posttoday

'สว.อุปกิต' ปัดใช้เอกสิทธิ์คุ้มครอง เลื่อนฟังคำสั่งคดีเหตุติดสมัยประชุม

30 สิงหาคม 2566

'สว.อุปกิต ปาจรียางกูร' โต้รองอัยการสูงสุด แจงเลื่อนฟังคำสั่งคดีฟอกเงิน มีส่วนร่วมองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ติดสมัยประชุม ยืนยันสู้ตามกระบวนการยุติธรรม

นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยถึงการขอเลื่อนนัดฟังคำสั่งอัยการสูงสุดเมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมากรณีถูกกล่าวหากระทำความผิดฐานฟอกเงิน และมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติว่า เนื่องจากขณะนี้ยังอยู่ระหว่างสมัยประชุม ทำให้ตลอดทั้งวันนั้นมีวาระการประชุมทั้งวุฒิสภารวมถึงคณะกรรมาธิการที่ดำรงตำแหน่งอยู่ 
 

ทั้งนี้ ขอทำความเข้าใจว่า การเลื่อนนัดครั้งนี้ไม่ใช่การใช้เอกสิทธิ์คุ้มครอง ตามที่ปรากฎเป็นข่าว เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นขั้นตอนกระบวนการระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติและวุฒิสภา ไม่ใช่เรื่องที่ตนจะเข้าไปเกี่ยวข้องดำเนินการแต่อย่างใด

นายอุปกิต กล่าวว่า การเลื่อนนัดกับอัยการสูงสุดครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก ไม่ใช่เป็นไปตามการเสนอข่าวคลาดเคลื่อนของสื่อมวลชนซึ่งอ้างคำแถลงของนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดว่า ได้เคยใช้เอกสิทธิ์คุ้มครองขอเลื่อนนัดฟังคำสั่งคดีเมื่อวันที่ 26 ก.ค.2566   มาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งในข้อเท็จจริงการเลื่อนนัดวันที่  26 ก.ค. เป็นวันที่ 28 ส.ค.2566 นั้น เนื่องจากอัยการสูงสุดยังพิจารณาสำนวนไม่แล้วเสร็จ 

นายอุปกิต กล่าวตั้งข้อสังเกตว่า  มีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อมวลชนที่อ้างข้อมูลซึ่งสร้างความเข้าใจผิดและมีการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน จากนายโกศลวัฒน์ หลายครั้ง เช่น เมื่อวันที่ 27 มี.ค.2566 เดินทางเข้าพบพนักงานอัยการด้วยตนเอง เพื่อชี้แจงกรณีนายรังสิมันต์ โรม และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ยื่นเรื่องให้เอาผิดแต่นายโกศลวัฒน์กลับแจ้งสื่อมวลชนให้เข้าใจผิดว่าเข้ามอบตัวพร้อมถูกแจ้งข้อกล่าวหา และอ้างว่า มีการนัดฟังคำสั่งคดีในวันที่ 17 เม.ย.2566 ซึ่งเป็นวันหยุดชดเชยวันสงกรานต์  ทั้งที่ข้อเท็จจริงขณะนั้นยังไม่มีการออกหมายเรียก  และต่อมาพนักงานอัยการได้นัดหมายให้ตนเข้ารายงานตัวอีกครั้งในวันที่ 20 เม.ย. 2566

นายอุปกิต กล่าวยืนยันว่า  ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้ให้ความร่วมมือกับการแสวงหาข้อเท็จจริงโดยกระบวนการยุติธรรมมาตลอด เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2566ได้เข้ารายงานตัวพร้อมทนายตามนัดที่ สำนักงานอัยการ ตลิ่งชั่น แต่เป็นเพราะอัยการสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ จึงได้เลื่อนนัดให้มารายงานตัวในวันที่ 18 พ.ค. 2566  ซึ่งพร้อมทนายก็ได้เดินทางเข้ารายงานตัวตามนัด แต่อัยการก็ยังทำสำนวนไม่แล้วเสร็จอีก จึงเลื่อนนัดเป็นวันที่  26 ก.ค. 2566 และต่อมาเลื่อนนัดอีกครั้งเป็นวันที่ 28 ส.ค.2566 เพราะสำนวนอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาและสอบสวนพยานหลักฐานเป็นจำนวนมาก รวมแล้วที่ผ่านมาตนได้เข้าพบพนักงานอัยการ 4 ครั้ง  ซึ่งอัยการเป็นฝ่ายเลื่อนนัดตลอด

นายอุปกิต กล่าวว่า การให้ข้อมูลแก่สาธารณะควรมีการพิจารณาด้วยความรอบคอบ โดยเฉพาะนายโกศลวัฒน์ซึ่งทำหน้าที่เสมือนเป็นตัวแทนสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการอำนวยความยุติธรรม ยิ่งจะต้องดำรงบทบาทสถานะเพื่อให้สังคมมีความเชื่อมั่น ทั้งนี้ ยืนยันในความบริสุทธิ์และจะต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมอย่างถึงที่สุดเพื่อเอาผิดทุกคนที่สร้างความเสื่อมเสีย สร้างความดูหมิ่นเกลียดชัง ให้แก่ตนและวงศ์ตระกูล