posttoday

การเมืองเดือด! จับตารัฐบาลแพทองธารปรับครม.ชี้ชะตาภูมิใจไทย

14 มิถุนายน 2568

เจาะลึกการเมืองร้อนระอุ จับตารัฐบาลแพทองธารปรับครม. ภูมิใจไทยใช้ "ไพ่ลับ" ชิงกระทรวงสำคัญ พร้อมถอดรหัส "เพชรบูรณ์โมเดล" ต้นแบบบ้านใหญ่ครองอำนาจ

สถานการณ์การเมืองไทยในช่วงนี้ร้อนระอุไปด้วยการขับเคลื่อนที่น่าจับตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นการ ปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งกลายเป็นศูนย์กลางของการเจรจาต่อรองระหว่างพรรคการเมืองต่างๆ 

ขณะเดียวกัน "เพชรบูรณ์โมเดล" ก็ผงาดขึ้นมาเป็นกรณีศึกษาที่สะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์อันทรงพลังของกลุ่มบ้านใหญ่ในการช่วงชิงอำนาจทางการเมือง

การปรับคณะรัฐมนตรี: ภูมิใจไทยกับการต่อรองตำแหน่ง

การหารือระหว่าง พรรคเพื่อไทย และ พรรคภูมิใจไทย ในช่วงวันที่ 14-15 มิถุนายนนี้ กำลังเป็นที่จับตาอย่างใกล้ชิด เพราะจะเป็นตัวกำหนดทิศทางที่ชัดเจนของพรรคภูมิใจไทย หลังจากที่พรรคเพื่อไทยได้เข้ากุมกระทรวงมหาดไทยไปแล้ว

แม้ว่าพรรคภูมิใจไทยจะยังไม่พอใจกับข้อเสนอกระทรวงที่ได้รับ แต่ก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดจากตัวเลือกที่มี การเจรจาเหล่านี้เกิดขึ้นในหลายสถานที่ ทั้งย่านเพลินจิตและนวมินทร์

"ไพ่ลับ" ของภูมิใจไทย คือภาพหลุดการเจรจาระหว่าง เนวิน ชิดชอบ, ชาดา ไทยเศรษฐ์ และ นายกอัครเดช ทองใจสด (นายกด๊อยซ์) จากเพชรบูรณ์ ซึ่งเชื่อว่าเป็นกลยุทธ์ทางการเมืองที่ปล่อยออกมาโดยภูมิใจไทยเอง เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองก่อนการเจรจาจริง ภาพดังกล่าวแม้จะเกิดขึ้นมา 2-3 เดือนแล้ว แต่เพิ่งถูกเผยแพร่ในช่วงเวลานี้ เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการเมือง

พรรคเพื่อไทยเสนอตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ให้ภูมิใจไทย แต่ทางภูมิใจไทยกลับขอตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีควบกระทรวงพลังงาน ซึ่งคาดว่าจะถูกปฏิเสธ

นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการยังเป็นอีกหนึ่งกระทรวงที่ภูมิใจไทยต้องการรักษาไว้ เนื่องจากเป็นฐานที่มั่นสำคัญที่มีโครงการขนาดใหญ่จำนวนมาก

มีการพูดถึง โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 157,000 ล้านบาท ซึ่งมาจากงบประมาณที่ปรับลดจากโครงการ Landbridge โดยมีหลายกระทรวงเสนอขอใช้งบประมาณรวมเกือบ 500,000 ล้านบาท ซึ่งภูมิใจไทยต้องการให้โครงการที่เกี่ยวข้องกับพรรคดำเนินไปตามแผนเดิม

พรรครวมไทยสร้างชาติ: ความไม่แน่นอนและการช่วงชิงโควต้า

พรรครวมไทยสร้างชาติกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน เนื่องจากเสียงภายในพรรคยังคงแบ่งเป็นสองฝ่าย ทำให้โอกาสในการเข้าร่วมรัฐบาลอย่างเต็มตัวยังไม่ชัดเจน อาจมีเพียง ส.ส. บางส่วนเท่านั้นที่เข้าร่วม

นอกจากนี้ ยังมีการแย่งชิงโควต้ารัฐมนตรีภายในพรรค หากได้เพียง 1 ตำแหน่ง แต่มีผู้สนใจถึง 2 คนคือ เลขาขิง (นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์) และ หัวหน้าพรรค (นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค) ซึ่งคาดการณ์กันว่า เลขาขิงอาจมีโอกาสได้รับตำแหน่งมากกว่า

บทบาทของพรรคเพื่อไทยในการปรับ ครม.

