posttoday

สว.รุมอัด กสทช.ไร้เสถียรภาพ ขัดแย้งในองค์กร ทำประชาชนไม่ศรัทธา

11 ตุลาคม 2566

สว. อภิปราย เรียกร้อง กสทช. หยุดทะเลาะกันเอง ส่งผลต่อการทำงาน ประชาชนไม่ศรัทธา สงสัย ใช้งบประมาณแบ่งกลุ่ม เดินสายไปต่างประเทศ นพ.สรณ ย้ำ เร่งจัดทำระบบเตือนภัย แต่งตั้งเลขาฯยึดตามระเบียบเคร่งครัด ธนพันธุ์ ปัด ขัดแย้ง ประธานกสทช. แค่มองมุมกฎหมายต่างกัน

วันที่ 10 ต.ค. ที่ห้องประชุมวุฒิสภา มีการประชุมวุฒิสภา มีวาระสำคัญ เรื่องที่เสนอใหม่เกี่ยวกับ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช) ประกอบด้วย รายงานผลการปฏิบัติงานกสทช. ประจำปี 2565 และรายงานการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการปฏิบัติงานกสทช. สำนักงานกสทช. และเลขาธิการ กสทช. ประจำปี 2565 

กสทช. มีคณะกรรมการ กสทช. และ สำนักงาน กสทช. ร่วม 11 คน เข้าร่วมชี้แจงต่อวุฒิสภา นำโดย นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกสทช นายธนพันธุ์ หร่ายเจริญ นางพิรงรอง รามสูต นายศุภัช ศุภชลาศัย กรรมการกสทช. นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการเลขาธิการ กสทช. และคณะ

นพ.สรณ กล่าวรายงานการดำเนินงานของกสทช เรื่องเร่งด่วน การจัดทำระบบการแจ้งเตือนภัยร่วมกับผู้ประกอบการ การแต่งตั้งเลขาธิการกสทช. โดยยึดระเบียบอย่างเคร่งครัด และข้อสงสัยการเดินทางปฏิบัติงานของประธานกสทช. ทุกการเดินทางเป็นไปอย่างรวบรัด เป็นรูปแบบกำหนดตามความจำเป็น

จากนั้น สมาชิกวุฒิสภารวมกว่า 10 คน ลุกขึ้นมาอภิปรายการทำงานของกสทช. เป็นทิศทางเดียวกัน คือ ยังไม่เห็นผลงานของกสทช. อย่างเป็นรูปธรรม งบประมาณของรัฐที่ได้ไปนั้น ไม่ถูกนำไปพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินแห่งชาติ แพลตฟอร์ม Telehealth การป้องกันปราบปรามแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ที่ระบาดหนัก เดือดร้อนผู้บริโภค การจัดระเบียบโทรทัศน์ และ OTT ที่ไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนเรื่อง Must have กับ Must Carry จนเกิดปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์บอลโลก และกระทบต่อสิทธิ์ของประชาชน ตลอดจนการใช้งบประมาณจำนวนมากในการเดินทางไปต่างประเทศ โดยเรื่องที่เป็นวาระสำคัญที่สุด คือ ปัญหาความขัดแย้งภายใน กสทช เอง ทั้งประธาน กรรมการ และสำนักงาน จนขาดความเป็นเอกภาพและเสถียรภาพในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน

พลอาการตรีเฉลิมชัย เครืองาม สมาชิกวุฒิสภา(สว.) กล่าวว่า คงต้องมีหน่วยงานหรือองค์กรใดหาข้อยุติเรื่องของคณะกรรมการ กสทช.ที่ฟ้องกันไปมา ไม่เคยเห็นคณะกรรมการฟ้องกันเอง กรรมการฟ้องเลขาฯ ประชาชนได้ประโยชน์อะไร ขอให้คิดใหม่ทำใหม่ เรื่อง ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินแห่งชาติ single emergency number (SEN) กำเนิดขึ้น โดยมติคณะรัฐมนตรี ปี 2561 กำหนดให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช) เป็นเจ้าภาพไปดูแล โดยเงินกองทุนวิจัยและพัฒนาโดยกสทช. ให้ทุนประเดิมแก่ สตช.ไปจัดการเรื่องนี้ 3,340 ล้านบาท และมีค่าใช้จ่ายดำเนินการต่อเนื่องกันอีก 5 ปี (2562-2567) จำนวน 4,232 ล้านบาท โดยรวมทั้งสิน 7,572 ล้านบาท ปีหน้าจะสิ้นสุดตามมติคณะรัฐมนตรี ประธาน กสทช. บอกว่า ทำหนังสือถามไปที่สตช. เรื่องใหญ่ขนาดนี้ปล่อยมาจนจะปีสุดท้าย ประชาชนยังไม่เห็นศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินแห่งชาติเลย

