รทสช.แตกตัว! ส.ส.เดินเกมใหม่ แลกเก้าอี้ ครม.
ศึกปรับ ครม. พลิกสมดุลอำนาจ รทสช.เผชิญจุดเปลี่ยน ส.ส.แตกตัวสู่ "โอกาสใหม่" จ่อรับตำแหน่งรัฐมนตรี แลกเสียงสนับสนุนรัฐบาลต่อ
รายงานพิเศษ: ปรับ ครม. จุดเปลี่ยน รทสช. สู่วงจร “โอกาสใหม่”
การปรับคณะรัฐมนตรีที่ถูกเลื่อนมาหลายเดือน กำลังกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในสมการอำนาจของรัฐบาล โดยเฉพาะในกรณีของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่กำลังเผชิญแรงสั่นสะเทือนภายใน จนนำไปสู่การแยกตัวของ ส.ส. บางกลุ่ม เปิดทางให้เกิดพรรคการเมืองใหม่ หรืออย่างน้อยที่สุดคือ “ฐานอำนาจใหม่” ที่พร้อมต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีในการจัด ครม. รอบนี้
ปมล่าช้าของ ครม. ไม่ได้อยู่ที่ดีลใหญ่ แต่ปัญหาในรทสช.
แม้ก่อนหน้านี้จะมีการคาดการณ์ว่า การปรับ ครม. จะเกิดจากแรงต่อรองระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย แต่เวลานี้ แรงสะเทือนสำคัญกลับมาจากภายใน รทสช. ที่เผชิญความขัดแย้งระหว่างแกนนำพรรคกับ ส.ส. บางกลุ่ม จนนำไปสู่การยื่นใบลาออกอย่างเงียบ ๆ และการเดินเกมเพื่อแยกตัวออกจากพรรคเดิม
ความไม่ลงรอยนี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องภายในพรรค แต่กระทบต่อสมดุลของพรรคร่วมรัฐบาลโดยตรง เพราะ ส.ส. ที่แยกตัวหลายรายยังยืนยันสนับสนุนรัฐบาลต่อไป และนั่นคือจุดเริ่มต้นของดีลใหม่ทางการเมือง
รทสช. : จากพรรคเฉพาะกิจ สู่จุดสิ้นสุดในรัฐบาล?
พรรครวมไทยสร้างชาติ ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม “พรรคเฉพาะกิจ” ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วงเลือกตั้งปี 2566 แต่ในระยะหลังพรรคกลับไร้ทิศทางและความเป็นเอกภาพภายใน การแตกตัวของ ส.ส. จึงถูกมองว่าเป็นสัญญาณว่า รทสช. อาจกำลังเข้าสู่ช่วงขาลง และชื่อของพรรคอาจไม่ปรากฏในพรรคร่วมรัฐบาลอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม ส.ส. บางส่วนที่แยกตัวออกไปยังคงอยู่ในฝั่งสนับสนุนรัฐบาล ซึ่งทำให้พวกเขาอยู่ในฐานะ “ตัวแปรใหม่” ที่สามารถต่อรองได้โดยไม่จำเป็นต้องสังกัดพรรคเดิม
“โอกาสใหม่” กับตำแหน่งรัฐมนตรีที่รออยู่
การแยกตัวของกลุ่ม ส.ส. ไม่ได้หมายถึงการหลุดออกจากเกมการเมือง ตรงกันข้าม กลับเป็นโอกาสในการตั้งหลักใหม่ โดยมีการเปรียบเทียบโมเดลนี้กับกรณีของพรรคกล้า หรือพรรคเล็กที่พร้อมเจรจาเพื่อร่วมรัฐบาลแลกกับตำแหน่ง
คาดการณ์ว่ากลุ่มนี้อาจได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีระดับสูง อาทิ กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงพลังงาน ซึ่งถือเป็นกระทรวงยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ ในขณะที่ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยบางส่วนอาจถูกจัดสรรคืนให้พรรคเพื่อไทย เพื่อสร้างสมดุลใน ครม. ใหม่
บทสรุป: ไม่ใช่แค่การปรับ ครม. แต่คือ “การจัดระเบียบพลังอำนาจใหม่”
การปรับ ครม. ครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงแค่การเปลี่ยนตำแหน่งบุคคล แต่คือการรีเซ็ตพลังภายในรัฐบาล การแตกตัวของ รทสช. เปิดประตูให้กับโครงสร้างอำนาจชุดใหม่ และเปิดพื้นที่ทางการเมืองให้กับกลุ่ม ส.ส. ที่ปรับตัวทันกับสถานการณ์
นี่คือบทพิสูจน์ว่า ในยุคการเมืองเปลี่ยนเร็ว นักการเมืองที่อ่านเกมขาดและปรับตัวไว จะไม่เพียงอยู่รอด แต่จะมี “โอกาสใหม่” รออยู่ตรงหน้า.
ที่มาเนื้อหาประกอบข่าว เนชั่นอินไซต์


