posttoday

ชัยธวัช ขู่ ยุบพรรคก้าวไกล ไม่เป็นผลดี ระวัง ขยายความขัดแย้งการเมือง

13 มีนาคม 2567

ชัยธวัช มั่นใจ ศาลรัฐธรรมนูญ เปิดโอกาส ก้าวไกล แก้ข้อกล่าวหาปมยุบพรรค ย้ำ ไม่มีเหตุผลพอต้องยุบพรรค ปัดก้าวไกล ล้มล้าง เซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบัน เชื่อ ไม่เป็นผลดี ยิ่งทำให้ขยายความขัดแย้งการเมือง สังคมเข้าสู่วังวนเดิม ลั่น ถึงเวลาเลิกเอาชนะกันด้วยการยุบพรรค

KEY

POINTS

  • ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล เผย เตรียมฝ่ายกฎหมายต่อสู้คดียุบพรรค
  • ชัยธวัช ไม่เชื่อ พรรคก้าวไกลจะถูกยุบพรรค เตือนให้ระวัง เกิดความขัดแย้งการเมือง สังคมเข้าสู่วังวนเดิม
  • ชัยธวัช ปฏิเสธ พรรคก้าวไกล ล้มล้างการปกครอง เซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบัน 

ที่อาคารรัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติให้ส่งเรื่องถึงศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณายุบพรรคก้าวไกล จะเกี่ยวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา152 หรือไม่ว่า เรื่องนี้เป็นกรณีของพรรคก้าวไกลพรรคเดียว ไม่เกี่ยวกับการอภิปราย พรรคก้าวไกล ได้เตรียมการต่อสู้คดีทางกฎหมายไว้แล้ว จะทำงานทุกวันให้ดีที่สุด ต้องยอมรับว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2567 อาจจะทำให้พรรคก้าวไกลต่อสู้ได้ยาก แต่ก็จะต่อสู้เต็มที่ว่า มันไม่มีเหตุผลเพียงพออย่างไรที่ถึงขั้นจะต้องยุบพรรคก้าวไกล 

ถามว่า มีความกังวลหรือไม่ที่ศาลรัฐธรรมนูญอาจจะไม่มีการเปิดไต่สวน นายชัยธวัชกล่าวว่า โดยปกติศาลจะต้องมีการไต่สวนอยู่แล้ว อย่างน้อยที่สุดศาลต้องเปิดโอกาสให้ผู้ถูกร้องคือ พรรคก้าวไกลได้แก้ข้อกล่าวหา เสนอทั้งข้อเท็จจริงและพยานผู้เชี่ยวชาญในการต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ แต่คดีในชั้นศาลรัฐธรรมนูญจะอยู่ที่ดุลพินิจของศาล เมื่อใดที่ศาลเห็นว่ามีข้อเท็จจริงเพียงพอแล้วก็อาจจะยุติการแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมได้ จึงเป็นหน้าที่ของผู้ถูกร้องที่จะต้องต่อสู้ให้มีการไต่สวนข้อเท็จจริงให้มากที่สุด

ถามว่า มีการพิจารณาทางเลือกให้กรรมการบริหารพรรคลาออกจากตำแหน่งก่อนหรือไม่ ตามที่เคยมีบทเรียนจากกรณีการยุบพรรคอนาคตใหม่ หัวหน้าพรรคก้าวไกลกล่าวว่า ในพรรคยังไม่ได้มีการพูดคุยกันเรื่องนี้ คิดว่าบทเรียนที่สำคัญน่าจะเป็นบทเรียนสำหรับสังคมไทยและผู้มีอำนาจมากกว่าว่า

การยุบพรรคการเมืองไม่นำไปสู่การแก้ไขปัญหาทางการเมืองแต่อย่างใด ซ้ำร้ายอาจจะนำไปสู่การขยายความขัดแย้งทางการเมืองได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด สวนทางกับความคาดหวังของประชาชนหลังจากที่มีรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการรัฐประหารแล้ว
 

"ซ้ำร้ายการยุบพรรคการเมืองด้วยการอ้างเหตุผลเรื่องการล้มล้างการปกครอง เซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบัน ในด้านกลับกันอาจจะเป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันที่สังคมไทยรักเสียเองก็ได้ เพราะยิ่งเป็นการดึงประเด็นสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางการเมืองมากขึ้น เรื่องนี้ก็ต้องระมัดระวังเช่นกัน เป็นห่วงสังคมไทย ลองจินตนาการถึงสังคมไทยหลังจากนี้ เรากำลังเข้าสู่วังวนแบบเดิม ๆ ที่หาทางออกไม่เจอ และอาจจะยิ่งถลำลึกต่อไปมากขึ้น การยุบพรรคการเมืองจากเหตุที่กล่าวหาว่าล้มล้างการปกครองและเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบัน ไม่เป็นผลดีต่อสถาบันแต่ประการใด”นายชัยธวัชกล่าว

นายชัยธวัชกล่าวอีกว่า สุดท้ายคิดว่า นี่ไม่ใช่ปัญหาเฉพาะของพรรคก้าวไกล แต่เป็นปัญหาของวิธีการทางการเมืองแบบเดิม ซึ่งควรจะหมดไปได้แล้ว รวมถึงการคิดว่าจะเอาชนะคะคานกันทางการเมืองด้วยการยุบพรรคการเมือง ควรจะเป็นบทเรียนของสังคมไทยได้แล้วว่ามันไม่ได้ช่วยทำให้อะไรดีขึ้น มีแต่จะแย่ลง