'ปดิพัทธ์'พาผู้เสียหายฟ้องประยุทธ์กับพวกคดีทุจริตสร้างพักทหาร ทบ.
'ปดิพัทธ์' รองประธานรัฐสภา นำนักธุรกิจหอบหลักฐานยื่นฟ้อง นายกฯประยุทธ์ กับพวก 25 คนทุจริตจัดสร้างบ้านพักทหาร ทบ.แถมเรียกอีก 5 % เคยร้องสำนักนายกฯ แต่คดีไม่คืบ
เมื่อวันที่ 26 ก.ค.2566 ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถนนเลียบทางรถไฟ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล และรองประธานสภาฯคนที่ 1 ได้พานางพัสนีย์ พูลสุข หรือบัวสันเทียะ หรือก้อย อายุ 44 ปี ชาวจ.ลพบุรีผู้เสียหายยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะรมว.กลาโหม กับพวกรวม 25 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน เรียกรับยอมรับทรัพย์สิน และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ตามฟ้องโจทก์ สรุปว่า โจทก์เป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ กับ กรมสวัสดิการทหารบก เพื่อปลูกสร้างหรือที่ดินเปล่าให้กับข้าราชการกองทัพบกและเพื่อขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างหรือที่ดินเปล่าให้กับข้าราชการกองทัพบก
เมื่อข้าราชการทหารบกหรือกำลังพลทหารบก มีความประสงค์ที่จะซื้อบ้านพร้อมที่ดินหรือ ที่ดินเปล่า จะขอกู้เงินจากกิจการออมทรัพย์ข้าราชการกองทัพบก มาซื้อจากโจทก์ โดยจำเลยทั้ง 25 คน ทั้งข้าราชการ ในกรมสวัสดิการทหารบก และพลเรือนซึ่งเป็นเจ้าพนักงาน ได้ร่วมกันเรียกและรับเงิน เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 159 และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรามาตรา 157
นอกจากนี้ จำเลยทั้ง 25 คนได้ร่วมกันกระทำความผิด ต่อโจทก์ หลายครั้งหลายหน รวม 200 ครั้ง ด้วยการเรียกรับเงินจำนวน 5 เปอร์เซ็นต์ จากโจทก์ และ ค่าตรวจหลักทรัพย์ ค่าดูแลเอกสารลูกค้าที่มา ซื้อที่ดินโจทก์ ต่อมาตั้งแต่ปี 2561 พวกจำเลยได้เรียกเงินที่อ้างว่า ต้องจ่ายให้กรม สวัสดิการทหารบกอีกหลังละ 50,000 บาท คิดเป็นเงินที่โจทก์ต้องเสียไปจำนวนกว่า 44 ล้านบาท
ทั้งนี้จําเลยผู้กระทำความผิด ส่วนใหญ่ทำงานอยู่ในกรมสวัสดิการทหารบก ทั้งสิ้น อาทิ เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก,
นายทหารยศพันเอก รองเจ้ากรมสวัสดิการทหารบกหัวหน้าเงินกู้กองออมทรัพย์ กรมสวัสดิการทหารบก ผู้อำนวยการ กองการออมทรัพย์ข้าราชการทหารบก และหัวหน้าแผนกเงินกู้กองการออมทรัพย์ สวัสดิการทหารบก เจ้าหน้าที่กองการออมทรัพย์กรมสวัสดิการทหารบก กรรมการตรวจหลักทรัพย์กรมสวัสดิการทหารบก
ต่อมาเดือน ก.พ. 2563 เกิดเหตุกำลังพลนายหนึ่งคลุ้มคลั่งกราดยิงที่ จ.นครราชสีมา เนื่องจากไม่ได้รับเงินส่วนต่าง โจทก์จึงรู้ว่า กรมสวัสดิการ ทหารบก ไม่มีระเบียบการให้จ่ายเงินเปอร์เซ็นต์และเงินค่าตรวจหลักทรัพย์ เงินค่าดูแล และเงิน 50,000 บาทต่อหลังโจทก์จึงได้เรียกร้องเรียกขอเงินคืนจากผู้ที่เรียกเอาเงินของโจทก์ไป รวมทั้งร้องเรียนไปยัง ป.ป.ช. แต่มีความล่าช้า จึงนำคดีมายื่นฟ้องเอง
