"เสรี"หนุนเดินหน้าเลือกสว.67ใครชี้มีฮั้วส่งหลักฐานกกต.ลงโทษ

นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา กล่าวถึงการติดตามการเลือกสมาชิกวุฒิสภาที่ผ่านมา ของกรรมาธิการฯ ว่า กรรมาธิการก็มีการพูดคุยกัน แต่ปัจจุบัน สว.กำลังจะหมดวาระ จึงต้องระมัดระวัง เพราะตามกฎหมายได้ห้ามเจ้าหน้าที่รัฐ และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง รวมถึง สว.แสดงความเห็นที่ให้คุณให้โทษ ซึ่งกรรมาธิการฯ ได้ระมัดระวัง และพยายามไม่ยุ่งเกี่ยว เพียงแต่มีการหารือกัน พร้อมเห็นว่า หาก กกต.พบการกระทำผิดใดก็จะต้องลงโทษ หรือหากใครพบหลักฐานการกระทำผิด ก็ต้องนำส่ง กกต.เพื่อตัดสินจะกล่าวหาเพียงเพราะใส่เสื้อสีเดียวกัน ถ่ายรูปร่วมกัน เพื่อล้มกระดานเลือก สว.ไม่ได้ หรือหากเห็นว่า รูปแบบการเลือก สว.ตามรัฐธรรมนูญไม่เหมาะสม ก็ต้องไปแก้ไขปรับปรุงในอนาคตว่า ควรเลือก สว.รูปแบบใด แต่หากใช้ความคิดของตนเองไปตัดสิน ก็จะเป็นการไม่เคารพรัฐธรรมนูญ 

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเหกตมีการฮั้ว หรือจับกลุ่มกันไปสมัครนั้น นายเสรี เห็นว่า ตามกฎหมาย ต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองในการเป็นสมัคร สว. แต่การสมัคร หากเป็นเพราะผู้สมัครทำงานที่เดียวกัน บริษัทเดียวกัน รู้จักกัน และลงคะแนนให้กันนั้น ก็ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล จะกล่าวหาว่าผิดทั้งหมดไม่ได้ เพราะจะไม่มีผู้สมัครจนเกิดความขัดแย้งไปหมด เว้นแต่มีการให้เงินทอง หรือผลประโยชน์ เพื่อลงคะแนนให้ ดังนั้น การกล่าวหาว่าฮั้ว ก็จะต้องพิจารณาว่า ผิดกฎหมายหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดข้อครหาจน สว.ชุดใหม่ขาดความเชื่อมั่นในการทำงาน 

นายเสรี ยังระบุด้วยว่า กรรมาธิการฯ หวังให้การเลือก สว.ในครั้งนี้ สำเร็จลุล่วง และพร้อมสนับสนุนให้การจัดการเลือก สว.ประสบความสำเร็จ รวมถึงยังเสนอให้ กกต.ได้ชี้แจง ในประเด็นที่ประชาชนยังไม่เข้าใจ หรือหากพบการฮั้วแล้วผิดกฎหมาย กกต.ก็ต้องจัดการเช่นเดียวกัน  

ส่วนที่ กกต.ยังเดินหน้าจัดการเลือก สว.ทั้งที่ศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.นั้น นายเสรี เห็นว่า หากศาลไม่มีคำสั่งให้หยุดการเลือก สว. กกต.ก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย มิเช่นนั้นจะถือว่า ไม่ทำตามกฎหมาย ซึ่งหากอนาคต ศาลฯ จะมีคำวินิจฉัยใด ก็ต้องกระทำตามคำวินิจฉัยศาล ซึ่งถูกต้องที่สุดแล้ว เพื่อให้กระบวนการเดินหน้าต่อไปได้ 

นายเสรี ยังเชื่อว่า การเลือก สว.ลักษณะนี้ บุคคลที่มีชื่อเสียง มีโอกาสได้รับการคัดเลือกมาก เพราะเป็นที่รู้จัก จึงเป็นเรื่องปกติ แต่หากชาวบ้านทั่วไปไม่เป็นที่รู้จัก ก็จะต้องไปทำคุณความดี สั่งสมเชื่อเสียง ซึ่งที่ตนเห็นในรอบระดับอำเภอนั้น ก็มีผู้สมัครทั้งที่มีชื่อเสียง และไม่มีชื่อเสียงปะปนกันไป