posttoday

เสียงเตือนจากป.ป.ช. กับ ศึกหลายด้าน วัดใจ รัฐบาลเศรษฐา ลุยไฟ แจกเงินดิจิทัล

08 กุมภาพันธ์ 2567

โครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ล่าสุด ป.ป.ช.ออกข้อเสนอแนะ แต่แฝงด้วยคำเตือนเข้มๆเชิงวิชาการ เช่นเดียวกับ กฤษฎีกา อาจารย์เศรษฐศาสตร์ และ หลายหน่วยงานที่พร้อมตรวจสอบ กลายเป็นจุดวัดใจ รัฐบาล จะลุยไฟแจกเงินท่ามกลางความเสี่ยงรอบด้านอย่างไร

โครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ของพรรคเพื่อไทย ภายใต้รัฐบาล 'เศรษฐา ทวีสิน' นายกรัฐมนตรี นับวัน ยิ่งประสบกับปัญหา ความยากลำบากยิ่งขึ้น 

ก่อนหาเสียง บอกประชาชนตั้งแต่อายุ 16 ปีได้ทุกคน ปรับมาเป็นให้เฉพาะเงินเดือนต่ำกว่า 7 หมื่นบาท มีเงินฝากรวมกันทุกบัญชีไม่เกิน 5 แสน บอกไม่กู้เงิน แต่ไปๆมาๆ เตรียมออก พระราชบัญญัติกู้เงิน 5 แสนล้านบาท ไทม์ไลน์เดิม จะแจกตั้งแต่ 1พฤษภาคม67 ถูกขยับออกไป ยังไม่รู้ว่า ในไตรมาส3ปีนี้ จะได้ใช้หรือไม่ แอพพลิเคชั่น ระบบที่จะทำมารองรับ ไม่รู้ในวันนี้ เดินหน้า ไปถึงไหน 

เศรษฐกิจ ที่บอกวิกฤต จากคำอธิบายรัฐบาล แต่หลายต่อหลายหน่วยงาน ย้ำชัด ยังไม่เข้าขั้นวิกฤต ล่าสุด เจอคำเตือน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ออกเอกสารผลการศึกษาเพื่อป้องกันการทุจริตนโยบายเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตไปยังรัฐบาล ให้ข้อเสนอแนะไปถึงคณะรัฐมนตรี

1.รัฐบาลควรศึกษาโครงการ ชี้แจงความชัดเจนอย่างเป็นรูปธรรม ผู้ได้รับประโยชน์จากโครงการจะไม่ตกแก่พรรคการเมือง นักการเมือง ผู้ประกอบการรายใหญ่

2.การหาเสียงสิ่งที่พรรคเพื่อไทยแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในโครงการดังกล่าวมีความแตกต่างกัน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ควรตรวจสอบว่าขัดรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองหรือไม่ ให้เป็นบรรทัดฐานพรรคการเมืองหาเสียงแล้วไม่ปฏิบัติตามที่หาเสียงไว้

3.โครงการดิจิทัลวอลเล็ตควรคำนึงถึงความคุ้มค่า ความจำเป็นในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตลอดจนผลกระทบภาระทางการเงิน การคลังในอนาคต ต้องพิจารณาระหว่างผลดี ผลเสียการกู้เงิน 500,000 ล้านบาท ที่สร้างภาระหนี้แก่รัฐบาลและประชาชนระยะยาว 

4.ความเสี่ยงด้านกฎหมาย

 

5.ความเสี่ยงการดำเนินโครงการอย่างรอบด้าน กำหนดมาตรการบริหารความเสี่ยงและการป้องกันทุจริต มีกระบวนการตรวจสอบทั้งก่อนระหว่างและหลังการดำเนินโครงการ ให้โครงการดำเนินการได้อย่างโปร่งใส

 6.การนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้กับโครงการ ครม.ควรพิจารณาถึงความจำเป็นความเหมาะสม ระยะเวลา และงบประมาณที่ต้องใช้พัฒนาระบบให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และระยะเวลาในโครงการ ที่เป็นการแจกเงินเพียงครั้งเดียวให้ใช้จ่ายภายใน 6 เดือน

7.ความเจริญเติบโตประเทศไทยยังไม่ถึงขั้นประสบภาวะวิกฤตเศรษฐกิจเพียงแต่ชะลอตัว ดังนั้น การกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างมีเสถียรภาพ ควรพิจารณาให้ความสำคัญต่อโครงสร้างทางเศรษฐกิจ โครงการช่วยเหลือประชาชนภายใต้เศรษฐกิจที่ไม่เข้าขั้นวิกฤติ ควรพิจารณากลุ่มเป้าหมายที่เปราะบางสุด อาทิ กลุ่มมีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจน 

8.รัฐบาลควรช่วยเหลือกลุ่มประชาชนที่มีฐานะยากจน เปราะบาง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ โดยแจกจากแหล่งเงินงบประมาณปกติ มิใช่เงินกู้ตาม พ.ร.บ.เงินกู้ และจ่ายในรูปเงินบาทปกติในอัตราที่เหมาะสม เพื่อพยุงการดำรงชีวิตประชาชนที่ยากจน โดยกระจายจ่ายเงินเป็นงวดๆ ผ่านแอปเป๋าตังที่มีประสิทธิภาพ มีฐานข้อมูลครบ หากใช้แหล่งเงินงบประมาณปกติจะลดความเสี่ยงการขัดรัฐธรรมนูญขัด พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง พ.ร.บ.เงินตรา และไม่สร้างภาระหนี้สาธารณะประเทศระยะยาว

