ปมเงื่อนสอบคดีฮั้วสว.พันพรรคสีน้ำเงินโยงเครือข่ายการเมือง

สถานการณ์ทางการเมืองยังคงอยู่ในภาวะตึงเครียดจากกรณีการสอบสวนสมาชิกวุฒิสภา (สว.) และบุคคลภายนอกที่ถูกเรียกตัวมาให้ปากคำ ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับพรรคการเมืองสีน้ำเงิน

ประเด็นนี้ได้ขยายวงกว้างจนนำไปสู่การร้องเรียนและการตรวจสอบในหลายหน่วยงาน สะท้อนถึงความขัดแย้งระหว่างขั้วการเมือง และมีการพาดพิงถึงพรรคภูมิใจไทยอย่างมีนัยสำคัญ

จุดเริ่มต้นของความเคลื่อนไหวนี้มาจากการออกหมายเรียก สว. และบุคคลภายนอก เพื่อให้ข้อมูลในประเด็นที่เกี่ยวโยงกับพรรคสีน้ำเงิน กระบวนการสอบสวนแบ่งออกเป็นสองส่วนหลัก โดยส่วนแรกมุ่งเน้นไปที่ สว. โดยตรง ขณะที่ส่วนที่สองเจาะจงไปที่บุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับพรรคสีน้ำเงิน
 

ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างฝ่ายที่ถูกเรียกว่า "แดง" และ "น้ำเงิน" ได้ทวีความรุนแรงขึ้นจากกรณีนี้ ซึ่งนำไปสู่การยื่นเรื่องร้องเรียนต่อทั้งศาลและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

นอกจากนี้ กลุ่ม สว. ประมาณ 15-16 คน ยังได้ยื่นร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. ให้พิจารณาดำเนินคดีกับ พล.ต.อ. ทวี สอดส่อง และคณะกรรมการสืบสวนฯ ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความไม่เห็นด้วยต่อกระบวนการสอบสวนที่กำลังดำเนินอยู่

ประเด็นที่น่าจับตามองคือความเชื่อมโยงระหว่างบุคคลที่ถูกออกหมายเรียกในล็อตที่สองกับการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพรรคภูมิใจไทย มีการระบุรายชื่อบุคคล 10 ราย ซึ่งส่วนใหญ่มีความสัมพันธ์กับพรรคภูมิใจไทย ได้แก่
 

1. วาริน ชิณวงศ์: นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช และสมาชิกพรรคภูมิใจไทย
2. สุบิน ศักดา: ผู้นำชุมชน และหัวคะแนนของ พิชัย ชมภูพล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) สุราษฎร์ธานี พรรคภูมิใจไทย
3. สมเกียรติ เลียงประสิทธิ์ (โกเกียรติ): เจ้าของค่ายมวยเกียรติเจริญชัยกรุ๊ป และบิดาของ วรศิษฏ์ เลียงประสิทธิ์ สส. สตูล พรรคภูมิใจไทย
4. สมเจตน์ ลิปะพันธ์: ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (อนุทิน ชาญวีรกูล) และอดีต สส. สุโขทัย พรรคภูมิใจไทย
5. วงศกร ชนะกิจ: เลขานุการคณะกรรมาธิการป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย สภาผู้แทนราษฎร และอดีตผู้สมัคร สส. ภูเก็ต เขต 2 พรรคภูมิใจไทย
6. ศุภชัย โพธิ์สุ: อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 และอดีต สส. นครพนม พรรคภูมิใจไทย
7. นภินทร ศรีสรรพางค์: รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
8. เตชสิทธิ์ ชูแก้ว
9. สมศักดิ์ จันทร์แก้ว
10. ณัฐกิตติ์ หนูรอด

นอกเหนือจากการดำเนินการของ ป.ป.ช. แล้ว ยังมีการเรียกร้องให้อัยการสูงสุดเข้ามาตรวจสอบผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีที่ถูกกล่าวถึงในชื่อ "ฮั้ว สว." ซึ่งอาจมีการนำมาตรา 49 มาใช้ในการสืบสวนเชิงลึก

อีกประเด็นที่น่าสนใจคือการพบข้อมูลการใช้โทรศัพท์ติดต่อประสานงานกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) และพรรคการเมืองต่างๆ

โดยข้อมูลบ่งชี้ว่ามีการติดต่อกับนักการเมืองของพรรคภูมิใจไทยมากที่สุด ซึ่งอาจเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสร้างความสัมพันธ์หรือการประสานงานทางการเมือง

ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเลือก สว. มีการกล่าวถึงกระบวนการ "เลือกไขว้" ในบางจังหวัด และมีการอ้างถึงการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการนี้

นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวถึงการควบคุมและบริหารจัดการ สว. ในรอบการเลือกไขว้ดังกล่าว

สถานการณ์การสอบสวน สว. ที่มีความเชื่อมโยงกับพรรคสีน้ำเงิน ได้นำไปสู่การตรวจสอบในหลายภาคส่วน และเผยให้เห็นถึงความเชื่อมโยงที่น่าสนใจกับพรรคภูมิใจไทย

การตรวจสอบการติดต่อสื่อสารและการเลือกไขว้ สว. โดยมีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้อง บ่งชี้ถึงความซับซ้อนของเรื่องราว และอาจมีเบื้องหลังที่ต้องมีการสืบสวนอย่างละเอียดต่อไป

ผลลัพธ์ของการสอบสวนและการดำเนินการทางกฎหมายในอนาคต จะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะส่งผลต่อภูมิทัศน์ทางการเมืองของประเทศไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ที่มา ประกอบเนื้อหารายงานข่าว ฐานเศรษฐกิจ