พีระพันธุ์ส่อผิดกม.เลือกตั้ง สมัครสส. ขณะเป็นเลขานายกฯประยุทธ์

ประเด็นร้อนทางการเมืองที่กำลังถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด คือกรณีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กำลังถูกตั้งข้อสงสัยว่าอาจกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง จากการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ขณะที่ดำรงตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 (พรป. ส.ส. 61)

นายพีระพันธุ์ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ โดยไม่ลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งขัดต่อกฎหมายเลือกตั้งที่ห้ามเจ้าพนักงานของรัฐลงสมัครรับเลือกตั้ง ต่อมา เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2566 ได้ยื่นหนังสือลาออกจาก สส. โดยให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ซึ่งเป็นวันเลือกตั้ง สร้างความสงสัยให้กับหลายฝ่าย เนื่องจากในวันดังกล่าว นายพีระพันธุ์ยังไม่ได้เป็น ส.ส. อย่างเป็นทางการ การลาออกดังกล่าวจึงดูมีพิรุธ

รัฐธรรมนูญมาตรา 98(15) และ พรป. ส.ส. 61 มาตรา 42(17) กำหนดลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. โดยระบุว่าบุคคลที่เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง

ศาลรัฐธรรมนูญได้เคยวินิจฉัยเกี่ยวกับความเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐไว้ โดยมีองค์ประกอบดังนี้ 

• ได้รับการแต่งตั้งตามกฎหมาย
• มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการหรือหน้าที่ปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎหมายและปฏิบัติงานประจำ
• อยู่ในบังคับบัญชาหรือในกำกับดูแลของรัฐ
• มีเงินเดือน ค่าจ้าง หรือค่าตอบแทนตามกฎหมาย
• จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรีจึงถูกตีความว่าเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ

ไล่เรียงลำดับไทม์ไลน์"พีระพันธุ์" 

20 ธันวาคม 2565: นายพีระพันธุ์ได้รับแต่งตั้งเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (คลิ๊กอ่าน)
4 เมษายน 2566: พรรครวมไทยสร้างชาติยื่นรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยมีชื่อนายพีระพันธุ์เป็นผู้สมัครหมายเลข 1
14 พฤษภาคม 2566: วันเลือกตั้ง ส.ส.
19 มิถุนายน 2566: กกต. ประกาศรับรองนายพีระพันธุ์เป็น สส.บัญชีรายชื่อ (คลิ๊กอ่าน)
30 มิถุนายน 2566: นายพีระพันธุ์ยื่นหนังสือลาออกจาก สส. โดยให้มีผลย้อนหลังถึงวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 (คลิ๊กอ่าน)

เรื่องนี้ การดำเนินการทางกฎหมาย นายสนธิญา สวัสดี ได้ยื่นหนังสือต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อ้างว่านายพีระพันธุ์กระทำผิดตาม พรป. ส.ส. มาตรา 151 ซึ่งมีบทลงโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี

การลาออกจากสส.ให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันเลือกตั้ง และอ้างว่าต้องการอยู่ทำงานกับพลเอกประยุทธ์ เป็นเหตุผลในการลาออกของนายพีระพันธุ์ ทำให้เกิดข้อสงสัยถึงความเหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ การตรวจสอบของ กกต. จะเป็นตัวชี้วัดนายพีระพันธุ์ผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่