ก่อนหน้าฏ็มีความเห็น คณะกรรมการกฤษฎีกา เคยให้ความเห็น กรณีรัฐบาลเตรียมออกเป็น พ.ร.บ.กู้เงิน ถึงแม้จะไม่ได้ห้าม แต่ก็ส่งสัญญาณ ระมัดระวังทางข้อกฎหมาย


‘ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของ พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 ต้องจำเป็นเร่งด่วน เพื่อแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง แก้ไขวิกฤตของประเทศ ต้องเป็นไปตาม มาตรา 53 มาตรา 57 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 9 ของพ.ร.บ.วินนัยการเงินการคลังฯ’

ขณะเดียวกัน 2 อดีตผู้ว่าแบงก์ชาติ ร่วมกับ นักวิชาการ อาจารย์เศรษฐศาสตร์ 99คน ร่วมลงชื่อเรียกร้องให้ยกเลิก โครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท นอกจากนี้ นโยบายการเงินการคลัง ระหว่าง ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย กับ รัฐบาล ต่อนโยบาย การขึ้น-คง-ลดดอกเบี้ย มักมีความเห็นสวนทางกันตลอด ทำให้เกิดข่าวลือ ขึ้นมาเป็นระยะๆ จะปลดผู้ว่าแบงก์ชาติ 

หลังจากได้รับคำเตือนป.ป.ช. 'เศรษฐา ทวีสิน' นายกรัฐมนตรี ระบุว่า

‘ได้มีการอ่านหัวข้อในเบื้องต้นแล้ว ข้อเสนอของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการทุจริตนั้น ในการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลชุดใหญ่จะมีการตั้งคณะอนุกรรมการมาดูแลเรื่องทุจริตโดยเฉพาะ ทุกอย่างต้องตอบคำถามให้ได้ 


รัฐบาลก็จะระมัดระวังในเรื่องของการแจกเงินตามข้อเสนอแนะ และมีคณะอนุกรรมการขึ้นมาดูแลและมีกลไกลฃที่ชัดเจนในการมาตรวจสอบทุกขั้นตอน หลังจากนี้เชื่อว่าคณะกรรมการ ดิจิทัลวอลเล็ต จะทำทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อเสนอแนะ ป.ป.ช. ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาดู เพื่อปกป้องและดูแลผลประโยชน์ของประชาชน ภายในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ พร้อมแถลงข่าว’

องค์กรอิสระ หน่วยงานที่มีความอิสระสูงในการทำงาน ไม่ตอบรับแนวทาง นโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10000บาท เท่าที่ควร มีทั้ง ส่งสัญญาณเตือนในแง่มุมกฎหมาย เชิงวิชาการ ตามหลักเศรษฐศาสตร์ เศรษฐกิจ พร้อมกับ เดินหน้าตรวจสอบ เช่นเดียวกับ หลายองค์กร ลับมีด ตรวจสอบทั้งเรื่อง นโยบาย วิธีปฏิบัติ หากมีผู้ได้รับผลกระทบ ร้องเรียนเข้ามา 

กระแสข่าว เปลี่ยนคนให้เหมาะกับงาน ล้างขั้วคนเดิม ในบางองค์กร ที่ถูกมองว่า มีความสัมพันธ์ใกล้ชิด กลุ่มผู้มีอำนาจเดิม คอยสกัดแข้งสกัดขา ขวางการทำงานเชิงนโยบายที่มาจาก พรรคเพื่อไทย 

หากรัฐบาลเพื่อไทย ยังดื้อดึง เดินหน้าการแจกเงินดิจิทัลจริงๆ ในขั้นตอนต้องขอมติจากที่ประชุมครม. หรือ ต้องโหวตยกมือในสภาฯ อาจเกิดมหกรรม รัฐมนตรี สส.พรรคร่วมรัฐบาล พร้อมใจกันป่วย ลา ขาด ไม่ขอเสี่ยงด้วยอย่างเด็ดขาด ก็เป็นไปได้ 

ในการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ ในสัปดาห์หน้า น่าจับตา ที่จะทำให้เห็น ทิศทางแนวปฏิบัติชัดเจนอีกขั้น โครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท รัฐมนตรี แกนนำพรรคเพื่อไทย ย้ำหนักแน่น ไม่มีถอย ไม่ปรับลดวงเงิน

รัฐบาลเศรษฐา หากยัง(กล้า)ลุยไฟ แจกเงิน ท่ามกลางความสุ่มเสี่ยงทางข้อกฎหมาย เสียงท้วงติง จากหลายทิศ หลายทาง เป็นอีกจุดวัดใจ เศรษฐาและรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย จะร่วมกันหาทางออก ไม่ให้กระทบฐานคะแนนเสียง ไม่ให้ผิดกฎหมาย โดนเล่นงาน ได้อย่างไร