posttoday

ศรีสุวรรณ ร้องกกต.สอบเพื่อไทย-เศรษฐาปมกู้เงิน5แสนล้านแจกดิจิทัลวอลเล็ต

15 พฤศจิกายน 2566

“ศรีสุวรรณ”ร้องกกต.สอบ“เพื่อไทย-เศรษฐา”ปมออกพ.ร.ก.กู้เงิน5แสนล้านบาทแจกเงินดิจิทัล เข้าข่ายหลอกลวงจูงช่วงหาเสียงเลือกตั้งก่อนเป็นรัฐบาลหรือไม่ หวั่นสร้างบรรทัดฐานให้พรรคการเมืองอื่นขายนโยบายระดมแจกแต่ทำไม่ได้จริงเตรียมร้อง ป.ป.ช.ต่อ17พ.ย.นี้

นายศรีสุวรรณ จรรยา  ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน ยื่นคำร้องสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ตรวจสอบโครงการเงินดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาทของพรรคเพื่อไทย ว่า เข้าข่ายหลอกลวงหรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง ตามมาตรา 73 ( 5 ) ( 1 ) ประกอบมาตรา 159 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. 2561 หรือไม่  ซึ่งมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ถึง  10 ปี  ปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง  200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ   และอาจถูกสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งกำหนด  20 ปี

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง66 พรรคเพื่อไทยและนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคขณะนั้น  พูดมาโดยตลอดว่าจะไม่มีการกู้เงินมาใช้กับโครงการนี้มีการทำหนังสือที่ลงนามโดยหัวหน้าพรรคเพื่อไทยชี้แจงมายัง กกต.  ตามมาตรา  57 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองถึงที่มาของเงินที่จะใช้ถือเป็นพยานหลักฐานชัดเจน แต่เมื่อได้เป็นรัฐบาล นายเศรษฐา ในฐานะนายกรัฐมนตรีได้แถลงเมื่อวันที่10พ.ย.2566ว่าจะดำเนินพ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อมาใช้ในโครงการจึงขัดแย้งกับสิ่งที่พรรคเพื่อไทยได้ชี้แจงมายัง กกต.ในฐานะคนที่ควบคุมดูแลจัดการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์เที่ยงธรรมต้องดำเนินการเรื่องนี้อย่างชัดเจน  ต้องมีเหตุผลอธิบายต่อสังคมว่าเป็นเพราะอะไร  แต่ถ้าวินิจฉัยว่าเป็นการฝ่าฝืนก็ต้องลงโทษพรรคเพื่อไทยและนายเศรษฐา
 

ส่วนก่อนหน้านี้ที่ กกต.พิจารณาไปแล้ว หลังพรรคเพื่อไทยชี้แจง  นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า  ใช่ กกต.เป็นคนอนุมัติเรื่องนี้แต่เมื่อนำมาปฏิบัติจริงไม่เป็นไปตามที่ กกต. อนุมัติ  ก็ถือเป็นหลักฐานและเหตุให้ กกต.จะต้องหยิบเอาคำร้องนี้มาพิจารณาและดำเนินการลงโทษตามคำร้อง 

ส่วนที่รัฐบาลระบุว่าจะมีการลดสัดส่วนคนที่ได้รับแจก  และแนวทางการหาเงินมาใช้กับโครงงานนี้ใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน นายศรีสุวรรณ กล่าว่าในข้อกฎหมาย พ.ร.บ.เลือกตั้ง ปี 2561 ในมาตรา 72 และมาตรา 5 เขียนไว้ชัดเจนอยู่แล้วว่าการหาเสียงคือ 1.จะต้องไม่ให้ ไม่เสนอให้ทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใด 2.ไม่ให้มูลนิธิ วัด สถานบันการศึกษา  ซึ่งข้อห้ามเขาก็ได้เขียนไว้ชัดเจน คือ ห้ามจูงใจที่จะทำให้ความนิยมในพรรคการเมืองหรือผู้สมัครรับเลือกตั้งเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นการกระทำเช่นนี้ก็มีกฎหมายควบคุมอยู่   ในเมื่อพรรคการเมืองไม่ปฏิบัติตามที่ตนเองหาเสียงไว้ก็จะต้องมีความผิดโทษมีทั้งจำคุกและปรับรวมถึงการตัดสิทธิ์ทางการเมืองไม่ต่ำกว่า 10 ปี

สำหรับก่อนหน้านี้ กกต. ยกคำร้องนี้ไปแล้วระบุว่า ไม่เข้าข่ายสัญญาว่าจะให้ นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า เขาอ้างว่าเป็นการใช้เงินงบประมาณตามปกติ แต่ใน พ.ร.บ.ว่าด้วยวินัยการเงินการคลังระบุไว้ชัดเจนว่าการที่จะออกกฎหมายกู้เงินนั้นต้องมีเหตุผลความจำเป็นเร่งด่วน ทั้งนี้การร้องเรียนครั้งนี้แตกต่างจากครั้งที่แล้ว เพราะร้องครั้งที่แล้วไม่มีเรื่องการออก พ.ร.บ.เงินกู้   เราร้องเพียงว่าการออกนโยบายแบบนี้ไม่น่าเป็นไปได้   และเมื่อเข้าอ้างว่าเป็นการใช้เงินแผ่นดิน จึงไม่เข้าข่ายความผิดตามที่เคยร้อง แต่ครั้งนี้เข้าข่ายความผิดแล้วและวันที่ 17 พ.ย.นี้ตนจะไปร้อง ป.ป.ช. เนื่องจากว่าเขาพูดมาตลอดว่าจะไม่กู้เงิน   ทั้งนายกฯพูดผ่านสื่อและเวทีหาเสียง   แต่มาวันนี้จะมากู้เงิน จึงถือว่าเป็นการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อประชาชน อาจเข้าข่ายความผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง