posttoday

ไทย–กัมพูชา GBC พิเศษ คืบถอนอาวุธ–ปราบสแกมเมอร์ชายแดน

23 ตุลาคม 2568

พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ นำคณะไทยร่วมประชุม GBC ไทย–กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2 ที่มาเลเซีย คืบหน้า 90% ถกถอนอาวุธ–เก็บทุ่นระเบิด–ปราบสแกมเมอร์ สร้างชายแดนสันติ

KEY

POINTS

  • ไทย–กัมพูชาหารือ 4 ประเด็นหลัก ถอนไอ้สังหาร–เก็บทุ่น–ปราบอาชญากรรม–จัดการพื้นที่ชายแดน
  • ไทยเน้นปกป้องอธิปไตย ควบคู่บรรเทาผลกระทบต่อเกษตรกร–ผู้ประกอบการ
  • รัฐบาลเตรียมนำร่องผ่อนปรนรถสินค้าชายแดนโซนตะวันออก หากสถานการณ์คลี่คลาย
     

เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2568 พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย–กัมพูชา (GBC) สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2/2568 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยยืนยันก่อนออกเดินทางว่า “ขณะนี้ความคืบหน้าเกินกว่า 90% แล้ว เหลือเพียงรายละเอียดเล็กน้อย” พร้อมตั้งเป้าสรุปผลให้แล้วเสร็จระหว่างการหารือระดับประธานทั้งสองฝ่ายในรูปแบบ “4 EYES” ก่อนเข้าสู่วาระทางการ

การประชุมครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจอันดีและขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงให้แน่นแฟ้น โดยเน้นให้พื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชาเป็น “เขตสันติภาพ มั่นคง และยั่งยืนร่วมกัน” เพื่อความสงบสุขของประชาชนทั้งสองประเทศ

หัวข้อหารือหลัก 4 ประเด็นสำคัญ ได้แก่

  1. การถอนอาวุธหนักออกจากแนวชายแดนเพื่อลดความตึงเครียด
  2. การเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่เสี่ยงร่วมกันภายใน 1 เดือน
  3. การปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะกลุ่มสแกมเมอร์ออนไลน์ ซึ่งฝ่ายไทยส่งข้อมูลศูนย์กว่า 60 แห่งให้ฝ่ายกัมพูชาดำเนินการ
  4. การบริหารจัดการพื้นที่บ้านหนองจาน–หนองหญ้าแก้ว เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย

พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ที่ประชุม GBC ครั้งก่อนเมื่อวันที่ 10 กันยายน ที่ จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการใช้กลไกทวิภาคีคลี่คลายสถานการณ์ชายแดน โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้ถอนยุทโธปกรณ์ทำลายล้างสูงและเปิดทางให้คณะผู้สังเกตการณ์ IOT เข้าร่วม เพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ

ขณะเดียวกัน ที่ประชุมยังเห็นชอบให้จัดตั้งคณะทำงานปราบสแกมเมอร์ร่วมภายใน 1 สัปดาห์ และให้นำร่องผ่อนปรนการขนส่งสินค้าในโซนตะวันออก (จันทบุรี–ตราด) ก่อนขยายผลตามระดับความพร้อม โดยกระทรวงกลาโหมแบ่งแนวชายแดนเป็น 3 โซนตามระดับความตึงเครียด เพื่อกำหนดมาตรการที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่

พล.ร.ต.สุรสันต์กล่าวย้ำว่า นโยบายที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย พล.อ.ณัฐพล คือ “ปกป้องอธิปไตยชาติควบคู่การดูแลประชาชน” เพราะความตึงเครียดที่ยืดเยื้อส่งผลต่อเกษตรกรและผู้ประกอบการโดยตรง พร้อมเตือนว่าความร่วมมือจะเกิดผลได้จริงก็ต่อเมื่อฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงด้วยความจริงใจเท่านั้น.

ข่าวล่าสุด

LH Bank ออกผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก “LHB OPD SAVER”