กกต. เริ่มสอบ "53 สว." ล็อตแรก ปมฮั้วเลือก พบโยงใย "รัฐมนตรี"
ความคืบหน้าคดี "ฮั้วเลือก สว." ล่าสุด คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เริ่มดำเนินการออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหาล็อตแรกจำนวน 53 ราย ซึ่งทั้งหมดเป็นสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ชุดปัจจุบัน
เอกสารที่ กกต. ส่งไปยัง สว. เหล่านี้ มีเนื้อหาแจ้งข้อกล่าวหาอย่างชัดเจนถึงพฤติการณ์ที่ถูกร้องเรียนว่าอาจเข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย นั่นคือการใช้เงินหรือผลประโยชน์เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับการเลือกตั้งเป็น สว.
นอกจากนี้ ในหมายเรียกยังมีการแนบหลักฐานประกอบการพิจารณาเบื้องต้นของ กกต. อาทิ ข้อมูลการโอนเงิน วันที่ เวลา และผู้รับเงิน เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหาได้ทราบถึงมูลเหตุแห่งการถูกกล่าวหา
สำหรับ สว. ที่มีภูมิลำเนาในกรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ของ กกต. จะนำหมายเรียกไปส่งมอบให้ด้วยตนเอง ณ ที่อยู่ที่ได้แจ้งไว้ตอนสมัคร หรือตามภูมิลำเนาที่ตรวจสอบได้ ซึ่งในกลุ่มนี้มีรายงานว่ารวมถึง สว. ที่มีชื่อย่อ "อ." ซึ่งเพิ่งตกเป็นข่าวใหญ่ก่อนหน้านี้ด้วย
ส่วน สว. และบุคคลที่เกี่ยวข้องซึ่งอยู่ในต่างจังหวัด กกต. ได้ประสานความร่วมมือกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ เพื่อดำเนินการส่งหมายเรียกทางไปรษณีย์ลงทะเบียน หรือให้เจ้าหน้าที่ร่วมกันนำส่งถึงภูมิลำเนา โดยมีเจ้าหน้าที่ กกต. ประจำจังหวัดเป็นผู้ประสานงานหลัก
การออกหมายเรียกในขณะนี้ยังไม่ได้หมายความว่า สว. และบุคคลที่มีชื่อปรากฏในเอกสารเป็นผู้กระทำความผิดจริง แต่เป็นขั้นตอนการแจ้ง "ข้อกล่าวหา" ให้ "ผู้ถูกกล่าวหา"ได้รับทราบ และมีสิทธิ์ที่จะเข้าพบพนักงานสอบสวนของ กกต. เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและแก้ข้อกล่าวหาทั้งหมดภายในระยะเวลาที่กำหนด (เบื้องต้นอาจเป็น 7 หรือ 15 วัน และสามารถขอขยายเวลาได้)
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ กกต., ดีเอสไอ และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เปิดเผยว่า ในบัญชีรายชื่อผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดมีจำนวนถึง 150 ราย
ที่น่าสนใจคือ นอกจาก สว. แล้ว ยังปรากฏชื่อนักการเมืองระดับ "รัฐมนตรี" ทั้งในปัจจุบันและอดีต รวมถึงบุคคลจากพรรคการเมืองที่มีชื่อเสียงในระดับประเทศ เนื่องจากพบหลักฐานสำคัญที่ชี้ให้เห็นถึงเส้นทางการเงินที่อาจเกี่ยวข้องกับการ "ฮั้วเลือก สว." โดย กกต. เตรียมที่จะทยอยออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหาในกลุ่มนี้เพิ่มเติมภายในสัปดาห์นี้และสัปดาห์หน้า ซึ่งคาดว่าจะนำไปสู่การขยายผลของคดีครั้งใหญ่อีกด้วย