุ่มอิทธิพลจริงหรือไม่ หรือกลัวว่ายิ่งสาวลึกเข้าไปจะไปเจอพวกเดียวกันเอง ถ้ารัฐบาลมีความจริงใจต้องทำงานอย่างตรงไปตรงมา ไม่ลูบหน้าปะจมูก

อย่างไรก็ตาม การที่คนร้ายกล้านำอาวุธสงครามและระเบิดมาถล่มคู่ต่อสู้ ก็ส่งสัญญาณชัดว่าการเลือกตั้งในเวลาไม่ช้าเกินรอนี้ต้องดุเดือดแน่นอน ซึ่งเป็นผลดีต่อคนบางกลุ่มที่อยู่เหนือกฎหมาย โดยเฉพาะมือปืนซุ้มต่างๆ ถือว่ากำลังเข้าสู่ช่วงไฮซีซัน เตรียมกอบโกยงานและเงิน

เทศกาลฆ่าหัวคะแนนหรือนักการเมือง ตำรวจเองก็กำลังจับตาอย่างใกล้ชิด โดยทางทีมงานสืบสวนอยู่ระหว่างหาข้อมูลว่ามือปืนมาจากกลุ่มใดบ้าง การสืบสวนจะเอาคดีที่เคยเกิดขึ้นช่วงเลือกตั้งที่ผ่านมาทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติมาเป็นสถิติ ส่วนประเด็นชู้สาวและขัดผลประโยชน์ทางธุรกิจก็ไม่ทิ้งที่จะนำมาประมวลด้วย เพียงแต่ต้องพิจารณาแต่ละคดีๆ ไป และปมสังหารที่คลี่คลายคดีได้ส่วนใหญ่ไม่เคยพ้นเรื่องการเมืองที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทางธุรกิจ

สำหรับซุ้มมือปืนที่ “ชุดป้องกันปราบปรามมือปืนรับจ้าง” สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) สืบพบว่ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาคตั้งแต่ภาค 19 (บช.ภ.19) และกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) มี “ซุ้มมือปืน” อยู่ประมาณ 142 ซุ้ม โดยจำนวนมือปืนไม่น้อยกว่า 1,300 คน

พื้นที่ “บช.ภ.1” รับผิดชอบภาคกลาง มีมือปืนฝังตัวอยู่มากที่สุด คือ 236 คน ซุ้มมือปืนที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่คือ “ซุ้มจ่า ม.” มีนักฆ่า 8 คน เป็นตำรวจทหารชั้นประทวน

“บช.ภ.2” มีซุ้มมือปืนทั้งสิ้น 21 ซุ้ม แยกเป็นที่ จ.ชลบุรี มากที่สุด 11 ซุ้ม รวมแล้วมีมือปืนไม่ต่ำกว่า 80 คน เจ้าของซุ้มส่วนใหญ่เป็นนักการเมืองท้องถิ่นและคนในเครื่องแบบ

“บช.ภ.3” พื้นที่อีสานตอนล่าง พบว่ามีมือปืนเคลื่อนไหวอยู่ถึง 122 คน ส่วน “บช.ภ.4” อีสานตอนกลางถึงบน ไม่มีซุ้มมือปืน แต่มีมือปืนอิสระเคลื่อนไหวประมาณ 40 คน

“บช.ภ.5” พื้นที่ภาคเหนือตอนบน เป็นเขตอิทธิพลของนายทหารคนหนึ่ง กลุ่มลูกน้องคนสนิทส่วนใหญ่จะเป็นทหาร รวม 17 ซุ้ม มีมือปืนมากกว่า 200 คน เจ้าของซุ้มคือนักการเมืองที่ใกล้ชิดกับคนมีสี เฉพาะ จ.เชียงใหม่ มีนักล่าค่าหัวไม่ต่ำกว่า 60 คน

“บช.ภ.6” ภาคเหนือตอนล่าง มีมือปืน 64 คน สังกัด 8 ซุ้มมือปืนใหญ่ กับ 2 กลุ่มเล็กใน 9 จังหวัด ซุ้มที่ดังที่สุดคือ ซุ้มนาย ป. ซุ้มตากฟ้า ซุ้มตาคลี และซุ้มไพศาลี ในเขตปากน้ำโพนครสวรรค์

“บช.ภ.7” พื้นที่ภาคกลางตอนล่าง ได้ชื่อว่ามีซุ้มมือปืนมากที่สุด 82 ซุ้ม มากที่สุดคือ จ.เพชรบุรี 23 ซุ้ม จ.สุพรรณบุรี และประจวบคีรีขันธ์ 14 ซุ้ม

ส่วน “บช.ภ.8” ปักษ์ใต้ตอนบน นับซุ้มมือปืนได้ทั้งหมด 24 ซุ้ม มีมือปืนอยู่ 197 คน แต่ซุ้มใหญ่จะเคลื่อนไหวอยู่ที่ จ.นครศรีธรรมราช และสุดท้าย “บช.ภ.9” ภาคใต้ตอนล่าง มีซุ้มมือปืน 11 ซุ้ม อยู่ใน จ.ยะลา 5 ซุ้ม และสงขลา 2 ซุ้ม

ขณะที่พื้นที่ “บช.น.” มีมือปืนเคลื่อนไหวอยู่ราวๆ 125 คน แต่ไม่มีซุ้มมือปืน นักฆ่าส่วนใหญ่เป็นมือปืนจากต่างจังหวัดแทบทั้งสิ้น ทั้งหมดนี้ สตช.จับตาการเคลื่อนไหวในช่วงเลือกตั้งเป็นพิเศษ

 

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด บีจี ปทุม พบ เมืองทอง ฟุตบอลไทยลีก วันนี้ 14 ธ.ค.68