เศรษฐา ติดตามงานพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม ส่งเสริมท่องเที่ยวอันดามัน
นายกฯ รมว.คมนาคม รมว.ท่องเที่ยว ลงพื้นที่ภูเก็ต ติดตามงาน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่ง ส่งเสริมการท่องเที่ยวบริเวณชายฝั่งทะเลอันดามัน ย้ำ ภูเก็ตเมืองสำคัญระดับโลก ต้องไม่หยุดพัฒนา กำชับหน่วยงานดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว อย่าให้เกิดปัญหา
วันที่29 ก.ย. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และคณะ ลงพื้นที่ตรวจติดตามการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวบริเวณชายฝั่งทะเลอันดามัน จังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงา ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ที่ต้องการผลักดันการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีรับฟังภาพรวมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวบริเวณชายฝั่งทะเลอันดามัน ที่ห้องประชุม AOT ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต โดยมีประเด็นสำคัญๆ ดังนี้
การพัฒนาท่าอากาศยานแนวชายฝั่งอันดามัน ประกอบด้วย 1) โครงการพัฒนาก่อสร้างท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ระยะที่ 2 วงเงินลงทุน 5,800 ล้านบาท 2) โครงการพัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ วงเงินลงทุน 2,700 ล้านบาท และ 3) โครงการก่อสร้างท่าอากาศยานพังงา หรือท่าอากาศยานนานาชาติอันดามัน ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา วงเงินลงทุน 80,000 ล้านบาท
ในส่วนของโครงการทางพิเศษ และโครงข่ายทางหลวงในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ประกอบด้วย 1) โครงการทางพิเศษใน จ.ภูเก็ต การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) อยู่ระหว่างดําเนินโครงการทางพิเศษใน จ.ภูเก็ต จําแนกเป็น 2 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1 ช่วงกะทู้ - ป่าตอง ระยะทาง 3.98 กม. และระยะที่ 2 ช่วงเมืองใหม่ – เกาะแก้ว – กะทู้ ระยะทาง 30.26 กม. 2) โครงการพัฒนาปรับปรุงโครงข่ายทางหลวง จ.ภูเก็ต กระทรวงคมนาคม โดยกรมทางหลวง อยู่ระหว่างดําเนินโครงการพัฒนาปรับปรุงระบบคมนาคมขนส่งทางถนนในพื้นที่ จ.ภูเก็ต หลายโครงการ มีโครงการที่เร่งรัดการดำเนินการในปีงบประมาณ 2567 ดังนี้
(1) โครงการก่อสร้างขยาย 4 ช่องจราจร ทางหลวงหมายเลข 4207 ระยะทาง 4.55 กิโลเมตร (2) โครงการก่อสร้างทางหลวงแนวใหม่ 4 ช่องจราจร ได้แก่ ทางหลวงหมายเลข 4207 ระยะทาง 1.95 กิโลเมตร และ (3) โครงการก่อสร้างทางแยกต่างระดับ ที่จุดตัด ทล.402 กับ ทล. 4207 (ทางลอดท่าเรือ) ที่ กม. 34+680 (ทล.402)
ภายหลังรับฟังบรรรยายสรุปภาพรวมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวบริเวณชายฝั่งทะเลอันดามัน นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่เสนอแนวความคิดในการพัฒนาโครงการต่างๆ รัฐบาลพร้อมร่วมมือกันทำงานเพื่อพัฒนาภาคการท่องเที่ยว และเพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้กลับมาอีกครั้ง พร้อมกับเชื่อมั่นในศักยภาพของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็น Model ที่จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยความโดดเด่นของจังหวัด สามารถเชื่อมต่อไปสู่การท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดคลัสเตอร์ ภูเก็ต กระบี่ พังงา ซึ่งล้วนมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน เป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเลือกเดินทางมาที่นี่
นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวอวยพรให้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ในนามของรัฐบาลขอขอบคุณที่ตลอดระยะเวลาการทำงาน ผู้ว่าฯ ทำงานมาด้วยความทุ่มเท อุทิศตนทำงานเพื่อประเทศชาติ หลังจากเกษียณราชการแล้ว ขอให้มีความสุขใช้ชีวิตอย่างมีความสุขต่อไป
นายกรัฐมนตรียืนยันว่า รัฐบาลมีการติดตามงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาได้มีโอกาสทำงานร่วมกับข้าราชการกระทรวงคมนาคม ถือเป็นแบบอย่างที่ดีของการทำงาน มีการขับเคลื่อนงาน รวมถึงมีการบริหารจัดการที่ดี ใช้งบประมาณที่มีอย่างจำกัดสร้างประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่าตอบสนองนโยบายของรัฐบาล
ถึงแม้จะมีการดำเนินโครงการสำคัญๆ ในจังหวัดภูเก็ตแล้ว ตลอดระยะเวลา 4 ปีของรัฐบาล จะต้องดำเนินการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองระดับโลกจะต้องไม่หยุดพัฒนา สิ่งที่สำคัญขอฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลนักท่องเที่ยว อยากให้ก้าวแรกจนถึงก้าวสุดท้ายที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาจังหวัดภูเก็ตมีความสุข มีความปลอดภัย อย่าให้เกิดปัญหา ขอกำชับให้ตำรวจดูแลเรื่องความปลอดภัย สร้างความประทับใจ และในส่วนของ AOT ขอให้บริหารจัดการเรื่อง private jet ให้ดี อย่าให้กระทบต่อตารางการบินของนักท่องเที่ยว