สุดารัตน์ มองแพทองธารลาออกหัวหน้าพรรคหวังหยุดเพื่อไทยเลือดไหล
สุดารัตน์ ชี้ “แพทองธาร” ลาออกเพราะปัญหากฎหมาย–แรงสั่นคลอนอำนาจภายใน เพื่อไทยต้องยกเครื่องโครงสร้างบริหาร ชี้ชินวัตรถอยเชิงยุทธศาสตร์ หวังหยุดเลือดไหลพรรค
KEY
POINTS
- คุณหญิงสุดารัตน์ชี้ว่าการลาออกของแพทองธารเป็นผลโดยตรงจากคำวินิจฉัยของศาลที่ทำให้ขาดคุณสมบัติตามกฎหมาย ซึ่งอาจสร้างความเสียหายทางกฎหมายต่อพรรคเพื่อไทยหากยังดำรงตำแหน่ง
- มองว่าการลาออกครั้งนี้เป็นกลยุทธ์ของตระกูลชินวัตรเพื่อ "หยุดเลือดไหล" หรือแก้ปัญหาความขัดแย้งและรักษาเสถียรภาพภายในพรรค ไม่ใช่การถอยออกจากการเมืองโดยสิ้นเชิง
- วิจารณ์การบริหารพรรคเพื่อไทยที่รวมศูนย์อำนาจเหมือน "บริษัทจำกัด" และเตือนว่าหากยังคงมี "ออเดอร์" จากผู้มีอำนาจ พรรคจะยังคงประสบปัญหาและยากที่จะก้าวต่อไปอย่างยั่งยืน
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย แสดงความคิดเห็นต่อกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โดยมองว่าสาเหตุหลักมาจากข้อกฎหมายที่มีผลผูกพันจากคำวินิจฉัยของศาล ซึ่งทำให้ไม่สามารถดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ตามกฎหมาย และอาจกระทบต่อสถานะของพรรคหากยังคงอยู่ในตำแหน่งต่อไป
คุณหญิงสุดารัตน์ระบุว่า คำวินิจฉัยทางศาลที่ชี้ถึงการกระทำผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง ส่งผลให้ผู้ถูกวินิจฉัยไม่สามารถบริหารองค์กรใด ๆ ได้ รวมถึงพรรคการเมือง เพราะเข้าข่ายขาดคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งทางการเมือง ขณะเดียวกันคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็น่าจะมีหนังสือเตือนไปแล้ว หากยังฝืนดำรงตำแหน่งต่อ กรรมการบริหารพรรคคนอื่น ๆ ที่ปฏิบัติตามคำสั่งอาจถูกพ่วงความผิดไปด้วย
คุณหญิงกล่าวต่อว่า ผลจากคำวินิจฉัยดังกล่าวอาจส่งผลโดยตรงต่อการรับรองผู้สมัคร ส.ส. ของพรรค หากหัวหน้าพรรคถูกถือว่าขาดคุณสมบัติ การลงนามรับรองผู้สมัครย่อมเป็นโมฆะ ทำให้พรรคเสี่ยงต่อปัญหาทางกฎหมายและความเสียหายทางการเมืองในวงกว้าง
ส่วนในประเด็นเรื่องพลวัตอำนาจภายในพรรคเพื่อไทย คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ยังไม่แน่ใจว่ามีการ “บีบให้ลาออก” ตามที่มีกระแสข่าวหรือไม่ แต่เสนอให้สังเกตจาก “ผู้ที่ได้ประโยชน์” หลังการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งหัวหน้าพรรค โดยยกกรณีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้อำนวยการเลือกตั้ง ที่ถูกพูดถึงว่าอาจมีส่วนผลักดันให้เกิดการลาออก เธอกล่าวว่าเข้าใจเหตุผล เพราะนักการเมืองมืออาชีพย่อมต้องการความมั่นคงและความยุติธรรมในบทบาทการทำงาน
คุณหญิงสุดารัตน์ยังวิจารณ์รูปแบบการบริหารภายในพรรคเพื่อไทยว่า ไม่ควรใช้โมเดลแบบ “บริษัทจำกัด” ที่ให้เจ้าของหรือประธานสั่งการทุกอย่าง เพราะการเมืองต้องอาศัยระบบและการมีส่วนร่วม หากยังคงบริหารแบบรวมศูนย์เช่นนี้ พรรคจะค่อย ๆ กินตัวเองและเสื่อมศรัทธาจากคนใน
คุณหญิงสุดารัตน์ มองว่าการถอยของ น.ส.แพทองธาร อาจเป็นเพียง “การพักเกม” เพื่อรักษาเสถียรภาพของพรรค ไม่ใช่การถอยของตระกูลชินวัตรจากการเมืองโดยสิ้นเชิง แต่เป็นการประนีประนอมเพื่อหยุดเลือดไหลในพรรค พร้อมเตือนว่าหากยังคงมี “ออเดอร์” หรือ “ตั๋ว” ในการบริหารอยู่ ก็ยากที่พรรคจะปรับตัวและก้าวต่อได้อย่างยั่งยืน.


