posttoday

ชัยธวัช-พิธา เปิดใจ3บก. กับทิศทางก้าวไกล โต้ ดีลพิเศษ ชกไม่เต็มหมัด ปม ทักษิณ

13 มกราคม 2567

ชัยธวัช พิธา เปิดใจ 3บก.เครือเนชั่น ทิศทางพรรคก้าวไกล พิธา แย้ม ถ้ารอดคดีหุ้นสื่อ24ม.ค. ไม่ปิดทาง หวนนั่งหัวหน้า ไม่เชื่อคดี 112 ลามยุบพรรค ชัยธวัช โต้ ดีลพิเศษ ชกไม่เต็มหมัด ทักษิณ โอดน่าเสียดายพวกต้าน 2 มาตรฐาน หันมายอมรับ โว ก้าวไกล ค้านจริง ปัดลับหลัง ต่อรอง

วันที่13ม.ค. นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรค อดีตแคนดิเตดนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์พิเศษ เนชั่นสุดสัปดาห์กับ 3 บก. ดำเนินรายการโดย นายสมชาย มีเสน นายวีระศักดิ์ พงษ์อักษร นายบากบั่น บุญเลิศ 3บรรณาธิการบริหารเครือเนชั่น ในเรื่องประเด็นการเมืองต่างๆ รวมทั้งทิศทางของพรรคก้าวไกล

ช่วงแรก ผู้ดำเนินรายการขอให้ช่วยประเมินคดีพิธา และพรรคก้าวไกล มีการเตรียมแผนสำรองอะไรไว้หรือไม่ 

นายพิธากล่าวว่า เดือนมกราคม มี3คดีสำคัญที่ศาลรัฐธรรมนูญจะนิจฉัย วันที่ 24 ม.ค. คดีตนถือครองหุ้นสื่อ วันที่ 31ม.ค. คดีพรรคก้าวไกลเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา112 เป็นนโยบายหาเสียง คดีของตน หากศาลตัดสินออกมาเป็นคุณ จะทำหน้าที่ต่อในสภาฯ ถ้าเป็นโทษ ยังทำหน้าที่ต่อ แต่ไปทำงานนอกสภาฯ ที่ถามว่า หากถูกตัดสินไม่ผิด คืนสถานะความเป็นสส.จะกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกลอีกครั้งหรือไม่ คงแล้วแต่สมาชิกพรรคที่จะมีการประชุมใหญ่ช่วงปลายเดือนเมษายน   
อย่างไรก็ดีเมื่อถึงช่วงนี้ นายชัยธวัช กล่าวขึ้นมาว่า ยังชอบบทบาท เลขาธิการพรรคมากกว่า 

นายชัยธวัชกล่าวว่า คดีของพรรคก้าวไกล การเสนอแก้มาตรา112 นำมาเป็นนโยบายหาเสียง ที่จะมีการตัดสินวันที่31ม.ค. ผู้ร้องได้ร้องให้เรายุตินำนโยบายไปหาเสียง คงไม่เกี่ยวกับการยุบพรรค แย่ที่สุดศาลรัฐธรรมนูญ คงขอให้หยุดการกระทำ ก่อนการเลือกตั้ง 14พ.ค.66 พรรคได้นำเสนอนโยบายที่จะหาเสียงส่งไปให้กกต.ตรวจสอบแล้ว มีผู้ไม่เห็นด้วยยื่นคัดค้าน กกต.ได้ยกคำร้องไปแล้ว

เมื่อย้อนไปดูประวัติศาสตร์ทางกฎหมาย รัฐธรรมนูญ จากข้อเสนอของพรรค ไม่ได้มีเจตนาล้มล้างหรือเปลี่ยนรูปแบบการปกครอง อยากสร้างสมดุลในการคุ้มครองประมุขกับคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนให้ได้สัดส่วนกันเท่านั้น 

