“แพทองธาร” สั่งเร่งประสานเปิด–ปิดด่านไทย-กัมพูชาตรงเวลา
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา เพื่อติดตามสถานการณ์ความมั่นคง ลดความตึงเครียดในพื้นที่
หลังเดินทางถึงจังหวัดสุรินทร์ นายกรัฐมนตรีได้เข้าร่วมประชุมติดตามการคลี่คลายสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ณ โรงพยาบาลกาบเชิง พร้อมรับฟังรายงานจากผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ถึงการเปลี่ยนแปลงเวลาทำการของด่านชายแดน ซึ่งขณะนี้เปิดให้บริการเฉพาะวันจันทร์ พุธ และศุกร์ ระหว่างเวลา 08.00–15.00 น. ขณะที่ฝั่งกัมพูชาเปิดตั้งแต่ 09.00–16.00 น. ส่งผลให้มีเวลาทำการที่ตรงกันเพียง 6 ชั่วโมงต่อวัน
นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำความสำคัญของการประสานงานเพื่อให้เวลาการเปิด–ปิดด่านของทั้งสองประเทศสอดคล้องกัน โดยชี้ว่าการดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในพื้นที่และชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน พร้อมขอความร่วมมือจากหน่วยงานด้านความมั่นคงในการหารือร่วมกับกองทัพกัมพูชา
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดและแม่ทัพภาคที่ 2 ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง พร้อมแสดงความห่วงใยต่อเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานภายใต้ความกดดัน โดยย้ำว่าแนวทางของรัฐบาลคือการรักษาสันติภาพและความสงบเรียบร้อยของประเทศ
นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงมาตรการเสริมด้านความปลอดภัยในโรงเรียน โดยขอให้กระทรวงมหาดไทยเร่งสำรวจและซ่อมแซมหลุมหลบภัย รวมถึงบรรจุเนื้อหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตนในภาวะฉุกเฉินเข้าในการเรียนการสอน เช่นเดียวกับที่ประเทศญี่ปุ่นดำเนินการอยู่ เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่เด็กนักเรียน
ในด้านการสื่อสาร นายกรัฐมนตรีระบุว่าต้องมีการประสานงานที่ชัดเจนระหว่างฝ่ายการเมืองและฝ่ายความมั่นคงทุกระดับ ตั้งแต่ระดับแม่ทัพจนถึงระดับผู้นำประเทศ เพื่อป้องกันความเข้าใจคลาดเคลื่อน โดยเน้นย้ำว่าการสื่อสารภายในประเทศและระหว่างประเทศต้องเคารพข้อตกลงและกติกาสากล
ท้ายที่สุด นายกรัฐมนตรีได้แสดงความขอบคุณต่อเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่ร่วมกันทำงานเพื่อรักษาอธิปไตยและความสงบสุขของประเทศ พร้อมประกาศว่า รัฐบาลพร้อมสนับสนุนทุกหน่วยงานอย่างเต็มที่ โดยขอให้แต่ละกระทรวงรายงานความคืบหน้าตรงต่อรัฐบาล และให้ความสำคัญกับการสื่อสารกับประชาชนอย่างโปร่งใส ป้องกันการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ (Fake News) ที่อาจสร้างความสับสนในสังคม