นักวิชาการ มธ. ชี้โพลคนกรุงลังเลเกือบครึ่ง สัญญาณการเมืองหายาก
นักวิชาการธรรมศาสตร์วิเคราะห์โพลนิด้า ระบุคนกรุงเทพฯ เกือบครึ่งยังไม่ตัดสินใจเลือกคนหรือพรรค ชี้จุดเปลี่ยนอยู่หลังปีใหม่เมื่อหาเสียงเข้มข้น
นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์วิเคราะห์ผลสำรวจความคิดเห็นของนิด้าโพลเกี่ยวกับกระแสการเมืองในกรุงเทพมหานคร ชี้ว่าการที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเกือบครึ่งหนึ่งยังไม่ตัดสินใจเลือกบุคคลหรือพรรคการเมืองใด เป็นปรากฏการณ์ที่พบได้ไม่บ่อยและมีนัยสำคัญทางการเมือง
ดร.ปุรวิชญ์ วัฒนสุข อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระบุว่า แม้การมีผู้ลังเลจะเป็นเรื่องปกติของการเลือกตั้ง แต่สัดส่วนที่สูงเกือบครึ่งหนึ่งสะท้อนความไม่ชัดเจนของตัวเลือกทางการเมืองในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเชื่อว่าหลังช่วงปีใหม่ เมื่อการรณรงค์หาเสียงเข้มข้นขึ้น ตัวเลขผู้ที่ยังไม่ตัดสินใจจะเริ่มลดลงตามธรรมชาติ
ทั้งนี้ หากความลังเลดังกล่าวยังคงอยู่จนใกล้วันเลือกตั้ง อาจสะท้อนว่าประชาชนยังไม่พบตัวเลือกที่เหมาะสม ซึ่งจะทำให้ช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายก่อนวันเลือกตั้งเป็นจุดชี้ขาดสำคัญของทุกพรรคการเมืองในการงัดกลยุทธ์และนโยบายออกมาแข่งขัน
สำหรับพรรคประชาชน ซึ่งเคยครองพื้นที่กรุงเทพฯ ในการเลือกตั้งครั้งก่อน ดร.ปุรวิชญ์ มองว่าความสำเร็จในอดีตมาจากกระแสทางการเมืองและบทบาทผู้นำพรรคที่ดึงดูดคะแนนเสียง แต่การเลือกตั้งรอบนี้ยังไม่มีกระแสหนุนในระดับเดียวกัน โดยเฉพาะบทบาทของผู้นำพรรคที่ยังไม่โดดเด่นเพียงพอ ต้องจับตาแคมเปญหลังปีใหม่ว่าจะสามารถสร้างแรงส่งได้หรือไม่
ขณะเดียวกัน พรรคประชาธิปัตย์ภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังมีฐานเสียงเดิมในกลุ่มชนชั้นกลางอนุรักษ์นิยม และพยายามวางตัวเป็นทางเลือกใหม่ หลังการเมืองไทยไม่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นศูนย์กลางเหมือนที่ผ่านมา
ส่วนพรรคภูมิใจไทย นักวิชาการชี้ว่ามีความพยายามรีแบรนด์พรรคให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของฝ่ายอนุรักษ์นิยม ผ่านบทบาทผู้นำและการดึงบุคลากรเทคโนแครตเข้าร่วม อย่างไรก็ตาม ภาพจำเดิมของพรรคยังเป็นอุปสรรคในการเจาะฐานเสียงคนกรุงเทพฯ ทำให้การแข่งขันช่วงชิงคะแนนในกลุ่มอนุรักษ์นิยมยังคงเข้มข้นระหว่างหลายพรรคการเมือง


