posttoday

ไทยเสริมรถถังปรามเขมร

09 กุมภาพันธ์ 2554

รถถังจำนวน 20 คัน จากกองพลทหารม้าที่ 2เข้ามาเตรียมพร้อมที่กรมทหารพรานที่ 23 ค่ายพิทักษ์อุทุมพรเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ตั้งแต่เช้ามืดวันที่ 9 ก.พ.หลังมีการเสริมปืนใหญ่เข้าพื้นที่มาก่อนแล้ว

รถถังจำนวน 20 คัน จากกองพลทหารม้าที่ 2เข้ามาเตรียมพร้อมที่กรมทหารพรานที่ 23 ค่ายพิทักษ์อุทุมพรเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ตั้งแต่เช้ามืดวันที่ 9 ก.พ.หลังมีการเสริมปืนใหญ่เข้าพื้นที่มาก่อนแล้ว

แม้การเปิดฉากดวลอาวุธหนักระหว่างไทยและกัมพูชา จะสงบลงกว่า 2 วันแล้ว แต่การปะทะกันระหว่างทหารทั้งสองฝ่ายตามแนววางกำลังโดยเฉพาะภูมะเขือ ด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของปราสาทพระวิหาร ยังคงเกิดขึ้นเป็นระยะ โดยเฉพาะช่วงวันที่ 8 ก.พ. มีการปะทะเกิดขึ้นหลายครั้ง แต่เป็นการปะทะเล็กน้อยด้วยอาวุธปืนเล็กประจำกาย ยังไม่มีฝ่ายใดได้รับอันตราย ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากความเคลื่อนใจผิด เนื่องจากฝ่ายไทยมีการสับเปลี่ยนกำลัง โดยนำกำลังทหารซึ่งประจำการอยู่ตั้งแต่การปะทะเมื่อวันศุกร์ที่ 4 ก.พ.ลงมา และส่งกำลังชุดใหม่เข้าประจำการแทน แต่แม้สถานการณ์จะยังคงนิ่งเงียบ แต่ก็ไม่อาจวางใจได้

ไทยเสริมรถถังปรามเขมร รถถังทหารไทยประชิดชายแดน

"ฝ่ายกัมพูชาเขาก็เสริมกำลังพร้อม กลัวเราเข้าตี แต่เราก็ยืนยันไปตลอดว่าเราจะไม่มีการเคลื่อนกำลังโจมตีข้ามดินแดนโดยเด็ดขาด ความตึงเครียดในช่วงนี้เป็นเพราะต่างฝ่ายต่างระแวงกัน ฝ่ายประสานงานในระดับพื้นที่พยายามที่จะหาทางเจรจาทำความเข้าใจ แต่ฝ่ายเขาก็ไม่ยอมเจรจาด้วย เราก็เห็นว่า เจรจาไปก็คงไม่เกิดประโยชน์ เพราะเจรจาระดับพื้นที่ ระดับแม่ทัพเจรจาแล้ว แต่เขาก็ยังโจมตีอีก"แหล่งข่าวจากกองกำลังสุรนารีให้ข้อมูล

แม้ที่ผ่านมาการประสานงานระหว่าทหารของทั้งสองฝ่ายในพื้นที่เป็นไปด้วยดี นับตั้งแต่การปะทะที่เกิดขึ้นครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนเม.ย.2552 ก็ไม่เคยมีเหตุการณ์รุนแรงขึ้นอีกเลย กระทั่งตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ 7 คนไทย บุกรุกเข้าไปยังพื้นที่ซึ่งฝ่ายกัมพูชาอ้างสิทธิ และการชุมนุมประท้วงของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ให้รัฐบาลไทยใช้ความเด็ดขาดแก้ไขปัญหาเขตแดนกับกัมพูชา ก็มีการเปลี่ยนแปลงหน่วยทหารที่รับผิดชอบพื้นที่ เป็นพลจัตวา(พล.จ.) ฮุนมาเน็ต ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษ 911 และยังเป็นบุตรชายของนายกรัฐมนตรีฮุนเซนแห่งกัมพูชา ทำให้การประสานงานต่างๆ ไม่ราบรื่นเช่นเคย

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า แม้จะยังไม่มีการยืนยันเรื่องที่ พล.จ.ฮุนมาเน็ต ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบ แต่หากเป็นจริง ก็ไม่ใช่ข่าวดีสำหรับฝ่ายไทย เพราะการเป็นการเพิ่มเชื้อไฟแห่งความโกรธแค้นของชาวกัมพูชา เพราะมีข่าวว่านอกจากที่มั่น ยุทโธปกรณ์ เสียหายหนักแล้ว ฝ่ายกัมพูชายังเสียชีวิตอีกเป็นจำนวนมาก

