posttoday

ชาญชัย ยื่นหลักฐาน ฟันรัฐบาล-สส.-สว.เอื้อแจกเงินหมื่นผิดม.144

03 กรกฎาคม 2568

"ชาญชัย" ยื่นหลักฐานเพิ่ม11ชิ้นต่อ ป.ป.ช. ฟันรัฐบาล-สส.-สว. ปมตัดงบฯ ใช้หนี้ 5 แบงก์รัฐ โยกแจกเงินดิจิทัล ชี้ผิด ม.144

นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยคณะ ซึ่งประกอบด้วย นายสมชาย แสวงการ อดีต สว., นายเจษฎ์ โทณะวณิก นักกฎหมาย, นายนิติธร ล้ำเหลือ และ พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป อดีต สว. ได้เข้ายื่นเอกสารกว่า 1,000 หน้า จำนวน 11 รายการต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2568

การยื่นเอกสารครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกล่าวหาคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รวมถึงคณะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณรายจ่ายปี 2568, สส. และ สว. ที่มีมติปรับลดงบประมาณ 35,000 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้ในโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท โดยนายชาญชัยระบุว่าการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายการกระทำความผิดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 144

ตัดงบใช้หนี้ขัดรธน./พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง

นายชาญชัยเปิดเผยว่า เอกสารที่นำมายื่นเพิ่มเติมประกอบด้วยข้อมูลสำคัญหลายส่วน อาทิ แผนบริหารหนี้สาธารณะ, รายงานการตรวจสอบบัญชีของ ธ.ก.ส. และธนาคารออมสิน, เอกสารจากสำนักงบประมาณ และที่สำคัญคือ ความเห็นจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งระบุชัดเจนว่าการเปลี่ยนแปลงงบประมาณต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 และ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง 2561 การตัดงบประมาณที่มีข้อผูกพัน เช่น เงินต้นหรือดอกเบี้ยเงินกู้ เพื่อนำไปใช้ในวัตถุประสงค์อื่น ถือเป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน

นายชาญชัยเน้นย้ำว่า "พฤติการณ์นี้ไม่เพียงเป็นการละเมิดข้อกฎหมาย แต่ยังสะท้อนถึงการใช้อำนาจโดยไม่เคารพหลักธรรมาภิบาล เพียงเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ซึ่งตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 ระบุว่า ผู้ใดมีส่วนเกี่ยวข้องในลักษณะดังกล่าวจะต้องถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง"
 

เงินดิจิทัลกู้แบงก์รัฐควรใช้หนี้ไม่ใช่แจก 

นายชาญชัยยังเปิดเผยอีกว่า เงินที่นำมาใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตมาจากเงินกู้ยืมของ 5 ธนาคารรัฐ ได้แก่ ธ.ก.ส., ธอส., SME Bank, ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า ซึ่งตามหลักแล้วรัฐบาลควรจัดงบประมาณเพื่อใช้หนี้เหล่านี้ ไม่ใช่นำไปแจกเงินเพื่อหวังผลทางการเมือง แม้ตัวนายชาญชัยเองจะเคยดำรงตำแหน่ง สว. และอยู่ในกลุ่มที่อาจได้รับผลประโยชน์จากโครงการนี้ แต่เขามองว่าเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงเรียกร้องให้ ป.ป.ช. เร่งดำเนินการชี้มูลความผิดภายในกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนด

"การแปรญัตติปรับลดงบชำระหนี้ให้ธนาคารรัฐทั้ง 5 แห่ง เพื่อนำไปแจกเงิน เป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 และ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง พ.ศ. 2561 ซึ่งกำหนดให้รัฐบาลต้องตั้งงบเพื่อชดเชยหนี้จากโครงการตามนโยบายรัฐในโอกาสแรกที่สามารถทำได้" นายชาญชัยกล่าวเสริม และแสดงความเชื่อมั่นว่า ป.ป.ช. จะเร่งรัดกระบวนการพิจารณาและส่งคำวินิจฉัยต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยเร็ว

การเมืองไทยไร้สุญญากาศเดินหน้าต่อได้

ด้านนายเจษฎ์ โทณะวณิก นักกฎหมาย กล่าวเสริมว่า หาก สส. และ สว. ที่เกี่ยวข้อง 309 คนต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จากกรณีนี้ อาจมีผู้ตั้งข้อสังเกตถึงการเกิด "สุญญากาศทางการเมือง" อย่างไรก็ตาม นายเจษฎ์ยืนยันว่าจะไม่มีสุญญากาศเกิดขึ้น เพราะยังมีสองทางออก คือ ให้ปลัดกระทรวงต่างๆ เลือกบุคคลมารักษาการนายกรัฐมนตรี หรือ ให้พรรคการเมืองลาออกเพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่ภายใน 45-60 วัน ตามแนวปฏิบัติของระบอบประชาธิปไตย

"คนที่กล่าวหาว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้ต้องการสร้างสุญญากาศเพื่อเปิดทางให้รัฐประหาร นั่นแหละคือพวกที่หวังจะได้ประโยชน์จากความปั่นป่วน หน้าที่ของสมาชิกสภาคือการปกป้องเงินแผ่นดิน แต่เมื่อไม่ทำ ประชาชนจึงลุกขึ้นมาปกป้องแทน และยืนยันว่าการเมืองไทยยังเดินหน้าต่อได้ตามรัฐธรรมนูญ โดยไม่ต้องอาศัยวิธีนอกระบบ" นายเจษฎ์กล่าวสรุป

11 รายการหลักฐานสำคัญที่ยื่นต่อ ป.ป.ช.
เอกสารหลักฐานที่นายชาญชัยและคณะนำส่งมอบเพิ่มเติมให้ ป.ป.ช. ประกอบด้วย 

  • การปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2567 (ครั้งที่ 1, 2, 3)
  • การปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2568 (ครั้งที่ 1)
  • เอกสารงบประมาณฉบับที่ 3 งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2568 เล่มที่ 14 รัฐวิสาหกิจ สำนักงบประมาณ สำนักนายกรัฐมนตรี
  • รายงานการสอบบัญชีและงบการเงิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. 2567 จากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน
  • รายงานการสอบบัญชีและงบการเงินธนาคารออมสินและบริษัทย่อย สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 2567 จากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน
  • การเสนอขอเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ของสำนักงบประมาณ เดือน ส.ค. 2567
  • สำเนาเอกสารด่วนที่สุด ที่ นร. 0903/204 ลงวันที่ 24 มิ.ย. 2568 จากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เกี่ยวกับความเห็นและแนวทางการเสนอและการเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ที่ต้องปฏิบัติตาม ม.144 ของรัฐธรรมนูญปี 2560 และ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังปี 2561 อย่างเคร่งครัด
  • บันทึกการประชุมคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปี 2568 ครั้งที่ 38 เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2567 เวลา 09.30 น.

"ทั้งหมดนี้ เป็นหลักฐานเอกสารการกู้เงินตามมติ ครม. โดย 5 ธนาคารรัฐวิสาหกิจของรัฐ ที่ไปกู้มีวัน เวลา และโครงการตามนโยบายธุรกรรมของรัฐรองรับว่าเป็นเรื่องอะไร" นายชาญชัยกล่าว.

ข่าวล่าสุด

“รูบิโอ” ตอบสื่อสหรัฐ หวังไทย-กัมพูชา หยุดยิงภายในวันอังคาร