“อภิสิทธิ์"คัมแบ็ก ฟื้นสถาบันประชาธิปัตย์ในสมรภูมิใหม่
การกลับมาของ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คือสัญญาณฟื้นสถาบันการเมืองเก่าแก่ ท่ามกลางเกมใหม่ที่พรรคต้องปรับกติกาและชิงศรัทธาประชาชน
KEY
POINTS
- พรรคประชาธิปัตย์เตรียมจัดประชุมใหญ่วันที่ 18 ตุลาคม 2568 เพื่อเลือกตั้งหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารชุดใหม่ ซึ่งเป็นการ “รีเซ็ต” องค์กรครั้งสำคัญ
- นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค เป็นตัวเต็งสำคัญที่คาดว่าจะกลับมานำพรรคอีกครั้ง เพื่อฟื้นฟูศรัทธาและภาพลักษณ์ของพรรค
- การเลือกตั้งจะใช้กติกาใหม่ที่ลดสัดส่วนคะแนนเสียงของ สส. ลง และเพิ่มอำนาจให้สมาชิกฐานราก เพื่อสร้างสมดุลและลดความขัดแย้งภายในพรรค
“ประชาธิปัตย์รีเซ็ต” — ประชุมใหญ่เปลี่ยนทิศพรรค
พรรคประชาธิปัตย์เตรียมประชุมใหญ่วิสามัญวันที่ 18 ตุลาคม 2568 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ กรุงเทพฯ เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารชุดใหม่ หมุดหมายสำคัญของการ “รีเซ็ตองค์กรการเมือง” ที่เก่าแก่ที่สุดของไทย หลังสูญเสียเอกภาพและที่นั่งในสภามาหลายปี
นายชนินทร์ รุ่งแสง รักษาการรองเลขาธิการพรรค ระบุว่า การประชุมครั้งนี้จะเป็นกระบวนการเปลี่ยนผ่านอย่างโปร่งใส เป็นไปตามข้อบังคับพรรค และถ่ายทอดสดทั่วประเทศ เพื่อให้สมาชิกและประชาชนเห็นถึง “การคืนชีวิต” ให้กับพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง
“นี่ไม่ใช่ละครการเมือง แต่คือการเปลี่ยนผ่านที่แท้จริง” นายชนินทร์กล่าวย้ำ พร้อมยืนยันว่าการเลือกตั้งภายในจะเป็นประชาธิปไตยเต็มรูปแบบ เพื่อให้ผู้นำชุดใหม่ขับเคลื่อนพรรคได้อย่างเข้มแข็งและเป็นเอกภาพ
กติกาใหม่ — ลดอำนาจสส. เปิดทางฐานราก
การประชุมใหญ่ครั้งนี้อยู่ภายใต้ “กติกาใหม่” ที่ออกแบบมาเพื่อจัดสมดุลอำนาจภายในและลดแรงปะทะระหว่างกลุ่มการเมืองในพรรค
พรรคได้ปรับองค์ประกอบ “องค์ประชุมใหญ่” ให้มีการถ่วงดุลระหว่างสส. และฐานรากของพรรคอย่างชัดเจน
สัดส่วนเสียงใหม่ประกอบด้วย
- สส. 40% (จากเดิม 70%)
- ตัวแทนสาขาพรรค อดีตสส. และผู้บริหารท้องถิ่น 40%
- กรรมการบริหารพรรค 20%
นอกจากนี้ ยังเพิ่มความเข้มงวดในขั้นตอนเสนอชื่อหัวหน้าพรรค ผู้สมัครต้องได้รับเสียงสนับสนุนเกินครึ่งขององค์ประชุม และต้องส่งหนังสือเชิญประชุมล่วงหน้าอย่างน้อย 15 วัน ปิดทาง “เกมชิงสมัครนาทีสุดท้าย” ซึ่งคาดว่าจะเปิดทางให้เกิด “แคนดิเดตฉันทามติ” ผู้ได้รับการเห็นชอบจากทุกฝ่าย
“อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” — เดิมพันศรัทธาสุดท้ายของพรรคเก่า
ในรายชื่อแคนดิเดต ไม่มีใครถูกจับตามากไปกว่า “นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” อดีตหัวหน้าพรรคผู้ดำรงตำแหน่งยาวนานกว่า 14 ปี (พ.ศ. 2548–2562) ผู้เคยนำพรรคผ่านทั้งช่วงรุ่งและร่วงทางการเมือง การกลับมาของเขาครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นทั้ง “เดิมพันแห่งศรัทธา” และ “บทพิสูจน์สุดท้าย” ของพรรคที่ยืนหยัดในนาม “สถาบันทางการเมือง”
นายประมวล พงษ์ถาวรเดช รักษาการหัวหน้าพรรค เปิดเผยว่า การเลือกหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารชุดใหม่จะมีขึ้นวันที่ 18 ตุลาคม เพื่อฟื้นพรรคให้กลับมาเป็น “พรรคใหญ่ที่มีศักดิ์ศรี” และมีทีมบริหารพร้อมทำงานทันทีหลังได้ผู้นำคนใหม่
แม้ยังไม่มีการประกาศชื่อผู้สมัครอย่างเป็นทางการ แต่วงในการเมืองต่างเชื่อว่า “อภิสิทธิ์” มีภาษีเหนือกว่า ทั้งจากบารมีเดิมและภาพลักษณ์ของผู้นำที่ยึดหลักการ สุภาพ และตรงไปตรงมา — บุคลิกที่พรรคหวังใช้ฟื้นศรัทธาในสายตาประชาชน


