จับตาสภาสูงถกงบ69ควบคู่เลือกองค์กรอิสระท่ามกลางคดีฮั้วสว.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาสมัยวิสามัญที่จะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 29-30 พฤษภาคม 2568 ไม่เพียงแต่พิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณปี 2569 เท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญสำหรับวุฒิสภาในการประชุมเพื่อตัดสินใจในหลายประเด็นสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงมติเลือกบุคลากรในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงที่ ส.ว. กลุ่มหนึ่งกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่อาจส่งผลต่อตำแหน่งหน้าที่ของตนเอง

เนื่องจากสว.หลายรายถูกแจ้งข้อกล่าวหาในคดี "ฮั้วเลือก ส.ว."เกี่ยวข้องกับการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 โดยเฉพาะมาตรา 70 ประกอบกับมาตรา 36, 62 และ 77(1) และต้องไปชี้แจงตามหมายเรียกของคณะกรรมการการเลือกตั้ง  (กกต.)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) นัดพิเศษ เพื่อพิจารณาระเบียบวาระการประชุมวุฒิสภา (สมัยวิสามัญ) ในวันที่ 29-30 พฤษภาคม 2568 ซึ่งประกอบด้วย

• การตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569
• การพิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ที่คณะรัฐมนตรีเสนอต่อวุฒิสภาเพื่อพิจารณาอนุมัติ จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่
• พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 และ พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568
• การตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่ง กรรมการการเลือกตั้ง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และอัยการสูงสุด
• การให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
• การพิจารณาศึกษาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ที่คาดว่าสภาผู้แทนราษฎรจะมีมติรับหลักการในวาระที่หนึ่ง คือ ร่าง พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งคณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ
   

ที่มารายะเอียดเอกสารคลิ๊กอ่านเพิ่มเติม

ขณะที่มีความเคลื่อนไหวของ  น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เปิดเผยความคืบหน้าในการดำเนินการทางกฎหมาย โดยอยู่ระหว่างการร่างคำร้องเพื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยสั่งให้ ส.ว. ทั้ง 200 คน หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการให้ความเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระในทุกขั้นตอน ซึ่งขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้

น.ส.นันทนากล่าวว่า หลังจากร่างคำร้องเสร็จสมบูรณ์ จะดำเนินการรวบรวมรายชื่อ ส.ว. อิสระให้ได้ 1 ใน 10 หรือจำนวน 20 คน เพื่อยื่นต่อ นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา และส่งต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่การร่างคำร้องยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากต้องพิจารณาข้อกฎหมายที่มีความซับซ้อน เพราะเป็นกรณีที่ไม่เคยมี ส.ว. ถูกแจ้งข้อกล่าวหาจำนวนมากเช่นนี้มาก่อน อีกทั้งยังต้องรอการลงชื่อของ ส.ว. บางส่วนที่อยู่ระหว่างการเดินทางไปดูงานต่างประเทศ

น.ส.นันทนายอมรับว่า ขั้นตอนการยื่นเรื่องผ่านประธานวุฒิสภาไปยังศาลรัฐธรรมนูญนั้น อาจมีความยากลำบากกว่าการรวบรวมรายชื่อ ส.ว. 20 คน จึงจำเป็นต้องสอบถามความชัดเจนจากประธานวุฒิสภาว่าจะดำเนินการยื่นเรื่องดังกล่าวหรือไม่ โดยเปรียบเทียบกับกรณีที่ ส.ว. 92 คน ร่วมลงชื่อเสนอคำร้องต่อประธานวุฒิสภา เพื่อถอดถอน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในกรณีใช้อำนาจคณะกรรมการคดีพิเศษ (บอร์ดคดีพิเศษ) สั่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สอบสวนกรณีฮั้วเลือก ส.ว. ซึ่งประธานวุฒิสภาได้ดำเนินการส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญอย่างรวดเร็วภายในวันเดียวกัน

“ไม่ใช่กระบวนการ ‘สีน้ำเงินเซ’ แล้วเราซ้ำ แต่เกรงจะส่งผลเสียรุนแรง และเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ เมื่อ ส.ว. เองกำลังถูกตรวจสอบ แต่จะไปเห็นชอบผู้เข้าไปดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อาจจะเป็นในลักษณะต่างตอบแทน เหมือนเลือกผู้พิพากษามาตัดสินคดีของตัวเองจึงมิควร ดังนั้น ขอร้องให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ในเรื่องนี้เพื่อความสง่างาม” น.ส.นันทนากล่าวทิ้งท้ายด้วยความกังวลถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น