‘สงคราม’ หวังศึกซักฟอก ‘แม่ทัพป้อม’ พูดมากกว่า “ไม่รู้ ไม่รู้”
‘สงคราม’ หวัง‘แม่ทัพป้อม’ พูดมากกว่า “ไม่รู้ ไม่รู้” ในการนำ ‘ฝ่ายค้าน’ สู้ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ เตือนซักฟอกประเด็น ‘เอ็มโอยู 44’ ระวังเข้าตัว
นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี (นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ) กล่าวถึงถึงญัตติการขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 เพื่ออภิปรายนางสาวแพทองธาร ว่า แม้ล่าสุดพรรคร่วมฝ่ายค้าน จะได้ปรับแก้ไขญัตติที่ยื่นต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรในครั้งแรก
โดยตัดชื่อ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีออกจากญัตติ โดยใช้คำว่า บุคคลในครอบครัวแทนว่า ภายหลังตรวจสอบญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว ถือว่าถูกต้องตามข้อบังคับ ซึ่งชัดเจนว่าพรรคฝ่ายค้านต้องการที่จะอภิปรายเพื่อโจมตีดร.ทักษิณบิดาของนายกรัฐมนตรีและครอบครัวให้จงได้
เป็นการพยายามกระทำการที่อาจจะก่อให้เกิดการกระทำที่ผิดกฎขอบังคับของการประชุมสภาผู้แทนราษฎรและผิดกฎหมายอาญาตามมา
นายสงคราม กล่าวด้วยว่า แม้จะมีการบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมสภาแล้วก็ตาม แต่การอภิปรายในสภากำหนดให้สมาชิกสภาพูดกับประธานสภาและคนที่ท่านกำลังอภิปรายเท่านั้น ไม่ได้ให้อภิปรายถึงบุคคลภายนอกที่ไม่มีโอกาสชี้แจงในที่ประชุมสภา
ดังนั้นหากมีการเอ่ยถึงบุคคลอื่นในครอบครัวของนายกรัฐมนตรีให้ได้รับความเสียหาย ผู้อภิปรายก็ต้องยอมรับผลของการกระทำของตนเองที่อาจจะมีดำเนินคดีตามกฎหมายตามมาเพราะหากมีการดำเนินคดีจากคนนอกไม่สามารถใช้เอกสิทธิ์คุ้มครองได้
ส่วนกรณีที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่เตรียมจะอภิปรายนางสาวแพทองธาร ในประเด็นที่เกี่ยวกับที่ดินในสนามกอล์ฟอัลไพน์ รวมทั้งประเด็นเอ็มโอยู 44 เพราะสมัยเป็นรองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลที่แล้วพลเอกประวิตรเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง
หากจะหยิบยกมาอภิปราย ก็ไม่นาจะมีปัญหาอะไร เชื่อว่านางสาวแพทองธารชี้แจงได้ เพราะเป็นประเด็นที่มีการชี้แจงผ่านสื่อสารธารณะกันไปแล้วในหลายวาระ หากพลเอกประวิตร จะขุดของเก่ามาอภิปรายก็เป็นสิทธิ์ของท่าน
แต่ที่ผ่านมาสมัยที่พลเอกประวิตรเรืองอำนาจหากมีใครไปถามท่านในประเด็นเดียวกันท่านจะตอบว่าแต่เพียงว่า “ไม่รู้ ไม่รู้” อย่างเดียว การอภิปรายครั้งนี้หากถามว่าสมัยท่านทำอะไรบ้างท่านอย่าตอบว่าไม่รู้ก็แล้วกัน
รวมทั้งเป็นโอกาสดีที่พลเอกประวิตรจะมีโอกาสพูดในสภานานกว่า 20 วินาทีไม่เหมือนในอดีตที่ผ่านมา


