บุกเดี่ยวชิงทรัพย์บริษัทยูเนี่ยนฯ กวาด 5 แสน
คนร้ายบุกเดี่ยว ใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ในบริษัทสหยูเนี่ยน ลาดพร้าว 80 หลบหนีเข้ากลีบเมฆ เมื่อเวลา 11.30 น. พ.ต.ท.วิศว ตุวยานนท์ พนักงานสอบสวน(สบ2) สน.วังทองหลาง รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนบุกเดี่ยวจี้ชิงทรัพย์ภายในบริษัทสหยูเนี่ยน จำกัด (มหาชน) และบริษัทในกลุ่ม เขตลาดพร้าว ถนนลาดพร้าว ซอยลาดพร้าว 80 แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาแล้วรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.สาโรช ซุ่นทรัพย์ ผบก.น.4 พ.ต.อ.ธวัช วงศ์สง่า ผกก.สน.วังทองหลาง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.วังทองหลาง และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณชั้น 1 ซึ่งเปิดเป็นสหกรณ์ออมทรัพย์ พบน.ส.สุนีรัตน์ เพื่อนชอบ อายุ 49 ปี พร้อมด้วยพนักงานจำนวน 5 คน ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยอาการตื่นตระหนก โดยลิ้นชักที่เคานท์เตอร์ถูกเปิดทิ้งไว้ ส่วนเงินสดที่เก็บเอาไว้ภายในถูกคนร้ายขโมยไป รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 562,000 บาท เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจึงทำการเก็บลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายในที่เกิดเหตุไปตรวจสอบ พ.ต.อ.ธวัช เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุพนักงานของบริษัทสหยูเนี่ยนฯ จำนวน 5 คน กำลังปฏิบัติหน้าที่ทำธุรกรร
คนร้ายบุกเดี่ยว ใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ในบริษัทสหยูเนี่ยน ลาดพร้าว 80 หลบหนีเข้ากลีบเมฆ
เมื่อเวลา 11.30 น. พ.ต.ท.วิศว ตุวยานนท์ พนักงานสอบสวน(สบ2) สน.วังทองหลาง รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนบุกเดี่ยวจี้ชิงทรัพย์ภายในบริษัทสหยูเนี่ยน จำกัด (มหาชน) และบริษัทในกลุ่ม เขตลาดพร้าว ถนนลาดพร้าว ซอยลาดพร้าว 80 แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาแล้วรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.สาโรช ซุ่นทรัพย์ ผบก.น.4 พ.ต.อ.ธวัช วงศ์สง่า ผกก.สน.วังทองหลาง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.วังทองหลาง และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณชั้น 1 ซึ่งเปิดเป็นสหกรณ์ออมทรัพย์ พบน.ส.สุนีรัตน์ เพื่อนชอบ อายุ 49 ปี พร้อมด้วยพนักงานจำนวน 5 คน ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยอาการตื่นตระหนก โดยลิ้นชักที่เคานท์เตอร์ถูกเปิดทิ้งไว้ ส่วนเงินสดที่เก็บเอาไว้ภายในถูกคนร้ายขโมยไป รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 562,000 บาท เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจึงทำการเก็บลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายในที่เกิดเหตุไปตรวจสอบ
พ.ต.อ.ธวัช เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุพนักงานของบริษัทสหยูเนี่ยนฯ จำนวน 5 คน กำลังปฏิบัติหน้าที่ทำธุรกรรมเบิกถอนเงินและจ่ายค่างวดเงินกู้ให้กับพนักงานในบริษัท จากนั้นก็มีคนร้ายเป็นชาย 1 คน อายุประมาณ 30 ปี สูง 165 เซนติเมตร รูปร่างสันทัด ผิวดำแดง สวมเสื้อยืดสีแดง คลุมทับด้วยแจ็คเก็ตสีดำ สวมหมวกกันน็อคเต็มใบสีดำ และใส่ถุงมือสีดำ ขี่รถจยย.แบบผู้หญิง ไม่ทราบยี่ห้อ รุ่นและทะเบียน มาจอดที่หน้าสหกรณ์ จากนั้นก็เดินเข้ามาด้านในอย่างใจเย็นและใช้อาวุธปืนลูกโม่ขนาด.38 จี้บังคับให้พนักงานอยู่ในความสงบ ก่อนจะกระโดดข้ามเคานท์เตอร์ไปเปิดลิ้นชัก กวาดเงินไปกว่า 5 แสนบาท แล้ววิ่งมาขึ้นรถจยย.ที่จอดไว้หลบหนีไป ใช้เวลาปฏิบัติการ 1 นาที
พ.ต.อ.ธวัช กล่าวอีกว่า หลังก่อเหตุคนร้ายได้ขี่รถจยย.หลบหนีไปทางริมคลองสะพานปูน ซึ่งเป็นทางออกที่อยู่ด้านข้างของบริษัท โดยทางออกดังกล่าวไม่มีพนักงานรปภ.และไม่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเอาไว้ อีกทั้งยังเป็นเส้นทางที่ทะลุไปยังชุมชนต่างๆได้ คาดว่าคนร้ายน่าจะรู้เส้นทางภายในบริษัทเป็นอย่างดี และมีการดูลาดเลาเอาไว้ก่อนแล้ว จึงก่อเหตุในช่วงเวลากลางวันแสกๆได้อย่างใจเย็น ประกอบกับวันที่เกิดเหตุเป็นช่วงต้นเดือนคนร้ายอาจจะรู้ว่าพนักงานเข้ามาทำธุรกรรมหลายอย่างจนมีเงินเก็บไว้จำนวนมาก เลยเข้ามาก่อเหตุ จากการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ในสหกรณ์เบื้องต้นยังไม่ได้สงสัยพนักงานคนใดในบริษัท เนื่องจากสหกรณ์ได้เปิดทำการมานานกว่า 30 ปี ก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
"แต่จากการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ระดับสูงและพนักงานภายในบริษัท พบว่ามีคนงานจำนวนหนึ่งได้ถูกไล่ออกไปและบางส่วนก็ลาออก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบประวัติของพนักงานทั้งหมดที่ออกจากบริษัทไป รวมถึงคนในที่มีประวัติ พร้อมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางในละแวกที่เกิดเหตุอย่างละเอียด เพื่อเป็นเบาะแสในการติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดี อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนนำกำลังไปตรวจค้นภายในห้องพักของพนักงานคนหนึ่ง ย่านรามคำแหงแล้ว ซึ่งทางผู้บังคับบัญชาได้เน้นย้ำให้ทำงานด้วยควาามรอบคอบและเร่งรัดให้จับกุมให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ หลังจากนี้จะส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจตราภายในบริษัทให้บ่อยขึ้น และประสานกับทางบริษัทให้จัดรปภ.มาดูแลความปลอดภัยหน้าสหกรรณ์และทางเข้าออกทั้งหมด" พ.ต.อ.ธวัช กล่าว


