posttoday

“เจ๊แดง เยาวภา"คุมทัพเพื่อไทยทวงเก้าอี้สส.ภาคเหนือเลือกตั้ง69

03 พฤศจิกายน 2568

“เยาวภา วงศ์สวัสดิ์” ขยับบทบาทใหญ่ในพรรคเพื่อไทย รวบขุนพลเก่า–ดึง “วราเทพ รัตนากร” กลับบ้านสีแดง ปูทางทวงคืนฐานเสียงภาคเหนือ ก่อนศึกเลือกตั้ง 2569

KEY

POINTS

  • "เจ๊แดง" เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ กลับมารับตำแหน่งแม่ทัพภาคเหนือของพรรคเพื่อไทย เพื่อเตรียมสู้ศึกเลือกตั้งปี 2569
  • ภารกิจหลักคือการรวบรวมขุนพลเก่าในกลุ่ม "วังบัวบาน" และดึงตัวบุคคลสำคัญอย่าง วราเทพ รัตนากร กลับพรรค
  • เป้าหมายสำคัญคือการทวงคืนพื้นที่ สส. ในภาคเหนือตอนล่าง โดยเฉพาะจังหวัดกำแพงเพชร ผ่านการดึงเครือข่ายจากพรรคอื่น

พรรคเพื่อไทยกำลังเดินหน้าปรับทัพครั้งใหญ่ เพื่อเตรียมรับมือศึกเลือกตั้งปี 2569 ที่คาดว่าจะเป็นการวัดพลังครั้งสำคัญของ “3 ค่ายใหญ่” — เพื่อไทย, ประชาชน,กล้าธรรม 

การประชุมใหญ่เพื่อไทย “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” ในฐานะหัวหน้าคนใหม่ ถือเป็นการส่งไม้ต่อจาก “แพทองธาร ชินวัตร” ที่ขยับไปบทบาทเชิงนโยบาย แต่เบื้องหลังเพื่อไทยกลับเริ่มเคลื่อนไหวเข้มข้นยิ่งกว่าเดิม โดยเฉพาะ “เจ๊แดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ที่กลับมามีบทบาทเป็นแม่ทัพภาคเหนืออย่างเต็มตัว

บารมีวังบัวบานหวนคืน

“เยาวภา” เคยเป็นศูนย์รวมพลังในยุคพรรคไทยรักไทยและพลังประชาชน ด้วยบารมี “กลุ่มวังบัวบาน” ที่ควบคุม สส.ภาคเหนือแทบทั้งภูมิภาค แต่หลังรัฐประหาร 2557 บารมีลดถอย หลายกลุ่มแยกตัวไปอยู่พรรคอื่น

ทว่าในรอบนี้ สัญญาณการกลับมาชัดเจน ตั้งแต่การลงพื้นที่เชียงรายคู่ “ยงยุทธ ติยะไพรัช” เพื่อจัดโครงสร้างผู้สมัคร สส. ใหม่ ไปจนถึงการเปิดดีลดึง “วราเทพ รัตนากร” อดีตขุนพลคนสนิทกลับมาร่วมค่าย
 

วราเทพกลับเพื่อไทย–พลิกเกมกำแพงเพชร

การกลับมาของ “วราเทพ” ไม่เพียงมีนัยทางการเมือง แต่ยังสะเทือนสนามเลือกตั้งภาคเหนือตอนล่างโดยตรง เพราะในมือของวราเทพ มีเครือข่าย สส. พลังประชารัฐ 2 คนในกำแพงเพชร — “อนันต์ ผลอำนวย” และ“ปริญญา ฤกษ์หร่าย”ซึ่งมีแนวโน้มย้ายตาม

ขณะเดียวกัน พื้นที่กำแพงเพชรอีก 2 เขตอยู่ในมือ “ไผ่ ลิกค์” และ “เพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์” แห่งพรรคกล้าธรรม ซึ่งต่างมีสายสัมพันธ์กับตระกูลชินวัตรอยู่แล้ว การแข่งขันในพื้นที่นี้จึงกลายเป็น “ศึกคนกันเอง” ที่สะท้อนความซับซ้อนของเครือข่ายการเมืองภาคเหนือ

สมรภูมิใหม่เพื่อไทย

การกลับมาของ “เจ๊แดง” และขุนพลเก่ากลุ่มวังบัวบาน อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทย ที่ต้องเผชิญคู่แข่งทั้งจากพรรคประชาชน ซึ่งเน้นกระแสคนรุ่นใหม่ และพรรคกล้าธรรม ที่เก็บแต้มฐานเสียงในพื้นที่ชนบท

การรวมตัวของกลุ่มเก่ากับทีมใหม่ภายใต้การนำของ “จุลพันธ์” จึงเป็นบททดสอบว่าพรรคเพื่อไทยจะรักษาความเป็น “หัวใจแดงแห่งล้านนา” ได้หรือไม่

 บทสรุป : บารมีเจ๊แดงจะพาเพื่อไทยไปไกลแค่ไหน

ในขณะที่ “นายใหญ่–นายหญิง” อยู่เบื้องหลังเงียบ ๆ การขยับของ “เยาวภา” ครั้งนี้ อาจเป็นการทวงคืนศักดิ์ศรีอดีต “แม่ทัพภาคเหนือ” ที่ยังมีบารมีลึกในทุกหัวเมือง ตั้งแต่เชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย จนถึงกำแพงเพชร

คำถามคือ — บารมี “เจ๊แดง” จะยังทรงพลังพอพาเพื่อไทยกลับมาชนะ “ศึกเหนือ” ได้อีกครั้ง หรือจะกลายเป็นเพียงตำนานในยุคที่กระแสใหม่แซงหน้าเสียงเก่า?
 

ข่าวล่าสุด

LH Bank ออกผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก “LHB OPD SAVER”