กกต.ยกคำร้อง ปม “ทักษิณ” ครอบงำ 6 พรรคตั้งรัฐบาลอดีตนายกฯแพทองธาร

นายแสวง บุญมี เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง เปิดเผยว่า ได้ยกคำร้องกรณีมีผู้กล่าวหานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ครอบงำการจัดตั้งรัฐบาลผ่าน 6 พรรคการเมือง ตั้งรัฐบาลนายกฯแพทองธาร หลังตรวจสอบข้อเท็จจริงและเชิญพรรคการเมืองที่ถูกร้องเข้าชี้แจงแล้ว เห็นว่าไม่มีพฤติการณ์ที่ทำให้พรรคขาดความอิสระหรือสูญเสียการตัดสินใจ

นายแสวงระบุว่า การครอบงำพรรคการเมืองเป็นประเด็นสังคมจับตามอง แต่ต้องตีความตามข้อกฎหมาย มิใช่แค่ความรู้สึก โดยองค์ประกอบความผิดต้องมีการยินยอมให้บุคคลภายนอกครอบงำ และการกระทำนั้นต้องทำให้พรรคหรือสมาชิกพรรคขาดความเป็นอิสระ ซึ่งจากข้อเท็จจริงที่มี ไม่เข้าเงื่อนไขดังกล่าว

สำหรับกรณีที่นายทักษิณปรากฏตัวหรือแสดงความเห็นบนเวทีต่าง ๆ นายแสวงชี้ว่า ยังไม่มีหลักฐานที่ฟังได้ว่าเป็นการครอบงำตามกฎหมาย ขณะเดียวกัน ยอมรับว่ายังมีคำร้องในลักษณะเดียวกันอีกหลายกรณีอยู่ระหว่างการพิจารณา รวมถึงคำร้องที่เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย

ส่วนบันทึกข้อตกลง (MOA) ระหว่างพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทย เพื่อสนับสนุนนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี นายแสวงกล่าวว่า หากเข้าข่ายครอบงำ ต้องพิจารณาตามมาตรา 28 ของพ.ร.ป.พรรคการเมือง แต่ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตรวจสอบข้อเท็จจริง

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2567 นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าคำร้องยุบ 6 พรรคการเมือง กรณีมีการกล่าวหานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ครอบงำพรรคการเมือง โดยยืนยันว่ามีผู้ร้องยื่นคำร้องลักษณะเดียวกัน 4 เรื่อง กกต.จึงได้รวมไว้ในสำนวนเดียวเพื่อความชัดเจนและเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย

นายอิทธิพรระบุว่า หลังรับคำร้องแล้ว เลขาธิการ กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ได้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงแสวงหาพยานหลักฐาน ซึ่งมีกำหนดดำเนินการภายใน 30 วัน และหากจำเป็นสามารถขยายเวลาได้อีก 30 วัน เมื่อได้ข้อเท็จจริงครบถ้วนจะจัดทำรายงานเสนอต่อเลขาธิการ กกต. เพื่อพิจารณา หากพบว่ามีการกระทำที่อาจเข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายถึงขั้นยุบพรรค ก็จะต้องนำเข้าสู่ที่ประชุม กกต. เพื่อวินิจฉัยต่อไป

ประธาน กกต. ย้ำว่า ขณะนี้เรื่องดังกล่าวเพิ่งเริ่มเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบอย่างเป็นทางการ และมีผู้ร้องบางส่วนเริ่มเข้ามาให้ข้อมูลแล้ว ทั้งนี้ ตามระเบียบการสอบสวนต้องเปิดโอกาสให้ผู้ถูกร้องรับทราบข้อเท็จจริง มีสิทธิ์ชี้แจงแสดงความคิดเห็น และยื่นเอกสารหลักฐานประกอบ เพื่อความรอบคอบและเป็นธรรมก่อนที่คณะกรรมการจะสรุปสำนวนเสนอไปยังนายทะเบียนพรรคการเมืองพิจารณาตามลำดับขั้นตอน