posttoday

'คลัง' เตรียมเพิ่มทักษะบริหารเงินแก่ปชช. หวังดึงเม็ดเงินคืน 5 แสนล้านบาท

31 ธันวาคม 2566

กระทรวงการคลังวางแผนส่งเสริมความรู้ด้านการบริหารจัดการเงินให้แก่ประชาชน ควบคู่การแก้ไขปัญหาหนี้ หวังหากสัมฤทธิ์ผลตามแผนจะสามารถดึงเม็ดเงินกลับสู่ระบบเศรษฐกิจกว่า 500,000 ล้านบาท

นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าในปี 2567 กระทรวงการคลังมีนโยบายที่จะแก้ไขปัญหาหนี้สิน ควบคู่ไปกับการให้ประชาชนสามารถวางแผนการออมและการเงินได้  โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบหมายให้หลายหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชนได้ร่วมกันส่งเสริมความรู้และพัฒนาทักษะการบริหารจัดการเงินให้แก่ประชาชน หรือจัดให้มีระบบการเงินชุมชน เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยต่อไป เช่น พัฒนาทักษะการบริหารจัดการเงิน และให้ความรู้ทางการเงิน ผู้กู้ กยศ. ต้องผ่านการอบรมการบริหารจัดการหนี้ เพิ่มบุคลากรที่จะสามารถให้คำแนะนำเรื่องการแก้หนี้ หรือไกล่เกลี่ยหนี้ และส่งเสริมวินัยการออม-บริการ "ออมเพลิน" ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำให้เกิดประโยชน์มหาศาล หากการแก้หนี้ทั้งระบบสัมฤทธิ์ผลตามแผนงานของรัฐบาลคือจะสามารถดึงเม็ดเงินกำลังซื้อกลับคืนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างน้อย 500,000 ล้านบาท และจะสามารถฟื้นคืนศักยภาพการผลิตของภาคประชาชนกลับคืนมาได้เพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 5 ล้านคน

นางรัดเกล้า ระบุว่า ตามที่รัฐบาลได้ประกาศเดินหน้าแก้หนี้ทั้งระบบให้กับประชาชนไปแล้วในปี 2566 โดยได้ออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อรองรับการแก้ไขปัญหานี้ทั้งในระบบและนอกระบบ  แต่การแก้หนี้เพียงอย่างเดียวคงไม่สามารถทำให้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้ จึงต้องอาศัยการสร้างวินัยการออม และการจัดการเงิน รวมทั้งสนับสนุนให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบให้ได้มากที่สุด โดยจะมีการลงพื้นที่แบบเชิงรุกและเข้าถึงประชาชนให้ได้มากที่สุด

"นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับการแก้ไขหนี้สิน ทั้งในและนอกระบบ ได้เน้นย้ำแนวทางสร้างความรู้ทางการเงิน/ส่งเสริมการออม ทั้งนี้ก็เพื่อให้แก้ไขปัญหาหนี้ให้สำเร็จ เกิดความยั่งยืน อยากให้ประชาชนหมดหนี้ และยังอยากให้ประชาชนคนไทยมีเงินเหลือใช้ เหลือเก็บอีกด้วย"