posttoday

'ชัชชาติ'พบ'อนุทิน'เชื่อปมหนี้มรถไฟฟ้าสีเขียวมีทางออกดีที่สุด

19 กันยายน 2566

ชัชชาติ พบ อนุทิน ระบุ ปมหนี้รถไฟฟ้ารอหารือสัปดาห์หน้า ขอดูรายละเอียดทั้งหมดทำไมปล่อยหนี้พอกพูนเชื่อหาทางออกดีที่สุดได้

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นำคณะผู้บริหารกทม. เข้าพบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นานกว่า 1ชั่วโมง พร้อมรับประทานอาหารร่วมกัน

นายชัชชาติ ได้เปิดเผยว่า วันนี้ก็มาแสดงความยินดี เป็นการมาพูดคุยต่อเนื่องจากที่หารือกับนายกรัฐมนตรี เพราะรมว.มหาดไทยเป็นคณะทำงานเร่งรัดพัฒนากรุงเทพด้วย ที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งและกทม.กับมหาดไทยก็มีเรื่องที่จะต้องประสานงานกัน และสัปดาห์หน้าจะมาพูดคุยในรายละเอียดอีกครั้ง เช่น เรื่องสายสื่อสารลงดิน การเปลี่ยนหลอดไฟฟ้าแอลอีดีทั้งกรุงเทพให้ประหยัดพลังงาน เพื่อให้เกิดการลดค่าไฟ หากเปลี่ยนได้จะช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ด้วยรวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ที่ กทม.จะต้องร่วมมือกัน 

ทั้งนี้ นายชัชชาติ ยังได้แชร์ประสบการณ์เรื่องทราฟฟี่ฟองดูร์ ให้ฟังด้วย และมองว่าหากนำแอพพิเคชั่นไปขยายใช้ต่อทั้งประเทศได้ ก็จะทำให้การแก้ไขปัญหาอย่างไร้รอยต่อ ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นประโยชน์ที่ดี

เมื่อถามว่า การทำงานกับรัฐมนตรีมหาดไทยยุคนี่ดีกว่ายุคที่ผ่านมาหรือไม่ นายชัชชาติ มองว่า ก็ดีทุกยุค และเราเป็นเพื่อนกัน รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กก็ทำงานร่วมได้ แล้วท่านตัดสินใจไว และคิดว่าน่าจะเป็นการร่วมมือที่ดี

ส่วนเรื่องรถไฟฟ้า มองว่าทุกอย่างมีทางออก และรองนายกฯอนุทิน เองทีข้อมูลละเอียด สัปดาห์หน้าจะมาหารือกันอีกครั้ง

ขณะที่นายอนุทิน บอกว่า เรื่องรถไฟฟ้า ต้องทำตามกฎหมายทุกอย่าง ถ้ามาบรรจบกันก็แก้ไขปัญหาได้ เป็นไปตามกฎหมายและมีความชอบธรรมและเรื่องนี้เป็นปัญหา ไม่ได้มาจาก ม.44 เพราะ ม.44สั่งให้ไปทำอย่างไร้รอยต่อ แต่ปัญหามันมีทั้งระบบก็ต้องมาหารือกัน และได้นัดหมายกับผู้ว่าชัชชาติว่าจะเร่งสะสางปัญหาโดยเร็ว ซึ่งทุกอย่างจะต้องทำตามกฎหมายและทำตามระเบียบ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับชาวกทม.
    
ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ มีความยากเรื่องที่มาที่ไปและต้องใช้ข้อมูลทุกอย่างที่มีอยู่ โดยจะต้องร่วมกันแก้ไขปัญหาไม่ใช่เพิ่มปัญหา โดยจะต้องหารือในรายละเอียดทั้งหมดก่อนว่าทำไมเป็นปัญหายาวนานมาจนถึงขณะนี้ และปัญหาที่แท้จริงคืออะไร

ส่วนยังยืนยันจะต่อสัมปทานหรือไม่ มองว่า ทางที่ดีที่สุดจะต้องทำตามสัญญาที่มีอยู่ เพียงแค่เรื่องนี้เกิดขึ้นมาก่อนที่ ตนมาอยู่มหาดไทย และก่อนที่ผู้ว่าชัชชาติจะมาเป็นผู้ว่ากทม. และหากการจ้างเดินรถ ถ้าเขาให้บริการประชาชนจริงๆ เป็นประโยชน์ประชาชนเราก็ไปเอาเปรียบเขาไม่ได้  ส่วนงบประมาณที่จ่ายจะต้องใช้งบจากไหนนั้น ก็คงต้องมาจากครม. แต่ก็อยากให้จบที่กทม.

นายอนุทิน ยืนยันเพิ่มเติมว่า เรื่องนี้ไม่ได้มีเจตนาอะไรที่ไปทำให้ล่าช้า เพราะผู้ประกอบการมีความเสียสละในการแบกภาระ ต้องไปดูว่าทำไมปล่อยให้หนี้พอกพูนขนาดนี้ และเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญกับกทม. กระทรวงมหาดไทย และประชาชน จึงต้องหาวิธีแก้ไขปัญหา

ส่วนจะชัดเจนหรือไม่ว่ารัฐบาลจะช่วยเหลือคงยังไม่ชัดเจนจะต้องหาที่มาที่ไป เพื่อรวบรวมข้อมูลก่อน เพราะถ้าเกิดกรณีต้องเป็นโมฆะประชาชนก็เดือดร้อนอีก ดังนั้นก็พยายามที่จะหาทางออกให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ รวมถึงจะต้องไม่ทำให้มีเอ๊ะอีกด้วย