สมรภูมิ"ซำแต"จุดปะทะอาวุธหนักไทย-กัมพูชา
เปิดสมรภูมิจุดปะทะรอบใหม่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา โดยกัมพูชาเปิดฉากยิงจรวดใส่ฝั่งไทย ขณะที่ทหารไทยตอบโต้ด้วยปืนใหญ่ ล่าสุดทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างเจรจา
เปิดสมรภูมิจุดปะทะรอบใหม่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา โดยกัมพูชาเปิดฉากยิงจรวดใส่ฝั่งไทย ขณะที่ทหารไทยตอบโต้ด้วยปืนใหญ่ ล่าสุดทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างเจรจา
การเปิดฉากดวลอาวุธหนักระลอกใหม่ระหว่างทหารไทยและกัมพูชา บริเวณชายแดนเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 6 ก.พ. ยืดเยื้อกว่า 3 ชั่วโมง กัมปนาทของปืนใหญ่และจรวดฝ่ายกัมพูชายุติลงเมื่อเวลาประมาณ 21.30 น. ความเสียหายของฝ่ายกัมพูชายังไม่สามารถตรวจสอบได้ แต่สำหรับทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 18 นาย
แม้การปะทะขยายเกิดขึ้นตลอดแนววางกำลังตั้งแต่ช่องตาเฒ่า ต.ภูผาหมอก ด้านทิศใต้ของปราสาทพระวิหาร เขาสัตตะโสม ผามออีแดง ต.เสาธงชัย และภูมะเขือ ต.รุง แต่จุดที่หนักหน่วงที่สุดคือบริเวณบ้านซำแต ใกล้กับช่องตาเฒ่า เนื่องจากตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 6 ก.พ. กำลังฝ่ายไทยตรวจพบฝ่ายกัมพูชา เขาเคลื่อนไหวเข้ามาในเขตไทย มีการยิงปะทะด้วยอาวุธประจำกาย แต่ก็ยุติในเวลาไม่นานนัก
ความผิดปกติที่ตรวจพบบริเวณบ้านซำแตของฝ่ายกัมพูชาก็คือ ทหารกัมพูชาได้เสริมกำลังเข้ามายังพื้นที่นี้มากขึ้น โดยเฉพาะรถถังรุ่น ที 55 จำนวน 2 คัน ข้อกังวลของฝ่ายไทยก็คือ พื้นที่บ้านซำแต ซึ่งตั้งอยู่ใกล้บ้านโกมุย เป็นพื้นที่ราบ ต่างกับด้านอื่นไม่ว่าเขาสัตตะโสม ปราสาทพระวิหาร ผามออีแดง หรือภูมะเขือ ซึ่งเป็นภูเขาสูงชัน และฝ่ายไทยวางกำลังในจุดสูงข่มที่ได้เปรียบ
ดังนั้นการที่ายกัมพูชาเคลื่อนรถถังเข้ามาที่บ้านซำแตถึง 2 คัน ทำให้เสี่ยงที่จะมีการใช้กำลังทหารราบบุกเข้ามายังช่องตาเฒ่า หรือการใช้ปืนใหญ่รถถังยิงเข้ามายังฝั่งไทย
ดังนั้น เป้าหมายสำคัญที่ฝ่ายไทยยิงตอบโต้จึงเป็นบ้านซำแต ขณะที่ฝ่ายกัมพูชาก็เลือกเป้าหมายของจรวดหลายลำกล้องเข้ามายังพื้นที่วางกำลังของฝ่ายไทย ตลอด 4 ตำบลที่ติดแนวชายแดน ประกอบด้วย ต.ภูผาหมอก เสาธงชัย บึงมะลู และต.รุง แม้บ้านเรือนราษฎรจะไม่ได้รับความเสียหายมากเท่ากับการปะทะเมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่การเปิดฉากยิงจรวดถล่มระลอก 2 ของฝ่ายกัมพูชา ก็ยิ่งทำให้ชาวบ้านกว่า 3 พันคนที่อพยพออกนอกพื้นที่ ไปพักชั่วคราวยังที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ ไม่กล้าที่จะกลับมายังบ้านเรือน
สำหรับสถานการณ์ล่าสุด บริเวณแนวชายแดนอ.กันทรลักษณ์ เมื่อเวลาประมาณ 08.30 น.วันที่ 7 ก.พ. เกิดการประทะกันอีกครั้งบนพื้นที่ภูมะเขือ เสียงปืนดังขึ้นประมาณ 15 นาทีจึงยุติลง ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. ทหารไทยจัดชุดประสานงานขึ้นไปเจรจากับฝ่ายกัมพูชาบนพื้นที่ปราสาทพระวิหาร ซึ่งการเจรจายังไม่ได้ข้อยุติ
ต่อมา มื่อเวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่ทหารได้สั่งการให้มีการอพยพประชาชนในพื้นที่ 4 ตำบล อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งอยู่ติดแนวชายแดน และเป็นพื้นที่ที่มีการปะทะกันระหว่างทหารไทยและกัมพูชาตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้ (6 ก.พ.) ประกอบด้วย ต.บึงมะลู ต.รุง ต.เสาธงชัย และ ต.ภูผาหมอก หลังจากที่ผลการเจรจาระหว่าง ทหารไทยและกัมพูชา ที่ขึ้นไปเจรจาบนพื้นที่ปราสามเขาพระวิหาร ไม่เป็นที่น่าพอใจ
อย่างไรก็ตามสถานการณ์โดยรวมตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 7 ก.พ. ยังคงไม่มีการปะทะกันของทหารทั้งสองฝ่ายแต่อย่างใด


