สุธรรมแฉ เสนอชื่อ รมต. ไร้มติพรรคปชป. ส่อขัด ก.ม. หวั่นลามนายกฯ
สุธรรม ระหงษ์ อดีตเลขาฯ รมว.ทส. แฉปมเสนอชื่อ รมต. พรรคประชาธิปัตย์ไร้มติ ไม่ถูกต้อง หวั่นซ้ำรอย “เศรษฐา” โดนฟัน จี้ กกต. สอบเข้ม หวั่นเป็นบรรทัดฐานผิดเพี้ยน
นาวาตรีสุธรรม ระหงษ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้ที่เคยผ่านตำแหน่งสำคัญในพรรคมาอย่างโชกโชน ทั้งผู้อำนวยการพรรค รองหัวหน้าพรรค และล่าสุดเพิ่งลาออกจากตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภายหลังเกิดความเห็นต่างในประเด็นร้อน ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่มีผู้ร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ตรวจสอบพรรคประชาธิปัตย์เกี่ยวกับการเสนอชื่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรขึ้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีโดยไม่ผ่านกระบวนการตามข้อบังคับพรรคไร้มติ ไร้บันทึกประชุม “ผิดข้อบังคับพรรค”
นาวาตรีสุธรรม ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องภายในพรรค แต่กระบวนการดังกล่าว “ไม่ได้ดำเนินการตามข้อบังคับพรรคอย่างถูกต้อง” ตั้งแต่ขั้นตอนมติกรรมการบริหารพรรค ไปจนถึงการรับรองจาก สส. พรรค ก่อนจะเสนอชื่อต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ
"ไม่มีมติ ไม่มีบันทึกประชุม ไม่มีการหารืออย่างเป็นทางการ แต่กลับมีชื่อปรากฏในโผรัฐมนตรีหลังโปรดเกล้าฯ ไปแล้ว ซึ่งสะท้อนว่า กระบวนการของพรรคไม่ชอบด้วยข้อบังคับ" นาวาตรีสุธรรมกล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำ พร้อมเผยว่า ตนได้ทำหนังสือแสดงความเห็นแย้งต่อหัวหน้าพรรคแล้ว แม้ไม่มีความขัดแย้งส่วนตัวกับใคร แต่ต้องยืนยันหลักการตามกฎหมายและข้อบังคับ โดยเฉพาะ พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง ที่กำหนดให้พรรคต้องดำเนินกิจการด้วยความโปร่งใสและชอบด้วยข้อบังคับ
“สัตยาบันย้อนหลัง” อาจขัดกฎหมาย
นอกจากนี้ นาวาตรีสุธรรมยังตั้งข้อสังเกตถึงการประชุมร่วมของกรรมการบริหารพรรคและ สส. ที่จัดขึ้นภายหลังการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรี เพื่อให้ “สัตยาบันย้อนหลัง” ต่อมติที่ไม่เคยเกิดขึ้น โดยระบุว่าอาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะไม่มีบัญญัติไว้ในข้อบังคับพรรค และตนเป็นเพียงคนเดียวในที่ประชุมที่ไม่เห็นชอบกับการดำเนินการลักษณะดังกล่าว
นาวาตรีสุธรรม ย้ำว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และข้อบังคับของพรรค เป็นกฎหมายในลักษณะของกฎหมายปกครอง ซึ่งควบคุมการใช้อำนาจของหน่วยงานรัฐและพรรคการเมือง ที่อาจกระทบสิทธิของบุคคลจำนวนมากและความสงบเรียบร้อยของสังคม ดังนั้น การดำเนินกิจการของพรรคและการใช้อำนาจของ กกต. ต้องเป็นไปโดยเคร่งครัดตามกฎหมายและข้อบังคับ มิฉะนั้นการกระทำนั้นย่อมตกเป็นโมฆะ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่อาจให้สัตยาบันย้อนหลังได้ เพราะไม่ใช่นิติกรรมระหว่างเอกชนที่จะสละสิทธิหรือให้ความยินยอมภายใต้กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ได้
หวั่นซ้ำรอย “เศรษฐา” ชี้ กกต. ต้องเคร่งครัด
นาวาตรีสุธรรม ยังแสดงความกังวลว่า กรณีนี้อาจส่งผลกระทบในวงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาจลามไปถึงตัวนายกรัฐมนตรีได้ หากเปรียบเทียบกับกรณีของ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ที่พ้นจากตำแหน่งจากการเสนอชื่อนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี ซึ่งถือได้ว่าเป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากหากการเสนอชื่อรัฐมนตรีไม่เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายภายในพรรค อาจส่งผลกระทบที่รุนแรงได้
"หาก กกต. พิจารณาแล้วไม่ดำเนินการใด ๆ ทั้งที่มีข้อบ่งชี้ถึงการละเมิดข้อบังคับ กรณีนี้อาจกลายเป็นบรรทัดฐานที่คลาดเคลื่อน" นาวาตรีสุธรรมกล่าวทิ้งท้าย พร้อมย้ำว่า ขณะนี้ กกต. จะเป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และเรียกผู้เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง รวมถึงตรวจสอบเอกสารและบันทึกการประชุมที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดสำคัญว่าพรรคได้ดำเนินการตามข้อบังคับจริงหรือไม่