ด้านนายปดิพัทธ์ สส.ก้าวไกล เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 ก.พ.2566 ได้นำหลักฐานไปยื่นที่สำนักนายกรัฐมนตรีแต่ผ่านมา 4 เดือนแล้ว เรื่องยังไม่มีความคืบหน้า วันนี้จึงนำหลักฐานมายื่นฟ้องที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อเป็นการช่วยเหลืออีกหนึ่งช่องทาง เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดเรื่อง ผู้เสียหายโดนกดดันอย่างหนักหน่วง
นายฤทธิ์ พัวพัน ทนายความ เปิดเผยว่า เบื้องต้น ได้ยื่นฟ้องข้าราชการทหาร 23 นาย และพลเรือนอีก 2 คน ซึ่งทั้งหมดอยู่ภายในกรมสวัสดิการทหารบก ใน 2 ข้อหา เรียกรับเงิน และ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งข้าราชการมีตั้งแต่ทหารยศนายพล นายพัน เจ้าพนักงานราชการในสังกัด ซึ่งทำผิดกว่า 200 ครั้ง มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 43 ล้านบาท
ด้านผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนต่อสู้มาตั้งแต่ปี 2563 กับครอบครัวเพียงลำพัง ที่ผ่านมาได้ไปเรียกร้องมาทุกช่องทาง แต่กลับไม่ได้รับความช่วยเหลือ และหวังว่าศาลแห่งนี้จะเป็นที่พึ่งสุดท้าย เพราะที่ผ่านมาตนและครอบครัวได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จนถึงขั้นลูกไม่ได้เรียนหนังสือ เพราะกลัวจะไม่ปลอดภัย ทั้งนี้ มั่นใจในพยานหลักฐาน การฟ้องในครั้งนี้เป็นการฟ้องครั้งแรกที่มีพลเรือนร่วมทุจริตด้วย และอาจจะมีการฟ้องในครั้งต่อ ๆ ไป หากพบข้อมูลว่ามีใครทำผิด
สำหรับคดีนี้สืบเนื่องจากกรณี เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา นายปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล และรอง ประธานสภาคนที่ 1 ได้ยื่นหลักฐานกรณีทุจริตบ้านพักสวัสดิการทหาร หลังจากได้อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รักษาการนายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประยุทธ์ได้ท้าให้ส่งหลักฐาน
ในการอภิปรายที่ผ่านมา นายปดิพัทธ์ ได้เปิดเผยหลักฐานที่ส่วนใหญ่มาจากผู้เสียหาย ว่า การทุจริตสร้างบ้านพักสวัสดิการทหาร มีการเรียกรับสินบน 5% และส่วนต่างค่าบ้าน จนนำไปสู่ความกดดันของทหาร ทำให้เกิดเหตุกราดยิงโคราช เรื่องนี้เป็นที่รับรู้ภายในกองทัพ แต่ไม่มีการลงโทษใดๆ เมื่อผู้เสียหายได้ยื่นหลักฐานไปยังกรมสวัสดิการทหารบก และกระทรวงกลาโหม ก็ปรากฏว่า ไม่ได้รับความยุติธรรม มีการลงโทษผู้กระทำผิดเพียงงดบำเหน็จครึ่งปี ส่วนอีกคนหนึ่งกักตัวแค่ 7 วัน ทำให้เราเห็นถึงความไม่ชอบธรรม ทั้งที่ผู้บัญชาการทหารบก น่าจะรับรู้เรื่องทั้งหมด และการที่โครงการบ้านพักทหาร เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2553 และสิ้นสุดโครงการในปี 2564 เป็นระยะเวลากว่า 10 ปี เป็นช่วงเวลาที่ พล.อ. ประยุทธ์ เป็นรมว.กลาโหม ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์จึงควรมีส่วนรับผิดชอบด้วย


