"เจษฎ์ โทณะวณิก"ชี้ 'เศรษฐา ทวีสิน'มีโอกาสหลุดเก้าอี้นายกฯ
"เจษฎ์ โทณะวณิก"อดีตที่ปรึกษากรธ. ชี้2ประเด็นที่มีความสัมพันธ์กันในมติศาลรธน.'เศรษฐา ทวีสิน'มีโอกาสหลุดเก้าอี้นายกฯหลังศาลรธน.มีมติรับคำร้อง 40สว.ไว้วินิจฉัยปมใช้อำนาจแต่งตั้งพิชิต ชื่นบาน นั่งเก้าอี้รมต.
กรณีศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 6:3 เสียง รับคำร้องกลุ่ม 40สว. ร่วมลงชื่อยื่นให้พิจารณาการสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายพิชิต ชื่นบาน อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพราะขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 หรือไม่ จากปมการใช้อำนาจนายกรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ในการแต่งตั้งนายพิชิตเป็นรัฐมนตรี ทั้งที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญเพราะเคยรับโทษจำคุกมาก่อน
นอกจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 5:4 ไม่สั่งให้นายเศรษฐา ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีจนกว่าจะมีคำวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง และมติ 8:1 มีคำสั่งไม่รับคำร้องตรวจสอบคุณสมบัติของนายพิชิต เพราะความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามมาตรา มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (2) จึงไม่มีเหตุวินิจฉัยคดีต่อไป
รศ.ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก อดีตที่ปรึกษากรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ. ตั้งข้อสังเกตว่า มติศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมา หากอ่านเฉพาะการลงมติและด้วยข้อเท็จจริง ณ เวลานี้ โอกาสที่ “นายกฯเศรษฐา” จะหลุดจากตำแหน่งมีมากกว่าไม่หลุด
เนื่องจาก 2 ประเด็นที่ศาลวินิจฉัยมีความสัมพันธ์กัน คือ รับคำร้องไว้วินิจฉัย เพราะเป็นว่าคำร้องมีมูล 6 ต่อ 3 และสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ 4 ต่อ 5 (สั่งหยุดเป็นเสียงข้างน้อย) โดยตุลาการ 6 เสียงที่รับคำร้องไว้วินิจฉัย มีถึง 4 ท่านที่เห็นว่าควรหยุดปฏิบัติหน้าที่ด้วย ดังนั้นหากนายกฯจะหลุดเก้าอี้ จึงใช้เสียงจากกลุ่มที่รับคำร้องอีกแค่ 2 เสียงเท่านั้น
นอกจากนี้ หากตีความจากมติ 8 ต่อ 1 ในคำร้องของนายพิชิต จะพบว่าตุลาการเห็นตรงกันเกือบเป็นเอกฉันท์ว่า หากมีการลาออก ทุกอย่างจบ จึงเกิดคำถามว่า ถ้า "นายกฯเศรษฐา" พ้นจากตำแหน่ง จึงจะจบใช่หรือไม่