“ภูมิธรรม” มอบกองทัพพิจารณาเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงความคืบหน้าสถานการณ์ความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา โดยยืนยันว่าสถานการณ์ได้คลี่คลายลงแล้วหลังจากกัมพูชาถอนกำลังกลับสู่จุดเดิมเมื่อปี 2567 และปิดกลบคูเลตตามที่ไทยเรียกร้อง

การเจรจาระดับสูงนำไปสู่ความสำเร็จ

นายภูมิธรรมระบุว่า ความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาเกิดจากกระบวนการเจรจาที่มีการประสานงานกันทุกระดับ ตั้งแต่ระดับนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก และแม่ทัพภาคที่ 2 รวมถึงการใช้ทูตทหารทั้งสองฝ่ายเป็นตัวประสานขับเคลื่อน

"การสั่งให้ทหารรบกันมันเร็วและมันง่าย แต่ความสูญเสียเกิดขึ้นทั้งสองฝ่าย สิ่งสำคัญคือทำอย่างไรให้ยุติโดยไม่มีความสูญเสีย"  

 

ข้อตกลงหลังการเจรจา

หลังการเจรจา ทั้งสองฝ่ายได้ข้อตกลงสำคัญดังนี้:

 

-ให้ทั้งสองฝ่ายเดินสำรวจพื้นที่ร่วมกันเหมือนเดิม

-กัมพูชาปิดกลบคูเลต

-ปรับกำลังกลับสู่จุดเดิมเช่นเดียวกับปี 2567

-หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าโดยเฉพาะจุดที่เคยปะทะกัน

 

การประชุม JBC และประเด็นปราสาท

รองนายกฯ เผยว่าการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ จะคุยกันในเชิงเทคนิคเพื่อให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับการประคองเส้นแดนจนกว่าจะมีข้อตัดสิน

สำหรับประเด็นปราสาทต่างๆ ไทยยังคงยืนยันว่าไม่อยากพูดคุยในรอบนี้ แต่หากฝ่ายกัมพูชาหยิบขึ้นมาก็พร้อมรับฟัง

 

กองทัพรับมอบหมายพิจารณาเปิดด่านชายแดน

 

เรื่องการปิดด่านชายแดน นายภูมิธรรมชี้แจงว่า ขณะนี้ไทยยังไม่ได้ปิดด่าน แต่เป็นการจำกัดเวลาเท่านั้น และยังไม่กระทบต่อการค้า โดยมาตรการปัจจุบันอยู่ในระดับ "Seal Stop Safe"

สำคัญ รองนายกฯ เผยว่าได้มอบหมายให้พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ประเมินความจำเป็นในการจัดการเรื่องด่าน โดยเมื่อเช้าวันที่ 9 มิถุนายนได้คุยกับพลเอกณัฐพลแล้ว ให้พิจารณาเรื่องความจำเป็นในการจะจัดการเรื่องด่านอย่างไร

นายภูมิธรรมเน้นย้ำว่า มติที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติเมื่อสัปดาห์ก่อนได้ให้หน้างานประเมินตามความเป็นจริง โดยได้ประสานกับผู้บัญชาการทหารบก แม่ทัพภาคที่ 2 แม่ทัพภาคที่ 1 และกองกำลังจันทบุรีแล้ว ว่าจะค่อยๆ ใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก "เพราะเราไม่ต้องการให้เสียเลือดเนื้อแม้แต่หยดเดียว ชีวิตประชาชนชายแดนทั้งสองฝ่าย และชีวิตทหารของเราในแนวหน้าเป็นสิ่งสำคัญ"

 

สถานการณ์ปัจจุบัน

 

รองนายกฯ สรุปว่า ปัจจุบันจุดที่มีการปะทะจริงๆ ได้แก่ บริเวณช่องบก สามเหลี่ยมมรกต และต้นพญาสัตบรรณ ได้คลี่คลายลงแล้ว ส่วนพื้นที่อื่นๆ แม้จะยังมีการตรึงกำลัง แต่ไม่มีลักษณะของการปะทะ

"ขอบคุณทุกภาคส่วน ขอบคุณประชาชนทั้งสองประเทศที่อดทนอดกลั้น และขอบคุณทหารทุกฝ่ายที่ไม่ทำให้เหตุการณ์รุนแรงไป" นายภูมิธรรมกล่าวทิ้งท้าย โดยเน้นว่าจากนี้ไปจะต้องวางมาตรการในระยะยาวเพื่อป้องกันปัญหาเขตแดนกับกัมพูชาต่อไป