เดิมทีมีกระแสข่าวว่า แพทองธาร ชินวัตร จะเป็นหัวหน้าทีมเจรจา แต่มีคำแนะนำว่าไม่ควรให้ไปเจรจาโดยตรง เพราะอาจทำให้การเปลี่ยนแปลงทำได้ยากขึ้น จึงอาจส่งผู้จัดการรัฐบาลอย่าง ภูมิธรรม เวชยชัย ไปเจรจาแทน

คาดการณ์ว่าการปรับ ครม. ครั้งนี้จะเป็นเพียงการปรับเล็กน้อย ไม่กี่กระทรวง เช่น กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) โดยพรรคเพื่อไทยเองอาจมีการเปลี่ยนแปลงเพียง 2-3 ตำแหน่งเท่านั้น

ความคาดหวังของประชาชนและการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ

ประชาชนกำลังรอคอยเสถียรภาพของรัฐบาลและการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญอยู่ การปรับ ครม. ครั้งนี้จึงควรให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และจัดทีม ครม. ชุดใหม่เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจมีความรุนแรง โดยเฉพาะสัญญาณเงินฝืดที่ต่อเนื่อง ซึ่งเป็นบทเรียนสำคัญจากประเทศญี่ปุ่นที่แสดงให้เห็นถึงความยากลำบากในการฟื้นตัวของประเทศ

"เพชรบูรณ์โมเดล": กรณีศึกษากลุ่มบ้านใหญ่

ภาพหลุดการเจรจา ระหว่างกลุ่มมะขามหวานเพชรบูรณ์ ซึ่งนำโดย สันติ พร้อมพัฒน์ และ นายกอัครเดช ทองใจสด (นายกด๊อยซ์) กับแกนนำพรรคภูมิใจไทยอย่างเนวิน ชิดชอบ, อนุทิน ชาญวีรกูล และชาดา ไทยเศรษฐ์ ณ คิงเพาเวอร์ รางน้ำ เป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญของ "บ้านใหญ่" ในการเมืองไทย

เพชรบูรณ์ได้กลายเป็น โมเดลความสำเร็จของบ้านใหญ่ ที่สามารถกวาด ส.ส. ได้ทั้งจังหวัด แม้กระแสของพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งปี 2566 จะไม่ดีเท่าปี 2562 ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เพชรบูรณ์ประสบความสำเร็จคือ ความสามัคคี ของบ้านใหญ่ที่รวมกันเป็นหนึ่งเดียว มีการ แบ่งปันผลประโยชน์และอำนาจ อย่างลงตัว และมีการ กระจายทรัพยากร ไปยังบ้านใหญ่ต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ

ตระกูลสำคัญในเพชรบูรณ์ที่รวมตัวกันมี 5 ตระกูลหลัก ได้แก่ พร้อมพัฒน์, โพธิ์ช่วย, เกษรทอง, ทองใจสด และตั้งตระกูล โดยมีคุณสันติ พร้อมพัฒน์ เป็นแกนนำ และนายกด๊อยซ์(อัครเดช ทองใจสด) เป็นผู้ประสานงาน

กลุ่มเพชรบูรณ์ไม่ได้ปิดกั้นการเจรจากับพรรคใดๆ โดยก่อนหน้านี้ได้พูดคุยกับพรรคเพื่อไทย, พรรคกล้าทำ, พรรคโอกาสใหม่ และประชาธิปัตย์ ยกเว้นพรรครวมไทยสร้างชาติ

การเจรจาเหล่านี้เป็นผลประโยชน์ทั้งต่อกลุ่มเพชรบูรณ์ที่ได้อำนาจต่อรองมากขึ้น และต่อพรรคภูมิใจไทยที่ภาพหลุดช่วยเพิ่มอำนาจต่อรองในการปรับ ครม.

อย่างไรก็ตาม "ป่ารอยต่อ" หรือบ้านป่า อาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์นี้ ทำให้บทบาทลดน้อยลง

สถานการณ์การเมืองยังคงเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การปรับ ครม. และกลยุทธ์ของพรรคการเมืองต่างๆ จะส่งผลต่ออนาคตของรัฐบาลและทิศทางของประเทศในระยะต่อไป.

ที่มา ประกอบเนื้อหารายงานข่าว เนชั่นอินไซต์

 

ข่าวล่าสุด

สวนดุสิตโพล เปิด 5 อันดับ “นักการเมือง” ประชาชนเชียร์นั่งนายกฯ