พลเอกสมเจตน์ บุญถนอม สว. อภิปรายว่า กรณีงบเดินทางต่างประเทศ เป็นข้อกังขาของสังคมว่า การเดินทางไปต่างประเทศของกรรมการ กสทช. ต้องไม่เป็นความลับ ต้องเปิดเผย โปร่งใส แสดงให้เห็นการใช้เงินปฏิบัติหน้าที่อย่างไร มีข้อสังเกต งบการเดินทาง ปี 2565-2566ว่า ปี 2566 ใช้งบ 40 ล้านบาท บางทริปเดินทาง 34 คน ไปโรมาเนีย ใช้งบ 15 ล้านบาท บางเดือน บอร์ด กสทช เดินทางต่างประเทศทุกท่าน ไม่มีใครทำงานอยู่ไทยเลย บางทริป แบ่งกันเดินทางไปสเปนทีละ 7-8 คน รวม 24 คน ใช้งบไปอีก 10.5 ล้านบาท สังเกต บางคนไปกับบางคนบ่อยๆ เป็นกลุ่มเดิมๆ เห็นได้ชัดว่า ภายใน กสทช แบ่งแยกเป็นกลุ่ม 

สิ่งที่เกิดขึ้น กระทบภาพลักษณ์ประธาน กสทช. สังคมมีคำถามต่อการทำหน้าที่ของประธาน และการเป็นผู้นำองค์กร อย่าลืมว่า ที่มาของ กสทช. มาจากการสรรหาและเห็นชอบโดย สว. จึงผูกพันกับ สว. เมื่อมีปัญหา สว. ต้องรับผิดชอบด้วย หากกสทช. ยังไม่สามารถจัดการปัญหาภายในได้ ต่อไป ต้องเป็นหน้าที่ ของ สว. ที่ต้องเข้าไปจัดการ เวลานี้ ต้องหยุดเรื่องความขัดแย้งเป็นอย่างแรก สว. ก็ใกล้จะหมดวาระแล้ว เราต้องการเห็นความปรองดอง

นายวันชัย สอนศิริ สว. อภิปรายพุ่งเป้าไปที่ปมขัดแย้งภายในบอร์ด กสทช ว่า การทำงานของ กสทช. กตป. ต้องเป็นหนึ่งเดียว ถ้ายังทะเลาะขัดแย้งกันอยู่ ก็ล้มเหลว ทั้ง กสทช. และ กตป. มาจาก สว. โดยตรง สว. เป็นคนเลือกขึ้นมา เมื่อมีเรื่องปัญหา สว. ก็ต้องพูดตรงๆ ชาวบ้านถามผมว่า เลือกคนแบบนี้ มาทะเลาะกัน หรือมาทำงานกันตามหลักการ ประธานจะคุมเสียงส่วนใหญ่ เสียงข้างน้อยมีบ้าง แต่ประนีประนอมกันได้ แต่สำหรับ กสทช. ประธาน มีแค่ 3 เสียง อีกซีกมี 4 เสียง แล้วมันจะเดินยังไง องค์กรอื่นขัดแย้งกัน ไม่มีการฟ้องกัน แต่เลขาฯ ฟ้องกรรมการ กรรมการฟ้องเลขาฯ กรรมการฟ้อง ประธาน ฟ้องกันไปมา องค์กรจึงพัง ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศ ประชาชน รัฐบาลก็พัง งานก็เดินไม่ได้ ไม่ได้รับความเชื่อถือ ศรัทธาจาก ประชาชน ผลงานมีแค่ไหน แต่ถ้าท่านทะเลาะกัน ประชาชนก็ไม่ศรัทธาต่อองค์กรนี้ ประชุมมีวาระค้าง 20-30 วาระ นัดประชุมกัน ทะเลาะกัน ล่มประชุมเสียอย่างนั้น

"พูดกันแบบกัลยาณมิตร ประธานต้องคุมเสียงข้างให้ได้ อย่างรัฐบาลต้องคุมเสียงข้างมาก ถ้าไม่ได้ก็ต้องลาออก ในนาม สว. เราเสียใจมาก มันหมดเวลาแล้วในการทะเลาะกัน กตป. ต้องห้ามทัพ ศึกนี้ ใหญ่หลวง ถ้าห้ามไม่ได้ 5G แก็งค์คอลเซ็นเตอร์ ศูนย์แจ้งเหตุคุ้มครองประชาชน ก็คงไม่เกิด”นายวันชัยกล่าว

