posttoday

'วันนอร์'สั่งพักประชุมร่วมรัฐสภาให้วิป3ฝ่ายร่วมหารือปมแก้รธน.

13 กุมภาพันธ์ 2568

ประชุมร่วมรัฐสภา ตึงเครียด หลังภูมิใจไทย วอล์คเอาท์ ไม่ร่วมพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ นพ.เปรมศักดิ์ เพียรยุระ ยื่นญัตติด่วน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอำนาจรัฐสภา ประธานรัฐสภาสั่งพักประชุม 15 นาที เพื่อให้วิป 3 ฝ่ายหารือ

เมื่อวันที่ 13กุมภาพันธ์ 2568  การประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 เพื่อเปิดทางให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หลังจากนายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ แจ้งประธานที่ประชุมร่วมรัฐสภา สส.ภูมิใจไทย ไม่ขอร่วมพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ หวั่นขัดคำวินิจฉัยศาลฯ ก่อน สส.ภูมิใจไทยทั้งหมดจะวอล์คเอาท์ออกจากห้องประชุม

นพ.เปรมศักดิ์ เพียรยุระ สมาชิกวุฒิสภากลุ่ม ส.ว.สีขาว เปิดเผยว่า ได้ยื่นญัตติด่วนต่อ นายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เมื่อเวลา 08.30 น. เพื่อขอให้รัฐสภามีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเกี่ยวกับอำนาจและหน้าที่ของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 วรรคหนึ่ง (2) โดยมีสมาชิกทั้ง ส.ส. และ ส.ว. ลงชื่อสนับสนุนกว่า 40 คน ซึ่งถือเป็นญัตติร่วมกันของทั้งสองสภา

การยื่นญัตติดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากที่ประชุมรัฐสภาจะพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 ซึ่งเสนอโดย นายพริษฐ์ วัชระสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน และนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ สมาชิกสภามีความเห็นที่หลากหลายและยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน ประเด็นสำคัญคือ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อปี 2564 ระบุว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องผ่านประชามติก่อน แต่การยื่นแก้ไขครั้งนี้ยังไม่มีการทำประชามติ จึงเห็นว่าเป็นการข้ามขั้นตอน รัฐสภาควรมีมติให้ดำเนินการประชามติก่อน
 

อย่างไรก็ตาม จำนวนครั้งของการทำประชามติยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด ทำให้ต้องยื่นญัตติในครั้งนี้เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้วินิจฉัย เมื่อมีคำวินิจฉัยแล้ว ทุกองค์กรต้องปฏิบัติตาม และเมื่อนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมร่วมรัฐสภา ตนจะขออภิปรายถึงเหตุผลของการยื่นญัตติต่อไป

เมื่อถูกถามว่าการยื่นญัตติครั้งนี้เป็นการขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยแล้วว่าเป็นอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ นพ.เปรมศักดิ์ชี้แจงว่า คำวินิจฉัยปี 2564 กำหนดให้ประชาชนต้องให้ความเห็นชอบก่อน ซึ่งหมายถึงการทำประชามติ แต่ยังไม่มีข้อสรุปแน่ชัดว่าต้องทำกี่ครั้ง การยื่นญัตติครั้งนี้จึงมีเป้าหมายเพื่อให้เกิดความชัดเจน และไม่ซ้ำซ้อนกับการยื่นครั้งก่อน เพราะครั้งนี้ยื่นหลังจากที่ประธานรัฐสภารับญัตติของนายพริษฐ์และนายวิสุทธิ์แล้ว

"ยืนยันว่าการยื่นญัตติครั้งนี้ไม่ใช่ความพยายามขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พวกเราสมาชิก ส.ว. กลุ่มสีขาว ไม่ได้ต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ต้องการให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การดำเนินการใด ๆ โดยไม่คำนึงถึงขั้นตอนอาจก่อให้เกิดความเสียหาย และหากเกิดขึ้น ใครจะรับผิดชอบ? ในฐานะวุฒิสภา เราต้องมีวุฒิภาวะในการแก้ปัญหา" นพ.เปรมศักดิ์กล่าว

นายวันมูหะมัดนอร์ ได้หยิบยกญัตติด่วนของ นพ.เปรมศักดิ์ เพียรยุระ ที่เสนอให้รัฐสภามีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเกี่ยวกับอำนาจและหน้าที่ของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 วรรคหนึ่ง (2) ขึ้นมาพิจารณา ซึ่งทำให้นายณัฐวุฒิลุกขึ้นขอหารือ โดยตั้งข้อสังเกตว่าญัตติดังกล่าวได้ยื่นถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ เนื่องจากยังไม่มีการแจกจ่ายให้สมาชิกได้รับทราบ จึงขอให้ประธานสั่งพักการประชุม 15 นาที เพื่อเปิดโอกาสให้วิป 3 ฝ่ายหารือร่วมกัน

ด้าน นพ.เปรมศักดิ์ ลุกขึ้นชี้แจงว่า ตนทราบถึงระเบียบการยื่นญัตติด่วนเป็นอย่างดี จึงได้รวบรวมรายชื่อสมาชิกทั้งจาก ส.ส. และ ส.ว. เพื่อให้เป็นญัตติร่วมกัน เนื่องจากเห็นว่าเป็นประเด็นสำคัญ โดยมีผู้ร่วมลงชื่อมากกว่า 40 คนแน่นอน พร้อมย้ำว่าเอกสารทุกฉบับได้ดำเนินการตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง ไม่จำเป็นต้องกังวล

อีกทั้งในฐานะที่เป็นสมาชิกสภามานาน ตนเข้าใจดีว่าสมาชิกที่เพิ่งเข้ามาอาจต้องการตรวจสอบความถูกต้องของการยื่นญัตติ ดังนั้น ขอให้มั่นใจว่าตนเป็นผู้มีวุฒิภาวะ รอบคอบในทุกขั้นตอน เพราะต้องการให้การประชุมเป็นไปอย่างเรียบร้อย เนื่องจากประชาชนกำลังจับตามองว่าสมาชิกมีแนวคิดอย่างไร ตนจึงบรรจงเขียนญัตตินี้อย่างดีที่สุดเพื่อให้สมาชิกพิจารณาตามกระบวนการที่เหมาะสม

ภายหลังการชี้แจง นายวันมูหะมัดนอร์ เห็นว่าญัตติของ นพ.เปรมศักดิ์ เป็นเรื่องเร่งด่วน จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่แจกจ่ายเอกสารให้สมาชิกรัฐสภาได้อ่าน พร้อมประกาศพักการประชุม 15 นาที เพื่อเปิดโอกาสให้ทั้ง 3 ฝ่ายศึกษาและหารือร่วมกัน.

ข่าวล่าสุด

กัมพูชาเปิดฉากยิงช่องอานม้า ฝ่ายไทยสูญเสีย ยังปะทะเดือด