เปิด 4 ปม ทนายทักษิณ ต่อสู้คดี112 ลุ้น18มิ.ย. คำร้องคัดค้านฟังขึ้น-ไม่ขึ้น
เปิด4 ประเด็น ทีมทนายความทักษิณ ชินวัตร ยื่นต่อสู้คดีมาตรา112 ย้ำ ไม่หลบหนี พนักงานสอบสวนถูกแทรกแซงจากคสช. ยกราชกิจจา อภัยโทษ มีความจงรักภักดี ลุ้น 18มิ.ย. อัยการสูงสุด ถกคำร้องคัดค้านคำฟ้องทักษิณ ฟังขึ้นหรือไม่ จับตา อาจส่งผลต่อการเลื่อน-ไม่เลื่อนนำตัวส่งฟ้อง
ความเคลื่อนไหวกกรณีอัยการสูงสุด (อสส.) สั่งฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้ เมื่อปี 2558 โดยมีเนื้อหาในลักษณะพาดพิงสถาบัน อัยการสูงสุดนัดหมายนำตัวนายทักษิณส่งฟ้องต่อศาลในวันที่ 18 มิ.ย.
ก่อนหน้านี้ทีมกฎหมายของนายทักษิณ ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการ เพื่อคัดค้านคำสั่งฟ้อง ด้วยเหตุผลคือ พนักงานสอบสวนที่ทำสำนวน ถูกกดดันข่มขู่จากผู้มีอำนาจในยุคนั้น ซึ่งเป็นยุคคสช. เพราะมีการแจ้งความดำเนินคดีนี้ช่วงหลังจาก คสช.เข้าควบคุมอำนาจการปกครองเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ทำให้พนักงานสอบสวนไม่มีความเป็นอิสระในการทำหน้าที่ กระบวนการได้มาซึ่งพยานหลักฐานจึงมิชอบด้วยกฎหมาย และมีความเบี่ยงเบนไปตามที่ผู้มีอำนาจต้องการ
ล่าสุด มีความเคลื่อนไหวจากทีมต่อสู้คดีของนายทักษิณ มีรายงานว่า ประเด็นที่นายทักษิณจะหยิบยกมาเป็นข้อต่อสู้มีด้วยกัน 4 ประเด็นสำคัญ คือ
1.ไม่มีเจตนาหลบหนี และพร้อมสู้คดี ทีมกฎหมายของอดีตนายกฯ ยังไม่ยื่นคำร้องขอเลื่อนนัดอัยการ ในการนำตัวไปฟ้องต่อศาล วันที่ 18 มิ.ย.
2.คำว่า “Palace Circle” ไม่เข้าข่ายความผิดมาตรา112
3. เนื้อหาตามที่ยื่นคำร้องขความเป็นธรรมคือ กระบวนการสอบสวนในยุคคสช. มีการแทรกแซง พนักงานสอบสวนไม่เป็นอิสระ
4.การได้รับพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งมีการประกาศราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 1ก.ย.2566 เนื้อหาในราชกิจจานุเบกษา ช่วงหนึ่งระบุว่า "มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามขั้นตอนการพิจารณาคำร้องขอความเป็นธรรมของนายทักษิณ หากอัยการเห็นว่า คำร้องดังกล่าวมีน้ำหนักหรือเหตุผลอันควรเชื่อตามคำร้อง ขั้นตอนต่อไปจะต้องตั้งพนักงานอัยการระดับอธิบดีขึ้นมาเป็นคณะทำงาน เพื่อพิจารณาและให้ความเห็น จึงต้องจับตาว่ากระบวนการนำตัวส่งฟ้องในวันที่18 มิ.ย.นี้ จะต้องเลื่อนออกไปจนกว่าการพิจารณาของพนักงานอัยการจะแล้วเสร็จหรือไม่