12 ปี ปิดบัญชีอำนาจ 3 ป. จากจุดสูงสุดสู่จุดจบตำนานการเมืองไทย
ตลอด 12 ปี กลุ่ม “3 ป.” ครองอำนาจรัฐ กำหนดทิศทางประเทศจากรัฐประหารสู่การเลือกตั้ง แต่ความพ่ายแพ้ ความขัดแย้ง และการเปลี่ยนผ่าน ทำให้ตำนานนี้ค่อย ๆ ปิดฉาก
KEY
POINTS
- กลุ่ม 3 ป. (พล.อ.ประยุทธ์, พล.อ.ประวิตร, พล.อ.อนุพงษ์) เป็นศูนย์กลางอำนาจเบ็ดเสร็จหลังรัฐประหาร 2557 โดยคุมกลไกสำคัญทั้งฝ่ายบริหาร ความมั่นคง และมหาดไทย
- จุดเปลี่ยนสำคัญคือความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งปี 2566 ซึ่งสะท้อนถึงการเสื่อมศรัทธาและบารมีทางการเมือง ประกอบกับความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ
- ตำนาน 3 ป. สิ้นสุดลงเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.อนุพงษ์ ยุติบทบาททางการเมือง เหลือเพียง พล.อ.ประวิตร ที่ต้องประคองพรรคซึ่งเผชิญกับอนาคตที่ไม่แน่นอน
อำนาจสูงสุดและการปักหมุดโครงสร้างรัฐ
ตลอดกว่า 12 ปีหลังรัฐประหาร 2557 กลุ่มพี่น้อง “3 ป.” กลายเป็นศูนย์กลางอำนาจรัฐอย่างแท้จริง โดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งยาวนานถึง 9 ปี วางกรอบการเมืองผ่านรัฐธรรมนูญ กลไกรัฐ และบทบาทกองทัพ จนกำหนดทิศทางประเทศทั้งช่วงเปลี่ยนผ่านและหลังเลือกตั้ง
ขณะที่ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา คุมกระทรวงมหาดไทยยาวนานที่สุด สร้างเครือข่ายการบริหารตั้งแต่ระดับจังหวัดถึงส่วนกลาง ทำให้ “มหาดไทย” เป็นเสาหลักด้านการปกครองและการเมืองภาคพื้นที่อย่างมีนัยสำคัญ
ส่วน พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ คือผู้ทรงบารมีด้านความมั่นคงและการเมือง ทำหน้าที่ประคับประคองอำนาจ สร้างพรรคการเมืองเป็นฐานรองรับ โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐ ที่ถูกออกแบบให้เป็นกลไกสืบทอดอำนาจจากคสช.สู่ระบบเลือกตั้ง
จุดเปลี่ยน วิกฤตศรัทธา และรอยร้าวภายใน
การเลือกตั้งปี 2566 คือจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อพลังประชารัฐได้ สส. เพียงราว 40 ที่นั่ง ต่ำกว่าเป้าหมายอย่างมาก ความพ่ายแพ้ครั้งนี้สะท้อนทั้งการเสื่อมบารมีและการเปลี่ยนรสนิยมผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
ภายในพรรคเอง ความหลากหลายของก๊กการเมืองกลายเป็นจุดอ่อน การแย่งชิงอำนาจ เปลี่ยนตัวเลขาธิการพรรคบ่อยครั้ง ทำให้ขาดเอกภาพ ยิ่งซ้ำเติมด้วยการย้ายพรรคของคนใกล้ชิดและการดูด ส.ส. ออกไปอย่างต่อเนื่อง
ปัจจัยด้านภาพลักษณ์ยิ่งกระทบหนักจากกรณีคลิปเสียงและข้อมูลภายในที่ถูกเปิดเผย สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อความน่าเชื่อถือของ “พี่ใหญ่” และตอกย้ำว่าบารมีทางการเมืองไม่อาจคงอยู่ท่ามกลางแรงกดดันสาธารณะ
ปิดตำนาน 3 ป. และอนาคตพลังประชารัฐ
การเปลี่ยนผ่านตามวาระคือบทสรุปเชิงโครงสร้าง พลเอกประยุทธ์ ยุติบทบาทไปเป็นองคมนตรี ขณะที่ พลเอกอนุพงษ์ ถอนตัวอย่างสงบ เหลือเพียง พลเอกประวิตรที่ยังประคองพรรคในช่วงปลายทาง
เมื่อ “ไข่แดง” หรือแม่เหล็กอำนาจเริ่มถอยห่าง พลังประชารัฐเผชิญภาวะฤทธานุภาพถดถอย ในเชิงจิตวิทยาการเมือง พรรคที่ขาดผู้นำบารมีสูงย่อมเกิดความลังเล แตกแถว และสูญเสียแรงยึดเหนี่ยว
ความพยายามส่งไม้ต่อให้ผู้นำรุ่นถัดไป เช่น "ตรีนุช เทียนทอง" คือความหวังสร้างสถาบันพรรคให้ยั่งยืน แต่คำถามใหญ่ยังคงอยู่ พรรคจะอยู่รอดได้หรือไม่ หากไม่มี “เจ้าป่า” คอยคุมสมดุลอำนาจ
ตำนาน “3 ป.” คือบทเรียนการเมืองไทยยุคหลังรัฐประหาร จากอำนาจเบ็ดเสร็จสู่การเสื่อมบารมี ความพ่ายแพ้และการเปลี่ยนผ่านทำให้โครงสร้างเดิมสิ้นสุดลง พร้อมเปิดพื้นที่ให้การเมืองยุคใหม่กำหนดทิศทางประเทศต่อไป
เรียบเรียง : อมรเดช ชูสุวรรณ บรรณาธิการข่าวการเมือง
ที่มา : เนชั่นอินไซต์ (คลิ๊กชม)


