เกาะติดเลือกตั้งท้องถิ่น11พ.ค.วัดกระแส2พรรคเพื่อไทย-ประชาชน
บรรยากาศการเมืองท้องถิ่นทั่วประเทศกำลังคึกคัก ก่อนถึงวันเลือกตั้งเทศบาลในวันพรุ่งนี้ (11 พฤษภาคม) ซึ่งเป็นการเลือกตั้งครั้งสำคัญที่ครอบคลุม ครอบคลุมเทศบาลทั้ง 2,463 แห่งทั่วประเทศ แบ่งเป็น เทศบาลนคร 33 แห่ง เทศบาลเมือง 213 แห่ง และเทศบาลตำบล 2,217 แห่ง โดยจะมีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีจำนวน 2,128 คน และสมาชิกสภาเทศบาลรวม 31,218 คน รวมทั้งสิ้น 33,346 คน (ข้อมูลล่าสุดจากคณะกรมการกกต.)
การเลือกตั้งครั้งนี้ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด เนื่องจากถูกมองว่าเป็นดัชนีชี้วัดความนิยมและกระแสของพรรคการเมืองระดับชาติ ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในอนาคต
พรรคประชาชนภายใต้การนำของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้นำจิตวิญญาณ ตั้งเป้าหมายที่จะส่งผู้สมัครลงชิงชัยในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในเทศบาลนคร 15 แห่ง, เทศบาลเมือง 28 แห่ง และเทศบาลตำบล 54 แห่ง ซึ่งเป็นการประกาศศักดาและขยายฐานเสียงของพรรคอย่างชัดเจน
สนามเลือกตั้งที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษคือ นครเชียงใหม่ ซึ่งเป็นการแข่งขันที่น่าสนใจระหว่างขั้วการเมืองสำคัญ โดยเป็นการวัดกำลังระหว่างอิทธิพลของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งให้การสนับสนุนผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย กับ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ที่ส่งผู้สมัครลงแข่งขันอย่างแข็งขัน การต่อสู้ในพื้นที่นี้จึงถูกมองว่าเป็นการประลองกำลังครั้งสำคัญของสองขั้วการเมือง
อีกหนึ่งสมรภูมิที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ นครรังสิต จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นการแข่งขันระหว่างผู้สมัครจาก พรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นที่จับตาในฐานะพรรคการเมืองรุ่นใหม่ที่ได้รับความนิยม กับ บิ๊กแจ๊ส พลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งลงสมัครในนามกลุ่มการเมืองท้องถิ่น การแข่งขันในพื้นที่นี้จึงเป็นการวัดพลังระหว่างกระแสความเปลี่ยนแปลงกับฐานเสียงทางการเมืองในระดับท้องถิ่น
นอกจากประเด็นการเลือกตั้งท้องถิ่นแล้ว วงการเมืองยังคงจับจ้องไปที่ความคืบหน้าใน กรณีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้สมัครสูงถึง 46,000 คน และเกิดกระแสข่าวเรื่องการฮั้วการเลือกตั้งอย่างหนาหู โดยขณะนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อร้องเรียนต่างๆ อย่างเข้มข้น
กกต. มีอำนาจตามกฎหมายในการให้ใบแดงแก่ สว. ที่พบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งภายในระยะเวลา 1 ปี นับจากวันประกาศผลการเลือกตั้ง ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 26 มิถุนายน 2567
ล่าสุดมีกระแสข่าวว่าอาจมีการยื่นเรื่องให้ กกต. พิจารณา สว. ที่มีปัญหาในการเลือกตั้งประมาณ 50-60 คน ภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นประเด็นที่น่าติดตามอย่างใกล้ชิด
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า กกต. ได้มีการทำงานร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ในการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีการฮั้วการเลือกตั้ง สว. โดย DSI มีข้อมูลในเบื้องต้นแล้วประมาณ 70% อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกตถึงแรงกดดันทางการเมืองที่อาจมีผลต่อการพิจารณาและตัดสินใจในเรื่องนี้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้สังคมยังคงเฝ้ารอผลการดำเนินการของ กกต. อย่างใจจดใจจ่อ
การเลือกตั้งเทศบาลในวันพรุ่งนี้และการติดตามความคืบหน้าในกรณีการเลือกตั้ง สว. จึงเป็นสองประเด็นทางการเมืองที่สำคัญและน่าจับตามองอย่างยิ่งในขณะนี้
ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงข่าวยืนยันความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีทั่วประเทศโดย พ.ต.ท. ระพีพงษ์ จิตรพิพัฒนลักษณ์ รองเลขาธิการ กกต. เปิดเผยว่า ได้มีการเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ และระบบงานทุกด้านเรียบร้อยแล้ว พร้อมเน้นย้ำให้ทุกฝ่ายดำเนินการตามกฎหมายเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างสุจริตและเที่ยงธรรม
กกต.เน้นย้ำข้อห้ามสำคัญในช่วงก่อนและวันเลือกตั้ง ได้แก่ การหาเสียงหลังเวลา 18.00 น. ของวันที่ 10 พฤษภาคม, การจัดเลี้ยงสุรา, การขนส่งผู้มีสิทธิเลือกตั้งโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย, และการกระทำที่เข้าข่ายซื้อเสียงหรือให้ผลประโยชน์อื่นใด ฝ่าฝืนมีโทษทั้งจำและปรับ รวมถึงอาจถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง
ประชาชนสามารถติดตามผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการได้ตั้งแต่เวลา 19.00 น. ของวันเลือกตั้ง ผ่านเว็บไซต์ www.ect.go.th และแอปพลิเคชัน “Smart Vote”ขอเชิญชวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศออกมาใช้สิทธิในวันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น.
แหล่งที่มา ประกอบเนื้อหาข่าว เนชั่นอินไซต์ , สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง