posttoday

จตุพร อ้างการข่าว 10ส.ค. ทักษิณ ไม่กลับไทย เย้ย อิ๊งค์ เป็นนายกฯ คนเต็มถนน

30 กรกฎาคม 2566

จตุพร เผยการข่าว บ่งชี้ 10ส.ค. ทักษิณ ไม่กลับไทย เผย คดีทุจริตไม่เคยได้รับการอภัยโทษ จวก ตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว ตระบัดสัตย์ คิดผสมสีแดงเหลือง หวังล้มส้ม เย้ย อุ๊งอิ๊งค์ ถึงได้เป็นนายกฯ คนออกมาเต็มถนน แย้ม โหวตนายกฯ4ส.ค. ส่อเค้าเลื่อน แนะจับตา เกมธนาธร อาจทำให้ ก้าวไกลเป็นฮีโร่

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน ผิดพลาด มีเนื้อหาบางช่วงว่า ดีลตั้งรัฐบาล พร้อมเงื่อนไขเดินทางกลับไทยอย่างเท่ๆของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 10 ส.ค. ได้จบสิ้นลงแล้ว เนื่องจากไม่แน่ใจกรณีติดคุกค้างคืนจะได้รับอภัยโทษคดีทุจริต จึงเป็นความผิดพลาดไม่รู้จักจำกับการดีลถึง 20 ครั้งในรอบ 17 ปีที่พยายามหาทางกลับบ้าน ทักษิณ กลับไทยเพื่อมาติดคุกนั้น คุกไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่ต้องตัดใจได้และไม่คิดอะไรมาก ขอเพียงให้มีจิตใจผ่องแผ้วจะได้รับรู้ถึงเวลาในคุกเดินทางได้รวดเร็ว หากตัดใจไม่ได้ การประกาศกลับบ้านกี่ครั้งก็เหมือนเดิม ยังเชื่อว่าวันที่ 10 ส.ค. นี้ ทักษิณ จะไม่มาตามที่ประกาศเอาไว้

อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) 2 คนที่ติดคุก เคยขออภัยโทษก็ไม่เคยได้รับ ถ้าเป็นชาวบ้านธรรมดาก็ได้รับอภัยโทษเร็วขึ้น สิ่งสำคัญคือ คดีทุจริตถึงจะยื่นไปก็ตาม แต่ยังไม่เคยได้รับอภัยโทษด้วย ดังนั้น ทักษิณ กลับบ้านแบบเท่ๆ ติดคุกคืนเดียวจึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

วันที่ 10 ส.ค. วันที่ทักษิณ ประกาศจะกลับบ้าน แม้ตนเห็นใจคนในครอบครัวชินวัตร แต่ถ้าทักษิณตัดสินใจไม่อีนังขังขอบก็กลับมา หากประเมินผิดพลาดก็ให้เครื่องบินลงที่สนามบินดอนเมือง ส่วนรถทัวร์มาลงที่ตนได้ พร้อมรับ แต่การข่าวนั้น บ่งว่าขณะนี้จบแล้ว และวันที่ 10 ส.ค.เป็นที่ยุติ ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นได้ ขณะที่การตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว ต้องรอวิวัฒนาการกันไป เพราะพฤติกรรมมันบ่งบอกว่าการดีลกันนั้น แค่แสดงเจตนาข้ามขั้วก็จบแล้ว
 

นายจตุพรกล่าวว่า การตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว ตามแนวคิดจับสีเสื้อแดงผสมเหลืองเพื่อต่อสู้ถล่มส้มนั้น การตั้งรัฐบาลไม่ใช่เรื่องสีเสื้อ แต่หลักสำคัญอยู่ที่การยึดมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ประชาชนต้องเข้มแข้ง อย่ายอมให้ทฤษฎีรัฐบาลแบบสีเสื้อเกิดขึ้น เพราะทฤษฎีนี้เริ่มต้นจากการตระบัดสัตย์ข้ามขั้ว ยิ่งจะทำให้ทักษิณไม่ได้กลับมาไทยเลย เนื่องจากประชาชนทนการเสียรู้ไม่ได้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ ประชาชนต้องไม่คิดต่อสู้ห้ำหั่นทำลายประชาชนด้วยกันเอง 