ที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลอาจถูกมองเป็นภัยความมั่นคงของรัฐ สิ่งที่พรรคทำมาตลอดคือ พยายามทำเรื่องละเอียดอ่อนให้เป็นเรื่องปกติมากขึ้น การเสนอพรบ.นิรโทษกรรม แม้จะมีเสียงคัดค้าน ไม่อยากให้มีเรื่องนิรโทษผู้ทำความผิดมาตรา112 เกี่ยวกับการนิรโทษกรรม พรรคก้าวไกล พยายามหาข้อสรุปร่วมกัน ไปคุยกับทุกพรรค คุยกับฝ่ายความมั่นคง เพื่อนำมาสู่ข้อสรุปร่วมกันให้ทุกฝ่ายยอมรับได้ จากนั้นจึงนำไปเสนอในสภาฯ 

นายพิธายังกล่าวถึงการวางยุทธศาสตร์การเลือกตั้งครั้งหน้า เพื่อให้ได้จัดตั้งรัฐบาล ไม่ให้ถูกมองว่าชนะศึกแต่แพ้สงครามนั้น ส่วนตัวยังมีความหวังกับระบอบประชาธิปไตย แต่ต้องยอมรับว่าปัจจัยเลือกตั้ง การเมือง มีทั้งสิ่งที่คุมได้กับคุมไม่ได้ เรื่องที่คุมได้ เทคนิคหาเสียง นโยบาย การทำงานให้ประชาชน ในปี2567 จะมีการเลือกตั้งนายกฯอบจ การเลือกตั้งอบต. เข้าใจว่าทางพรรค จะสนับสนุนผู้สมัครลงแข่ง ถือเป็นการทำทั้งแนวกว้างและแนวลึก ถึงแม้พรรคก้าวไกล ไม่ได้เป็นรัฐบาล พรรคคุยกับพรรคอื่นๆได้หมด ขึ้นอยู่กับสถานการณ์เวลานั้นๆ เลือกตั้งครั้งหน้า อยากจะชนะเพื่อให้ได้สส.มากที่สุด ส่วนตัวอยากได้เกิน 250 เสียง

นายชัยธวัชกล่าวเสิรมว่า พรรคก้าวไกลแข่งกับตัวเอง ทำให้เป็นพรรคที่ประชาชนเชื่อมั่น ไว้วางใจ ต้องทำงานตั้งแต่วันนี้ ผลการเลือกตั้งเมื่อ14พ.ค.66 มีกว่า 60 เขต เราแพ้ไม่ถึง 1 หมื่นคะแนน เกือบ140เขต แพ้ในระบบเขต แต่คะแนนพรรคชนะ สำหรับเขตที่ชนะเลือกตั้ง ยิ่งต้องทำงานให้ประชาชนเห็นว่า เราพร้อมบริหารประเทศ ส่วนจะถึงขั้นชนะสงครามหรือไม่ ต้องดูปัจจัยอื่นประกอบ ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ยอมรับว่า ปัจจัยเรื่องสมาชิกวุฒิสภา(สว.)กับประเด็นนายทักษิณ กลับบ้าน ก็มีผล 

ถามว่า พรรคก้าวไกลยังจับมือกับพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่
นายพิธาตอบทันทีว่า เราไม่ได้ดูชื่อพรรค แต่ดูว่านโยบายตรงกันหรือไม่ เอานโยบายกับเอาเจตนารมณ์เป็นตัวตั้ง รัฐบาลจะอยู่ครบวาระ2570หรือไม่ คงอยู่ที่ความสามารถรัฐบาล ผลงานรัฐบาลครบ100วัน มีทั้งเรื่องที่ทำดีและต้องปรับปรุง ขณะเดียวกันปี2567 มีหลายปัจจัยทั้งเรื่องเศรษฐกิจโลก ปัจจัยประเทศต่างๆที่รัฐบาลต้องมีความเข้มข้นทางการบริหารมากขึ้น 

ผู้ดำเนินรายการถามอีกว่า กรณีนายทักษิณ พรรคก้าวไกลถูกวิพากษ์วิจารณ์ ชกไม่เต็มหมัด นายชัยธวัชกล่าวว่า กรณีนายทักษิณ ยังประเมินยากว่า จะลุกลามขยายไปทางไหน จะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวหรือไม่ จะมีกรณีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ประเด็นสำคัญคือ ตั้งแต่ปี2549 ฝ่ายประชาธิปไตย ต่อสู้เรื่อง 2 มาตรฐานมาโดยตลอด ก็น่าเสียดายถ้าบทสรุปสุดท้าย จะมายอมรับ