ไทยเสริมรถถังปรามเขมร พล.ม.2พร้อมปกป้องอธิปไตย

"การที่ฝ่ายกัมพูชานิ่งอยู่ในช่วงนี้ อาจเป็นเพราะเขาต้องจัดระบบกำลังทหาร อาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่ รวมทั้งปัญหาการขาดแคลนเสบียง จากการปะทะกันและถูกฝ่ายเราตอบโต้อย่างหนักไปถึง 2 ครั้ง แต่หากเขาพร้อมกว่านี้ ก็ไม่แน่ว่าอาจเกิดการปะทะหนักขึ้นอีก สำหรับการเสริมกำลังของฝ่ายไทย เป็นไปตามแผนการซ้อมรบเดิมที่กำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว ซึ่งประจวบเหมาะกับสถานการณ์ในขณะนี้ อาจได้ประโยชน์ในการป้องปรามฝ่ายกัมพูชาอีกด้วย"

ไม่เพียงแต่สถานการณ์ด้านเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษเท่านั้น ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนตามแนวชายแดน ในพื้นที่ติดกันอย่างอ.น้ำขุ่น อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ซึ่งอยู่บริเวณแนวชายแดน ก็กังวลต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่น้อย

นายสุรพล  สายพันธ์  ผวจ.อุบลราชธานี กล่าวว่า ผลจากการปะทะทางทหารตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านจังหวัดศรีสะเกษได้ส่งผลกระทบถึงจังหวัดอุบลราชธานีโดยมีประชาชนได้อพยพเพื่อหนีภัยจากการปะทะกันดังกล่าวซึ่งจังหวัดอุบลราชธานีมีพื้นที่ติดกับประเทศกัมพูชา โดยมี  2 ส่วนคือ ผู้อพยพมาจากอำเภอกันทรลักษณ์จังหวัดศรีสะเกษ มาอาศัยอยู่ที่โรงเรียนน้ำขุ่นวิทยา ประมาณกว่า 5,000 คน และอีกส่วนประชาชนจากต.ศรีวิเชียรและใกล้เคียง มาอาศัยที่โรงเรียนบ้านปะขาว ตำบลบ้านบุเปือย อ.น้ำยืน อีกประมาณ 3,000 กว่าคน

นางหนูแดง  แสงเนตร ชาวบ้านโนน  อ.กัทรลักษณ์  ที่ได้อพยพครอบครัวกว่า 5 ชีวิต มาอยู่ในพื้นที่จ.อุบลราชธานี กล่าวว่าขณะนี้ชาวบ้านเริ่มล้มป่วยจากสภาพอากาศหนาวเย็นเป็นจำนวนมาก แพทย์ที่นำมาตั้งศูนย์ดังกล่าว ไม่เพียงพอ

"สมัยก่อนพื้นที่ด้านอ.น้ำขุ่น ช่องอานม้า อ.น้ำยืน ไปถึงช่องบก อ.บุณทริก เวลาเกิดการสู้รบกัน ทหารเขมร ก็จะบุกเข้ามา ทำให้ชาวบ้านเริ่มหวาดผวา ไม่กล้าอยู่ในพื้นที่"

ชาวบ้านในพื้นที่บ้านโศกขามป้อม เปิดเผยว่า ตั้งแต่เกิดสถานการณ์สู้รบขึ้น ก็มีการแจ้งข่าวให้ประชาชนในพื้นที่เฝ้าสอดส่องคนแปลกหน้าที่อาจเข้ามาในพื้นที่ ขณะที่นายทหารคนหนึ่ง ขอตรวจบัตรประจำตัวผู้สื่อข่าว ที่เข้าไปยังพื้นที่แนวชายแดน เนื่องจากเกรงว่า อาจเป็นสายลับของฝ่ายกัมพูชาแฝงตัวเข้ามา

"เห็นมั๊ยว่า ทำไมฝ่ายกัมพูชา จึงยิงจรวดเขามายังพื้นที่ชุมชนเหล่านี้ได้อยางแม่นยำ สร้างความเสียหายได้มากเช่นนี้ เพราะเขาต้องมีสายลับคอยแจ้งพิกัด รายงานผลการยิง" นายทหารคนหนึ่ง ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ ณ สามแยกบ้านภูมิซรอลกล่าว

ด้านพ.อ.อัครภณ ทองสุทธิ์ ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 56 สำนักงานพัฒนาภาค 5 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา สั่งการให้ กำลังพล ลงพื้นที่เยี่ยมเยี่ยนราษฎรและนำถุงยังชีพเข้ามอบให้กับผู้ลี้ภัยในเขตพื้นที่อ.น้ำขุ่น

ไทยเสริมรถถังปรามเขมร

 

ไทยเสริมรถถังปรามเขมร

 

ไทยเสริมรถถังปรามเขมร

 

ไทยเสริมรถถังปรามเขมร

 

ไทยเสริมรถถังปรามเขมร

 

ไทยเสริมรถถังปรามเขมร

 

ไทยเสริมรถถังปรามเขมร

 

ข่าวล่าสุด

ขนส่ง เตือน! รถติดถุงลมนิรภัยทาคาตะ เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต เช็ก-เปลี่ยนฟรี