"พวกคิดเกมทฤษฎีสีเสื้อนี้เป็นพวกอำมหิต เป็นการคิดแผนที่อันตรายที่สุด ดังนั้น ประชาชนต้องเข้มแข็ง และมีความมั่นใจ อย่าไปเป็นเครื่องมือของเกมแดงจับมือเหลืองล้มส้ม เพราะเป็นการปลุกปั่นให้ประชาชนฆ่าประชาชนกันเอง สิ่งสำคัญประชาชนต้องร่วมมือกันในการนำพาแก้ปัญหาของชาติ เพื่อหาทางให้ประเทศรอด นั่นเป็นหน้าที่ของประชาชน แต่ต้องไม่ใช่นักการเมืองมาปั่นให้ฆ่ากันเพื่อปกป้องนักการเมือง ประชาชนควรปกป้องประเทศไม่ใช่ปกป้องนักการเมือง”นายจตุพรกล่าว

นายจตุพร กล่าวอีกว่า กระแสข่าวนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าคณะก้าวหน้า ไปเจรจากับทักษิณ ที่ฮ่องกงนั้น แม้ยังไม่มีข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่ข่าวระบุถึงการเสนอว่า ไม่มีลุง ไม่มีก้าวไกลนั้น แม้แสดงถึงการโหวตให้รัฐบาลข้ามขั้ว แต่ไม่ร่วมรัฐบาลด้วย หากเป็นเช่นนี้ พรรคก้าวไกลยิ่งเป็นฮีโร่ ส่วนพรรคตั้งรัฐบาลจะกลายเป็นพวกผีถูกเผาไปทันที 

สำหรับการโหวตนายกฯ เพื่อไทยนั้น ถ้านส.แพทองธาร ชินวัตร พร้อมเป็นนายกฯ ฝ่าย 188 เสียงจะโหวตให้ เพื่อเร่งดันให้ไปสู่การพังได้เร็วขึ้น จะได้ปิดฉากการเมืองเร็วที่สุด ดังนั้น ฝ่าย 188 เสียงพร้อมจัดให้ แต่อุ๊งอิ๊งจะไม่ได้บริหารประเทศเลย เพราะประชาชนออกมาเต็มถนน ถ้าไม่เชื่อเพื่อไทยก็เสนออุ๊งอิ๊งมาเป็นนายกฯ ซึ่งพิสูจน์กันได้

การประชุมสภาโหวตนายกฯ วันที่ 4 ก.ค.นี้ อาจมีการเลื่อนก็ได้ เพราะมีหลายเรื่องให้สภาต้องหารือกัน อีกทั้งศาลรัฐธรรมนูญ จะพิจารณาคำร้องมติตามข้อบังคับประชุมข้อที่ 41 ขัดรัฐธรรมนูญจะมีผลอย่างไรด้วย หรือถ้าได้โหวตนายกฯ คนที่จะถูกเสนอชื่อ ซึ่งคาดเป็นนายเศรษฐา ก็ไม่อยากจะเป็นเช่นกันท่ามกลางการเมืองแบ่งฝ่ายช่วงชิง ขัดแย้งกันในขณะนี้

"สูตรการตั้งรัฐบาลที่น่าจะเป็นและต้องยึดมั่นกันไว้ให้มากที่สุดคือ 8 พรรค MOU จับมือกันให้มั่นคง ไม่แตกแยกแล้วอย่ารีบพาประชาชนไปแพ้ แต่ควรรอแบบอดเปรี้ยวไว้กินหวานจะดีกว่า ถ้ารีบไปแพ้แล้ว จะมีปัญหาว่า รีบไปทำไม การอดเปรี้ยวไว้กินหวานคือ เป็นหวานของประชาชน เพื่อได้อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนอย่างแท้จริง ซึ่งไม่เคยมี เพราะเราอยู่ในวังวนของนักการเมืองและการรัฐประหารมาโดยตลอด ประชาชนควรเตรียมตัว เตรียมใจไว้ให้พร้อมกับสถานการณ์ที่แปรปรวนสูงและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในขณะนี้”นายจตุพรกล่าว