posttoday

เกาะติดเลือกตั้งท้องถิ่น11พ.ค.วัดกระแส2พรรคเพื่อไทย-ประชาชน

10 พฤษภาคม 2568

เกาะติดเลือกตั้งเทศบาล วัดกระแส2พรรคการเมืองใหญ่ จับจ้องนครเชียงใหม่ รังสิต สนามแข่งเดือด กกต.พร้อมจัดการลงคะแนน

KEY

POINTS

  • เลือกตั้งเทศบาล 11 พ.ค. ชี้วัดความนิยม 2 พรรคการเมืองเพื่อไทย ประชาชน
  • นครเชียงใหม่-รังสิต ถือเป็นสนามแข่งเดือดวัดกำลังพรรคใหญ่-กลุ่มท้องถิ่น
  • กกต.ยืนยันความพร้อมจัดการเลือกตั้งเทศบาลให้เป็นไปสุจริตและเที่ยงธรรม
  • ประชาชนติดตามผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการได้ตั้งแต่19.00 น. 

บรรยากาศการเมืองท้องถิ่นทั่วประเทศกำลังคึกคัก ก่อนถึงวันเลือกตั้งเทศบาลในวันพรุ่งนี้ (11 พฤษภาคม) ซึ่งเป็นการเลือกตั้งครั้งสำคัญที่ครอบคลุม ครอบคลุมเทศบาลทั้ง 2,463 แห่งทั่วประเทศ แบ่งเป็น เทศบาลนคร 33 แห่ง เทศบาลเมือง 213 แห่ง และเทศบาลตำบล 2,217 แห่ง โดยจะมีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีจำนวน 2,128 คน และสมาชิกสภาเทศบาลรวม 31,218 คน รวมทั้งสิ้น 33,346 คน (ข้อมูลล่าสุดจากคณะกรมการกกต.)

 การเลือกตั้งครั้งนี้ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด เนื่องจากถูกมองว่าเป็นดัชนีชี้วัดความนิยมและกระแสของพรรคการเมืองระดับชาติ ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในอนาคต

พรรคประชาชนภายใต้การนำของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้นำจิตวิญญาณ ตั้งเป้าหมายที่จะส่งผู้สมัครลงชิงชัยในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในเทศบาลนคร 15 แห่ง, เทศบาลเมือง 28 แห่ง และเทศบาลตำบล 54 แห่ง ซึ่งเป็นการประกาศศักดาและขยายฐานเสียงของพรรคอย่างชัดเจน

สนามเลือกตั้งที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษคือ นครเชียงใหม่ ซึ่งเป็นการแข่งขันที่น่าสนใจระหว่างขั้วการเมืองสำคัญ โดยเป็นการวัดกำลังระหว่างอิทธิพลของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งให้การสนับสนุนผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย กับ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ที่ส่งผู้สมัครลงแข่งขันอย่างแข็งขัน การต่อสู้ในพื้นที่นี้จึงถูกมองว่าเป็นการประลองกำลังครั้งสำคัญของสองขั้วการเมือง

อีกหนึ่งสมรภูมิที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ นครรังสิต จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นการแข่งขันระหว่างผู้สมัครจาก พรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นที่จับตาในฐานะพรรคการเมืองรุ่นใหม่ที่ได้รับความนิยม กับ บิ๊กแจ๊ส พลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งลงสมัครในนามกลุ่มการเมืองท้องถิ่น การแข่งขันในพื้นที่นี้จึงเป็นการวัดพลังระหว่างกระแสความเปลี่ยนแปลงกับฐานเสียงทางการเมืองในระดับท้องถิ่น

นอกจากประเด็นการเลือกตั้งท้องถิ่นแล้ว วงการเมืองยังคงจับจ้องไปที่ความคืบหน้าใน กรณีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้สมัครสูงถึง 46,000 คน และเกิดกระแสข่าวเรื่องการฮั้วการเลือกตั้งอย่างหนาหู โดยขณะนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อร้องเรียนต่างๆ อย่างเข้มข้น

กกต. มีอำนาจตามกฎหมายในการให้ใบแดงแก่ สว. ที่พบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งภายในระยะเวลา 1 ปี นับจากวันประกาศผลการเลือกตั้ง ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 26 มิถุนายน 2567 

ล่าสุดมีกระแสข่าวว่าอาจมีการยื่นเรื่องให้ กกต. พิจารณา สว. ที่มีปัญหาในการเลือกตั้งประมาณ 50-60 คน ภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นประเด็นที่น่าติดตามอย่างใกล้ชิด

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า กกต. ได้มีการทำงานร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ในการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีการฮั้วการเลือกตั้ง สว. โดย DSI มีข้อมูลในเบื้องต้นแล้วประมาณ 70% อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกตถึงแรงกดดันทางการเมืองที่อาจมีผลต่อการพิจารณาและตัดสินใจในเรื่องนี้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้สังคมยังคงเฝ้ารอผลการดำเนินการของ กกต. อย่างใจจดใจจ่อ

การเลือกตั้งเทศบาลในวันพรุ่งนี้และการติดตามความคืบหน้าในกรณีการเลือกตั้ง สว. จึงเป็นสองประเด็นทางการเมืองที่สำคัญและน่าจับตามองอย่างยิ่งในขณะนี้
 
ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงข่าวยืนยันความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีทั่วประเทศโดย พ.ต.ท. ระพีพงษ์ จิตรพิพัฒนลักษณ์ รองเลขาธิการ กกต. เปิดเผยว่า ได้มีการเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ และระบบงานทุกด้านเรียบร้อยแล้ว พร้อมเน้นย้ำให้ทุกฝ่ายดำเนินการตามกฎหมายเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างสุจริตและเที่ยงธรรม

กกต.เน้นย้ำข้อห้ามสำคัญในช่วงก่อนและวันเลือกตั้ง ได้แก่ การหาเสียงหลังเวลา 18.00 น. ของวันที่ 10 พฤษภาคม, การจัดเลี้ยงสุรา, การขนส่งผู้มีสิทธิเลือกตั้งโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย, และการกระทำที่เข้าข่ายซื้อเสียงหรือให้ผลประโยชน์อื่นใด ฝ่าฝืนมีโทษทั้งจำและปรับ รวมถึงอาจถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง

ประชาชนสามารถติดตามผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการได้ตั้งแต่เวลา 19.00 น. ของวันเลือกตั้ง ผ่านเว็บไซต์ www.ect.go.th และแอปพลิเคชัน “Smart Vote”ขอเชิญชวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศออกมาใช้สิทธิในวันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. 

แหล่งที่มา ประกอบเนื้อหาข่าว เนชั่นอินไซต์ , สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง