posttoday

วิกฤตน้ำ–ทุนสีเทา สองแรงสั่นสะเทือนที่ล้อมรัฐบาลนายกฯอนุทิน

07 ธันวาคม 2568

จากน้ำท่วมสู่ปมทุนสีเทา รัฐบาลอนุทินเผชิญแรงกดดันรอบด้าน ขณะที่ฝ่ายค้านเตรียมใช้ทุกจุดอ่อนในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ชี้นำเกมการเมืองเข้าสู่ช่วงเปราะบางที่สุด

KEY

POINTS

  • วิกฤตน้ำท่วมใต้เผยให้เห็นจุดอ่อนเชิงโครงสร้างของรัฐบาลอนุทิน ทั้งระบบเตือนภัย การฟื้นฟู และความไร้เอกภาพในการสั่งการ
  • ฝ่ายค้านกำลังรอจังหวะฟันด้วยญัตติไม่ไว้วางใจ โดยใช้ประเด็นน้ำท่วมและทุนสีเทาเป็นแกนโจมตีเพื่อทำลายความชอบธรรมของผู้นำ
  • คะแนนนิยมพรรคภูมิใจไทยทรุดหนักในฐานที่มั่นภาคใต้ ส่งผลต่อเป้าหมาย ส.ส. และทำให้เกมการเมืองเข้าสู่ภาวะผันผวนก่อนเลือกตั้งใหญ่

เมื่อวิกฤตน้ำหลากกลายเป็นบทสอบรัฐบาลอนุทิน  

ยามสายน้ำหลากท่วมภาคใต้ การบริหารงานของรัฐบาลกลับถูกมองว่าตกมาตรฐานอย่างหนัก ภาพความล่าช้าและการฟื้นฟูที่ไม่ทันการณ์ได้ตอกย้ำความคลอนแคลนของกลไกรัฐ จนเสียงวิจารณ์กระหึ่มทั้งในพื้นที่และบนโลกออนไลน์ การเตือนภัยที่ส่งถึงประชาชนหลายครั้งไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ ทำให้ชาวบ้านจำนวนมากเลือกเพิกเฉย กลายเป็นข้อกล่าวหาว่า “ทำไมรัฐสั่งแล้วไม่มีใครเชื่อ” ก่อนถูกขยายความเป็นความล้มเหลวด้านการสื่อสารเชิงระบบทันที

ความสับสนในโครงสร้างสั่งการคือปัญหาใหญ่กว่าเสียงบ่น เพราะห้วงเวลาวิกฤตกลับปรากฏศูนย์สั่งการซ้อนหลายชั้น คณะทำงานหลายชุด และผู้บังคับบัญชาหลายสาย ข้าราชการในพื้นที่ไม่รู้ว่าจะฟังใคร ทำให้การจัดการตั้งแต่การอพยพ การช่วยเหลือ ไปจนถึงการฟื้นฟูล่าช้าไม่เป็นทิศทาง ภาพของรัฐที่ไร้เอกภาพยิ่งตอกย้ำความไม่พอใจของประชาชนที่เฝ้ารอความช่วยเหลือท่ามกลางความเดือดร้อน

แม้นายกฯอนุทินจะลงพื้นที่ถึง 5–6 ครั้ง แต่การเยียวยาที่มาช้าและปัญหาเชิงระบบสะสมต่อเนื่อง ทำให้ความพยายามฟื้นคะแนนนิยมไม่เป็นผล ความคาดหวังที่เคยสูงจากผลงานด้านสาธารณสุขสมัยเป็นรมว.คนสำคัญกลับถูกแทนด้วยคำถามว่า “รัฐบาลนี้จัดการวิกฤตได้จริงหรือไม่” วิกฤตครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงเรื่องน้ำเท่านั้น แต่คือบทสอบภาพรวมศักยภาพรัฐบาลทั้งชุด

วิกฤตน้ำ–ทุนสีเทา สองแรงสั่นสะเทือนที่ล้อมรัฐบาลนายกฯอนุทิน

ดาบฝ่ายค้านและเงาเข้มของทุนสีเทา 

ฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน ถูกมองว่ากำลังถือแต้มเหนือในเกมการเมือง เพราะเตรียมญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจไว้ตั้งแต่ก่อนเหตุอุทกภัย จุดอ่อนรัฐบาลจึงเหมือนเผยตัวให้ “ฟันง่ายขึ้น” โดยไม่ต้องออกแรงมากนัก ความผิดพลาดในการจัดการภัยพิบัติกลายเป็นช่องโหว่ที่ฝ่ายค้านจะใช้ในการชำแหละศักยภาพผู้นำและระบบราชการภายใต้การกำกับของนายกรัฐมนตรีอนุทินในสภา

