ทุกประเด็นแถลง ‘แพทยสภา’ แชตหลุด-ซ้ำรอยวินิจฉัยศาลปกครองสูงสุด?
โพสต์ทูเดย์ ถอดทุกใจความสำคัญของการแถลง ‘แพทยสภา’ วันนี้ แจงหมดเปลืองทั้งกรณีแชตหลุด - ซ้ำรอยคำวินิจฉัยศาลปกครองสูงสุดหรือไม่ และกลไกการข่มขู่
ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภาคนที่ 1 เป็นตัวแทนคณะกรรมการแพทยสภาตอบคำถามผู้สื่อข่าวหลังการแถลง ยันมติแพทยสภาเดิม ลงโทษแพทย์ที่รักษาอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ของโรงพยาบาลตำรวจและโรงพยาบาลกรมราชทัณฑ์
มติเป็นดุลพินิจของคณะกรรมการแพทยสภา
ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า ก่อนที่จะลงมติวันนี้สภานายกพิเศษได้มาให้ความคิดเห็น ซึ่งท่านวีโต้ ขณะเดียวกัน คณะกรรมการแพทยสภาทุกท่าน ได้รับเอกสารที่ทางสภานายกพิเศาส่งมาตั้งแต่ 2 อาทิตย์ที่แล้ว ทุกท่านได้รับเอกสาร พร้อมกับวันนี้กรรมการแพทยสภาได้มีการนำข้อมูลมาทำเปรียบเทียบ เพื่อให้เห็นมติว่าเป็นเพราะเหตุใด และเหตุผลการยับยั้งเพราะเหตุใด และมีบทวิเคราะห์ ซึ่งคณะกรรมการทุกท่านได้เห็นข้อมูลและใช้ดุลพินิจของตนเองจากข้อมูลที่มี กับเหตุผลต่างๆ จึงมีมติตามนี้
วันนี้ ผมคิดว่าเป็นกระบวนการที่โปร่งใส ชัดเจน และสามารถใช้ดุลยพินิจได้ภายใต้หลักวิชาการ ข้อมูลที่เป็นจริง และเป็นเหตุเป็นผลกัน
แชตหลุด ไม่ใช่กลุ่มทางการของแพทยสภา
อุปนายกแพทยสภาคนที่ 1 ยังได้ตอบสื่อในประเด็นของ ‘แชตหลุด’ ว่าในประเด็นแชตไลน์หลุดนั้น จริงๆ แล้วเป็นข้อมูลอยู่ในไลน์กลุ่มที่ไม่ใช่ไลน์กลุ่มที่เป็นทางการของแพทยสภา หากสังเกตมีการลบป้ายด้านบน เป็นข้อมูลที่แพทย์ซึ่งไม่ได้เป็นกรรมการแพทยสภามีการเมนชั่นถึง และขออนุญาตนิดนึงต้องออกชื่อว่ามีการพูดถึง ‘ทักษิณ ชินวัตร’ และในกรรมการแพทยสภามีผู้คีย์ Yes ลงไป หลายท่านใช้ไลน์ก็คงจะเกิดเหตุการณ์นั้น บางคนได้รับข้อความแล้วก็บอก Yes ได้
สรุปคือ นี่ไม่ใช่ไลน์กลุ่มทางการของแพทยสภา กับอันที่สองการตอบนั้นไม่ได้เป็นการคีย์อะไรลงไปเพื่อแสดงความคิดเห็น เพราะฉะนั้นการที่จะมาบอกว่าสิ่งเหล่านี้จะมากระทบคำตอบคือไม่ใช่
และประเด็นที่ 3 ที่สำคัญซึ่งได้กราบเรียนตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคมแล้วว่า การพิจารณาวาระนี้ของแพทยสภา ไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าใครเป็นผู้ป่วย เราพิจารณาตามหลักวิชาการ และปลอดจากปัจจัยรอบข้าง
วันนี้ มติไม่ได้เกินแค่ 2 ใน 3 แต่เราพิจารณาเป็นรายกรณี และแต่ละกรณีเกิน 60 เสียงขึ้นไป ผมคิดว่าวันนี้ชัดเจนมาก ในเหตุผลก็คือมติเดิมซึ่งเราพิจารณาลงโทษ ไม่ได้มีเหตุผลเพิ่มเติม
สภานายกพิเศษแนบเอกสารวินิจฉัยของศาลปกครองสูงสุด มองไม่เหมาะสมที่จะเทียบเคียงกัน
ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ ยังได้ตอบคำถามสื่อ ในประเด็นที่มีการแนบเอกสารเรื่องคำวินิจฉัยของศาลปกครองสูงสุดของสภานายกพิเศษ
อ่านเพิ่มเติม : เปิด ’เอกสารศาลปกครองสูงสุด‘ ที่สมศักดิ์แนบแจงแพทยสภา ปัดขู่!
