posttoday

เปิดประวัติ "แสวง บุญมี" ฝ่ากระแสเลือกสว.67สุดวุ่นวาย

06 มิถุนายน 2567

เปิดประวัติ แสวง บุญมี เลขากกต. ผู้ประกาศตัวพร้อมเป็นร่มกันฝนและพายุ ฝ่ามรสุมเลือกสว.67 สุดวุ่นวาย หลังศาลรธน.รับคำร้องวินิจฉัยขั้นตอนการเลือกสว.ใน4มาตรา ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญหรือไม่

การเลือกสว.67 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในระดับอำเภอ 9มิ.ย.67 กำลังเดินเข้าสู่ภาวะ"ยักตื้นติดกึก ยักลึกติดกัก" หลังศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมาก8ต่อ1 เมื่อวันที่5มิ.ย.67 รับคำร้องของศาลปกครองกลางส่งคำโต้แย้งผู้ฟ้องคดี (น.ส.วิเตือน งามปลั่ง) ในคดีหมายเลขดำที่ 899/2567 และกรณีศาลปกครองกลางส่งคำโต้แย้งของผู้ฟ้องคดีทั้งห้าในคดีหมายเลขดำที่ 812/2567 ว่าด้วยการได้มาซึ่งสว. พ.ศ. 2561 มาตรา 36 มาตรา 40 วรรคหนึ่ง (3) มาตรา 41 วรรคหนึ่ง (3) และมาตรา 42 วรรคหนึ่ง (3) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 107 หรือไม่

ภาระบทหนักเพื่อหาทางออกต่อประเด็นเรื่องนี้ คือคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทุกฝ่ายจึงจับจ้องมองไปที่"แสวง บุญมี" เลขากกต. ว่าจะขยับขับเคลื่อนชี้แจง"ข้อกฎหมาย"ในประเด็นดังกล่าวต่อศาลรัฐธรรมนูญอย่างไร เพื่อให้การเลือกสว.67เดินหน้าต่อไป เนื่องจากมีเวลาเหลืออีกไม่กี่วันจะถึงกำหนดวันเลือกตั้ง ซึ่งศาลรธน.ระบุในท้ายมติรับคำร้อง ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำความเห็นเป็นหนังสือตามประเด็นที่ ศาลกำหนด และจัดส่งสำเนาเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 5 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือ เพื่อประกอบการพิจารณาวินิจฉัย 

ทันทีหลังทราบว่าศาลรธน.รับคำร้องขั้นตอนการเลือกสว.ไว้พิจารณาวินิจฉัยว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ เลขาแสวงได้ส่งข้อความผ่านไลน์ผู้บริหารกกต.ถึงเจ้าหน้าที่ กกต. ประเด็นสำคัญคือ อย่าใจเสีย เพราะเป็นเงื่อนไขภายนอก อยู่เหนือการควบคุมเป็นปัญหาข้อกฎหมายและคงจะคลี่คลายโดยเร็วเพราะศาลให้ชี้แจงภายใน5วัน กกต.ไม่ได้นิ่งนอนใจได้เชิญด้านบริหารการเลือกตั้งและสำนักกฎหมายมาร่วมหาทางออกเพื่อเสนอต่อกกต.ชุดใหญ่พิจารณา 7มิ.ย.67 

ส่งท้ายด้วยข้อความซึ่งถือเป็นคีย์เวิร์ดสำคัญ..
 
“ผมเชื่อว่าสุดท้ายมันจะคลี่คลายไปในทางที่ดีเชื่อว่าเรารับผิดชอบบ้านเมืองได้ พี่น้องเรามีจิตใจที่แข็งแกร่ง ไม่เคยบ่นไม่ท้อถอยในช่วงที่ผ่านมาไม่ว่าจะเจอปัญหาใดๆขอส่งกำลังใจและฝากกำลังใจถึงน้องๆและเพื่อนร่วมงานจากหน่วยอื่นที่ช่วยเหลือ สนับสนุน งานของเราด้วยดีเสมอมา รักศรัทธาคนทำงาน เลขา กกต.” 

สำหรับ นายแสวง เริ่มเข้าทำงานในตำแหน่งเลขากกต.เมื่อ1 เม.ย. 2565 มีวาระ5ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รัฐศาสตรมหาบัณฑิต (การปกครอง) แถมพ่วงดีกรี ศิลปศาสตรบัณฑิต (รัฐศาสตร์) เกียรตินิยมอันดับ 2และนิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง

นายแสวง ถือเป็นลูกหม้อของกกต.เพราะเคยเป็นผู้อำนวยการสำนักสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย 3 และอดีตผู้อำนวยการสำนักสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย 5 สำนักงาน กกต., อดีตอนุกรรมาธิการการปฏิรูปกลไกและระบบการเลือกตั้งในคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง สภาปฏิรูปประเทศ (สปท.) การได้รับเลือกเป็นเลขากกต.ของนายแสวงผ่านการพิจารณาเห็นชอบด้วยมติเป็นเอกฉันท์  

ในรายงานป.ป.ช.เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินนายแสวง พร้อมคู่สมรส เมื่อคราวเข้ารับตำแหน่ง1 เมษายน 2565 มีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 47,222,952 บาท มีหนี้สินรวมทั้งสิ้น 704,222 บาท รวมมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 46,518,730 บาท ที่น่าสนใจคือทรัพย์สินอื่น 10,419,150 บาท ได้แก่ พระเครื่อง 530 องค์ มูลค่า 8,636,450 บาท พระพุทธรูป 73 องค์ เครื่องเสียง+ลำโพง มูลค่า 1,070,300 บาท แผ่นเสียง+แผ่นซีดี 800 แผ่น มูลค่า 520,000 บาท 

พลิกปูมนายแสวงมีสายสัมพันธ์อันดีกับนักการเมืองหลายพรรค ในฐานะที่เป็นลูกหม้อเก่าของกกต.จึงรู้งานเป็นอย่างดี การประสานงานด้านต่างๆ จึงไร้ปัญหา และการวางตัวถือได้ว่า ถูกใจนักการเมืองรุ่นใหม่-รุ่นเก่า ทำให้ชื่อของนายแสวงแรงมาตั้งแต่ต้นเมื่อคราวสรรหาเลือกเลขากกต.คนใหม่แทน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา ที่ลาออกจากตำแหน่งเลขากกต.เพื่อไปนั่งเก้าอี้สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เมื่อช่วงปลายปี 2564 

ต้องจับตาการทำหน้าที่สำคัญของนายแสวง กับด่านการเลือกสว.67 ซึ่งเจ้าตัวประกาศพร้อมรับมืออย่างมีชั้นเชิง เนื่องจากมีสัญญาณมาตลอดนับแต่มีพระราชกฤษฎีกาเลือก สว.จะมีแรงเสียดทานเข้มข้นมากขึ้น จะไม่ยอมให้มีการ เลื่อน- ลาก-ล้ม หากเกิดขึ้นจริงย่อมไม่เกิดผลดีกับบ้านเมือง และพร้อมเป็นร่มกันฝนและพายุให้แก่พนักงานกกต.ทุกคน ขอให้ทำงานเพื่อชาติด้วยความสบายใจ.

ข่าวล่าสุด

เตือนข่าวปลอม “หลอกลงทุนหุ้น OR” ระวังสูญเงิน - ข้อมูลส่วนบุคคล