นายสายัณห์ สวัสดิ์ศรี กรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานด้านกิจการกระจายเสียง ชี้แจงว่า ปัจจุบัน ภาพลักษณ์ กสทช ประสบปัญหามีความไม่โปร่งใสในบางกรณี นับตั้งแต่ปี 2563 นายไตรรัตน์รักษาการเลขาฯ  ปี 2565 บอร์ดชุดใหม่เข้ามา ยังไม่มีข้อยุติ เรื่องเลือกเลขาฯ การลงมติอนุมัติควบรวมกิจการ ทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นในกสทช. ตลอดจนการตรวจสอบความผิดเรื่องลิขสิทธิ์บอลโลก ตอนนี้ กสทช. มีฟ้องกันอยู่ 5 รายการ 1. ทรูดีแทค ฟ้อง กสทช ด้านโทรทัศน์ 2. ไตรรัตน์ ฟ้อง บอร์ด 4 ท่าน และรองเลขาธิการ 3. บอร์ด 4 คน ฟ้องประธาน, 4. ผู้สมัคร เลขาฯ กสทช ฟ้อง ปธ, 5. ภูมิศิษฐ์ รองเลขาธิการ ฟ้อง ประธาน สถานการณ์ความขัดแย้งรุนแรงมากขึ้น ต้องรีบแก้ไขโดยด่วน ผมขอเสนอแนะให้ กระทรวง DE เป็นคนกลางเข้ามาคลี่คลาย

จากนั้น วันชัย สอนศิริ สว. ลุกขึ้นซักถามต่อว่า ยังไม่ได้รับคำตอบใดๆ เรื่องความขัดแย้งภายใน กสทช ท่านช่วยตอบ สว. ได้หรือไม่ว่า ปัญหาของความไม่ปรองดองของบอร์ด ทั้ง 7 คน ท่านจะทำอย่างไร 

นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช ตอบสั้นๆ เพียงว่า กราบขอบคุณกัลยาณมิตร ตนมีกัลยาณมิตรนั่งอยู่ข้างบนด้วยกัน ซึ่งหมายถึงกรรมการ กสทช. พยายามที่จะปรับปรุงทัศนคติ และความร่วมมือกัน

นายธนพันธุ์ หร่ายเจริญ หนึ่งใน 7 กรรมการกสทช. ชี้แจงว่า รับทราบถึงความห่วงใย ส่วนตัวไม่มีข้อขัดแย้งใดกับประธาน อาจจะเป็นปัญหาเรื่องการตีความ ข้อกฎหมายที่อาจแตกต่างกัน เช่น การแต่งตั้งเลขาฯ กสทช. ตาม มาตรา 61 ประธานต้องแต่งตั้งเลขาฯ ตามความเห็นชอบของ กสทช. แต่ท่านประธานมองว่า ท่านต้องมีอำนาจในการเลือกเลขาเอง นี่เป็นตัวอย่างง่ายๆ ที่พวกผมรู้สึกว่า เป็นข้อขัดแย้งในทางกฎหมาย หรือเรื่องการพิจารณางบประมาณ ตามหลักการ กสทช. ต้องเป็นผู้อนุมัติงบ

ส่วนการจัดสรรเป็นหน้าที่ของสำนักงานฯ ซึ่งที่ผ่านมา จำเป็นต้องให้ กสทช. พิจารณางบก่อนส่งให้ DE แต่ครั้งนี้ ดันมีการตีความกฎหมายใหม่อีกว่า กสทช. ไม่ต้องพิจารณา สำนักงานส่ง DE เลย ก็คือตัวอย่างปัญหา เป็นเรื่องยาก ที่จะยอมรับ จึงต้องพึ่ง ศาลปกครอง ในการพิจารณาข้อกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปมขัดแย้งร้าวลึกภายในองค์กร กสทช. ยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นแต่อย่างใด เมื่อวันที่ 6 ต.ค. กรรมการ กสทช. 4 ราย ได้แก่ พล.อ.ท.ดร.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ รศ.ดร.พิรงรอง รามสูต รศ.ดร.ศุภัช ศุภชลาศัย และ รศ.ดร.สมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ ได้ทำหนังสือ‘ด่วนมาก’ เลขที่ สทช.1002/35271 ส่งถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เพื่อขอความอนุเคราะห์ดำเนินการทบทวนการบรรจุวาระเพื่อพิจารณางบประมาณรายจ่ายของสำนักงานกสทช. ประจำปี 2567 กรอบวงเงิน 5,282.50 ล้านบาท เนื่องจากไม่มีการเสนอให้ บอร์ด กสทช. พิจารณาก่อน ตามระเบียบ