posttoday

ปกรณ์วุฒิ ปธ.วิปฝ่ายค้านจี้นายกฯรับรองร่างกม.ฝุ่นพิษเข้าสภา

09 มกราคม 2567

'ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล' ประธานวิปฝ่ายค้าน จี้นายกฯมีวุฒิภาวะเซ็นรับรองร่างพ.ร.บ.ฝุ่นพิษฯที่เสนอโดยพรรคก้าวไกลเข้าสภา เชื่อหากพิจารณาไปพร้อมกับร่างพ.ร.บ.อากาศสะอาดอีก6ฉบับจะมีประสิทธิภาพมากกว่า

เมื่อวันที่9ม.ค.2567 ที่อาคารรัฐสภานายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล  สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล และ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่าร่างพ.ร.บ.อากาศสะอาดจำนวน 7 ฉบับที่กำลังเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร เป็นร่างกม.ที่เกี่ยวข้องกับการเงิน ที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกกรัฐมนตรีจะต้องเซ็นรับรอง แต่ร่าง พ.ร.บ.ฝุ่นพิษและการก่อมลพิษข้ามพรมแดน พ.ศ. .…"ของพรรคก้าวไกล ที่วิปรัฐบาลบอกว่านายกฯไม่เซ็นรับรองให้ โดยอ้างเหตุผลความคิดเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่ระบุว่าร่างกฎหมายฉบับนี้ มีหลักการต่างจากร่างอื่น จึงไม่สามารถนำมาประกอบได้
 

"วันนี้ กฤษฎีกาจะมาชี้แจงต่อวิปฝ่ายค้าน จึงจะใช้โอกาส ถามรายละเอียดให้ชี้แจงในประเด็นดังกล่าวอีกรอบ"นายปกรณ์วุฒิ กล่าว 

นายปกรณ์วุฒิ ย้ำว่า ที่ผ่านมาวิปรัฐบาลมองว่าร่าง พ.ร.บ.ฝุ่นพิษและการก่อมลพิษข้ามพรมแดน พ.ศ. .…"ของพรรคก้าวไกลเป็นส่วนย่อยของ ร่างพ.ร.บ.อากาศสะอาด ดังนั้น จึงต้องตั้งคำถามดังๆ ว่า ทำไมถึงประกบร่วมกันไม่ได้ อีกทั้งยังไม่ควรอ้างความเห็นของกฤษฎีกาทุกอย่าง เพราะนายกฯมีอำนาจในการตัดสินใจเซ็นรับรอง จึงต้องมีวุฒิภาวะเพียงพอในการพิจารณาเองได้

นายปกรณ์ ระบุด้วยว่า พ.ร.บ.ฝุ่นพิษและการก่อมลพิษข้ามพรมแดน พ.ศ. .… เป็นหลักการเดียวกันและสามารถพิจารณาร่วมกันได้กับร่างพ.ร.บ.อากาศสะอาด และแม้จะไม่ได้เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร พร้อมกับร่างกม.ฉบับอื่นๆแต่เมื่อมีการตั้งกรรมาธิการ พรรคก้าวไกลก็มีสัดส่วนในการเข้าไปร่วมผลักดันรายละเอียดได้อยู่แล้ว แต่เป็นขั้นตอนที่ซับซ้อนหากร่างพ.ร.บ.อากาศเป็นพิษไม่เข้าพิจารณาพร้อมกันในตอนนี้แล้วนายกรัฐมนตรีเซ็นรับรองในภายหลัง เมื่อเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร จะต้องพิจารณาอีกรอบและอาจเป็นการแก้ไข พ.ร.บ.เดิมที่บังคับใช้ไปแล้ว ดังนั้นหากพิจารณารอบเดียวจะมีประสิทธิภาพมากกว่า