“เราไม่ได้กระเหี้ยนกระหือรือ อยากให้คุณทักษิณไปอยู่ในคุก เพียงแต่อยากเห็นการคืนความยุติธรรมสำหรับคนทุกคน เรื่องการคุ้มครองให้สิทธิรักษาพยาบาล เป็นเรื่องที่ดี แต่เป็นเช่นนี้ทุกคนหรือไม่ บางกรณีแพทย์ราชทัณฑ์ลงความเห็น ผู้ถูกคุมขังบางคนอาการหนัก แม้จะถูกส่งไปรักษาโรงพยาบาลข้างนอกได้ แต่อยู่ไม่นาน ไม่กี่วัน ก็ถูกส่งกลับราชทัณฑ์อีก เท่าที่ทราบ การส่งผู้ถูกคุมขังไปรักษาโรงพยาบาลนอกเรือนจำ มี3 ราย 2ราย เป็นผู้ป่วยจิตเวช อีกราย อยู่ชั้น14โรงพยาบาลตำรวจ ที่วันนี้ไม่ทราบอาการ

เราต้องการสิทธิรักษาพยาบาลที่ทุกคนเท่ากัน ไม่ได้กระเหี้ยนกระหือรืออยากให้คุณทักษิณ ต้องไปติดคุก เป้าหมายพรรคก้าวไกลคือ กระบวนการยุติธรรมเสมอภาค เท่าเทียม และการคืนความยุติธรรมให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบ เรื่องทักษิณกับพรรคก้าวไกลก็ไม่ได้มีดีลพิเศษ”นายชัยธวัชกล่าว 

นายชัยธวัชกล่าวถึงการทำงานร่วมกันในพรรคร่วมฝ่ายค้าน ในวันที่18ม.ค.จะมีการหารือร่วมกัน มีหลายเรื่องที่เรามีจุดร่วมร่วมกัน ไม่ได้มีความกังวลมากนัก ส่วนจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลหรือไม่ ต้องหารือในพรรคร่วมฝ่ายค้าน พรรคก้าวไกล เป็นฝ่ายค้าน อาจจะผลักดันเรื่องอะไรต่างๆได้ยาก เราจะทำงานตาม KPI ตามเสียงประชาชน สังคมด้วย เรื่องอะไรที่ไม่น่าเป็นไปได้เราจะผลักดัน สมรสเท่าเทียม สุราก้าวหน้า เช่นเดียวกับเรื่องนิรโทษกรรม 

สิ่งที่ประชาชนจะได้สำหรับพรรคก้าวไกล เป็นความคาดหวังที่มีต่อประชาชน จากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ประชาชนมอบความไว้วางใจ ถือเป็นความรับผิดชอบที่ต้องทำ เพื่อตอบสนองความคาดหวังประชาชนให้ได้ เป็นฝ่ายค้าน เป็นพรรคที่มีคุณภาพ ตรงไปตรงมา สร้างสรรค์ มีคุณภาพ ครบถ้วนด้วยเนื้อหา ตรงไปตรงมา เป็นฝ่ายค้านจริงๆ ไม่ใช่เล่นใหญ่ว่าค้าน ลับหลังไปต่อรอง สร้างสรรค์ เป็นฝ่ายค้าน ไม่ได้เอาแต่จ้องล้มรัฐบาล อะไรผลักดันด้วนกันได้ผ่านกลไกลนิติบัญญัติ ผ่านสภาฯ จะร่วมผลักดัน เป็น3หลักการของพรรคก้าวไกล 

นายพิธากล่าวว่า ขอให้ประชาชนมั่นใจระบอบประชาธิปไตย พรรคก้าวไกลจะเป็นตัวแทนประชาชนในการทำงานเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ตั้งใจทำงานทั้งในสภา นอกสภาฯอย่างเต็มที่ ขอให้เชื่อมั่นในการทำงานของเรา

ชัยธวัช-พิธา เปิดใจ3บก. กับทิศทางก้าวไกล โต้ ดีลพิเศษ ชกไม่เต็มหมัด ปม ทักษิณ