ประเด็นร้อนยิ่งกว่าน้ำท่วมคือเงาของทุนสีเทาและเครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติ สืบเนื่องจากการที่ ปปง. อายัดทรัพย์สินเครือข่ายระดับหมื่นล้านซึ่งโยงกับบุคคลในแวดวงธุรกิจและการเมือง กระแสคำถามต่อบทบาทรัฐในการปราบปรามทุนสีเทา รวมถึงความสัมพันธ์ที่ต้องชี้แจงของหลายกลุ่ม กลายเป็นดินระเบิดที่ฝ่ายค้านรอจุดในสภา ขณะที่ประชาชนเองก็กำลังจับตาว่า รัฐบาลโปร่งใสเพียงใด

แรงกดดันที่เพิ่มขึ้นทุกวันทำให้จังหวะยื่นอภิปรายกลายเป็นเกมรุกที่ฝ่ายค้านมีสิทธิเลือกเวลาอย่างเหนือกว่า พวกเขาปล่อยให้กระแสสังคมกดดันก่อน เพื่อให้รัฐบาล “อ่อนล้า” จากเสียงประชาชน แล้วจึงค่อยเดินดาบในสภาเมื่อความไม่พอใจพุ่งสูงสุด เป้าหมายไม่ใช่แค่ตีรัฐบาลให้บอบช้ำ แต่ต้องการ “ปิดบัญชีความชอบธรรม” ของผู้นำในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อการเมืองก่อนเลือกตั้งใหญ่

วิกฤตน้ำ–ทุนสีเทา สองแรงสั่นสะเทือนที่ล้อมรัฐบาลนายกฯอนุทิน

คะแนนนิยมทรุดฮวบและสมรภูมิใหม่ของค่ายสีน้ำเงิน  

ภาคใต้คือสมรภูมิที่พรรคภูมิใจไทยหมายมั่นว่าจะขยายที่นั่งได้กว่า 30 ที่นั่ง แต่หลังน้ำท่วมครั้งใหญ่ ความเชื่อมั่นกลับร่วงลงเร็วกว่าระดับน้ำที่กำลังลดในหลายพื้นที่ นักวิเคราะห์ประเมินใหม่ว่าพรรคอาจเหลือโอกาสเพียงร้อยละ 40 ที่จะทำตามเป้าหมาย แม้จะทุ่มกำลังลงพื้นที่อย่างหนัก ทั้งรัฐมนตรี สส. และผู้สมัครต่างเร่งชี้แจง แต่เสียงตำหนิจากชาวบ้านยังดังไม่หยุด

ความจริงที่หลีกไม่พ้นคือ วิกฤตครั้งนี้ได้เปลี่ยนภาพลักษณ์ “นักบริหารมือทำงาน” ของอนุทินให้เป็นผู้นำที่จัดการระบบซับซ้อนในภาครัฐไม่ได้ดีพอ ประชาชนจำนวนมากมองว่าความช่วยเหลือมาช้าเกินไป ระบบประสานงานไร้ทิศทาง และการแก้ปัญหาไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงในพื้นที่ คะแนนนิยมจึงตกอย่างต่อเนื่อง แม้รัฐบาลจะเดินเกมสื่อเชิงรุกเพื่อกู้ภาพลักษณ์ก็ตาม

เมื่อความนิยมถดถอย ฝ่ายค้านแข็งแรง และกระแสข่าวการยุบสภาเริ่มหนาหู การเมืองไทยจึงเดินสู่จุดเปราะบางครั้งใหม่ พรรคภูมิใจไทยถูกบังคับให้ต้องทบทวนกลยุทธ์ทั้งในเชิงนโยบาย การสื่อสาร และการฟื้นความเชื่อมั่นของประชาชน หากไม่สามารถพลิกเกมได้ทันก่อนเข้าสู่ปีเลือกตั้ง สมรภูมิใต้ที่เคยมั่นใจอาจกลายเป็น “สนามสอบซ้ำ” ที่เจ็บปวดที่สุดของค่ายสีน้ำเงิน

เรียบเรียง : อมรเดช ชูสุวรรณ บรรณาธิการข่าวการเมือง 
ที่มา: เนชั่นสุดสัปดาห์ (คลิ๊กชม)

ข่าวล่าสุด

พาณิชย์ดัน “ข้าวประณีต–สินค้า GI” โกอินเตอร์ ปิดดีล 450 ตัน