การทำงานของคณะกรรมการมีการประชุมทั้งหมด 10 ครั้ง แต่ละครั้งใช้เวลาประชุม 1-6 ชั่วโมง บวกลบคูณหารชั่วโมงทำงานทั้งหมดคืออยู่ระหว่าง 10-60 ชั่วโมง ที่ท่านเห็น 4 เดือนนั้นเราไม่ได้ทำเรื่องนี้อย่างเดียว เรามาประชุมจริงๆแค่ 10 ครั้ง สำหรับวันนี้ หลังจากวันที่ 8 พฤษภาคม เรามีการประชุม 1 ครั้งซึ่งมีการพิจารณาไประดับหนึ่งแล้ว วันนี้เป็นการพิจารณาซ้ำอีก และใช้เวลาเยอะพอสมควร
นอกจากนี้ กรณีการพิจารณาจริยธรรมทางการแพทย์ ไม่สามารถนำไปเปรียบเทียบกับหลายกรณีที่วิชาชีพไม่เหมือนกัน วิชาการไม่เหมือนกัน คอนเซปต์ไม่เหมือนกัน ไม่สามารถเอามาอ้างให้เทียบเคียงกันคงไม่เหมาะสม
ชี้ไม่กดดันทำในสิ่งที่ถูกต้อง แต่ให้ทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ นั่นคือการกดดัน
อุปนายกแพทยสภาคนที่ 1 กล่าวในประเด็นความกดดันของการลงมติ ที่มีไปจนถึงการเปิดรายชื่อผู้โหวตลงมติว่า อยากให้ทุกคนเข้าใจตรงกันในประเด็นนี้ การที่แพทย์จากหลากหลายสถาบันและหลากหลายรุ่น และประชาชนกว่า 5 หมื่นท่านที่ได้ลงนาม จะเห็นว่าสาระใหญ่ของท่านเหล่านั้นต้องการให้แพทยสภายึดมั่นและยืนหยัดในความถูกต้องและรักษาไว้ซึ่งจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ สิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่กรรมการแพทยสภาทุกท่านตระหนักและตั้งใจจะทำอยู่แล้ว
ดังนั้น สิ่งที่ท่านให้ความเห็นผมไม่ใช่แรงกดดัน นั่นคือกำลังใจ เพราะเป็นสิ่งที่เราอยากทำและในความเห็นผมคือเป็นสิ่งที่ชอบแล้วซึ่งการกระทำ
แต่มีบางกลุ่มที่ใช้กลไกบางอย่างพยายามจะทำให้กรรมการแพทยสภาไม่ได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง หรือขัดกับจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ ให้เราทำในสิ่งที่เราไม่ต้องการทำ อย่างนี้ถึงจะเรียกว่ากดดัน หรือถ้าว่าไปแล้วในบางกรณีเข้าเกณฑ์เหมือนข่มขู่ด้วยซ้ำ
ทั้งนี้ ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ได้กล่าวขอบคุณกลุ่มแพทย์ และประชาชนที่สนับสนุนให้คณะกรรมการแพทยสภาทำในสิ่งที่ถูกต้องอีกด้วย
ไม่ว่าจะเป็นแพทย์รุ่นใหม่หรือแพทย์รุ่นเดิม เราได้รับการอบรมสั่งสอนมาเหมือนกัน เราเข้าใจจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ เราเข้าใจความถูกต้อง เราเข้าใจบทบาท และหน้าที่เหมือนกัน ผมอยากจะย้ำว่าวันนี้เราทำตามสิ่งที่เราถูกสอนมา และผมคิดว่า ณ วันนี้ แพทย์ทั้งหลายที่เรียนอยู่ก็จะได้เห็นกรณีนี้ เป็นกรณีศึกษาต่อไป ว่าบทบาทของแพทย์จะมีมากมายเพียงแค่รักษาคนไข้อย่างเดียว คือการรักษาไว้ซึ่งมาตรฐานการรักษาในวันนี้เราทำตามสิ่งที่ถูกสั่งสอนมา และแพทย์ฺที่เรียนอยู่จะได้เห็นกรณีศึกษาว่า บทบาทของแพทย์นั้นนอกจากการรักษาคนไข้ ยังต้องรักษาไว้ซึ่งมาตรฐานการรักษา
สำหรับขั้นตอนหลังจากวันนี้ จะมีการรับรองมติแพทยสภา และวันพรุ่งนี้จะสามารถออกคำสั่งและดำเนินการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบต่อไป ทั้งนี้ ยังมีการเปิดเผยว่าจะมีการพิจารณาโทษแพทย์อื่นเพิ่มเติมด้วย.


