posttoday

เลือกตั้ง69: บิ๊กป้อม เปิดใจวัย80 ถอยแคนดิเดตนายกฯ ยังคุมพปชร.

26 ธันวาคม 2568

พล.อ.ประวิตรเปิดใจวัย 80 ปี หลังรับอวยพรปีใหม่ ย้ำยังทำหน้าที่หัวหน้าพรรคเต็มตัว แม้ถอนตัวแคนดิเดตนายกฯ ท่ามกลางคลื่นลาออก ส.ส.พลังประชารัฐก่อนเลือกตั้ง

KEY

POINTS

  • พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในวัย 80 ปี ตัดสินใจถอนตัวจากการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ โดยให้เหตุผลด้านสุขภาพ
  • แม้จะถอนตัวจากแคนดิเดตนายกฯ แต่ พล.อ.ประวิตร ยังคงดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และไม่ได้วางมือทางการเมือง
  • พรรคพลังประชารัฐได้ปรับบัญชีรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ใหม่ โดยเสนอชื่อ น.ส. ตรีนุช เทียนทอง ขึ้นเป็นอันดับ 1 แทน

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ส่งสัญญาณชัดเจนถึงท่าทีทางการเมือง ภายหลังเปิดมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ให้ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำคณะกรรมการมูลนิธิฯ พร้อมด้วยเพื่อนร่วมรุ่นโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) รุ่น 17 เข้าพบเพื่ออวยพรและรับพรเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่

ช่วงหนึ่งของงาน พล.อ.ประวิตรกล่าวอวยพรผู้มาร่วมงานให้มีความสุขในวันปีใหม่ ก่อนจะมีผู้ร่วมงานแซวว่ายังดูหนุ่มและแข็งแรง ซึ่งเจ้าตัวตอบกลับอย่างอารมณ์ดีว่า “หนุ่มอะไร อายุ 80 ปี พอแล้ว” สะท้อนท่าทีผ่อนคลายท่ามกลางกระแสการเมืองที่กำลังเข้มข้น

นอกจาก พล.อ.อนุพงษ์ แล้ว ยังมีอดีตนายทหารระดับสูงเข้าร่วมอวยพรจำนวนมาก อาทิ พลเอก บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด, พลเอก อุดมเดช สีตบุตร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมและอดีตผู้บัญชาการทหารบก, พลเอก ณัฐ อินทรเจริญ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม, พลเอก เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม และพลเอก วลิต โรจนภักดี อดีตรองผู้บัญชาการทหารบก

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2568 นาย ไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคว่า พล.อ.ประวิตรได้ตัดสินใจถอนตัวจากบัญชีรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี อันดับ 1 ด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ แต่ยังคงดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค และไม่ได้วางมือทางการเมืองแต่อย่างใด โดยยังทำหน้าที่ลงนามรับรองเอกสารสำคัญของผู้สมัคร ส.ส. ทั้งระบบเขตและบัญชีรายชื่ออย่างครบถ้วน
 

ที่ประชุมพรรคมีมติปรับบัญชีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี โดยให้ น.ส. ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และเลขาธิการพรรค ขยับขึ้นเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี อันดับ 1 ขณะที่อันดับ 2 คือ นาย ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรค

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนธันวาคม 2568 ก่อนการเปิดรับสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้เกิดกระแสการลาออกของสมาชิกพรรคพลังประชารัฐอย่างต่อเนื่อง โดยนายธีระชัยได้ถอนตัวจากการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และประกาศวางบทบาททางการเมืองเพื่อกลับไปทำงานด้านวิชาการในฐานะนักวิชาการอิสระ

ขณะเดียวกัน นาย วัน อยู่บำรุง อดีต ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขตบางบอน–หนองแขม ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง พร้อมพ้นจากตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค โดยให้เหตุผลว่าขอพักบทบาททางการเมืองไว้ก่อน

นอกจากนี้ นาย เสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ “แรมโบ้อีสาน” ยังตัดสินใจลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ เพื่อไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคโอกาสใหม่ทันที โดยให้เหตุผลว่าบรรยากาศภายในพรรคใหม่มีความคุ้นเคยและเป็นกันเองมากกว่า พร้อมเตรียมลงสมัครรับเลือกตั้งในเขต 10 อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา

ความเคลื่อนไหวทั้งหมดสะท้อนภาพการปรับตัวของพรรคพลังประชารัฐในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเข้าสู่สนามเลือกตั้ง ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทั้งในระดับผู้นำและฐานสมาชิกพรรคอย่างมีนัยสำคัญ

ข่าวล่าสุด

เมื่อเทคโนโลยีไม่ใช่ “ทางเลือก” แต่คือ “ทางรอด”… ทรู ดิจิทัล ถอดสูตรดิจิทัลทรานสฟอร์เมชัน