เพื่อไทย-ภูมิใจไทย โชว์ชนช็อกมิ้นต์! ภท. ยื่นเงื่อนไขเขี่ยก้าวไกล ร่วม รบ.

 

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยผู้บริหารพรรคเพื่อไทย ได้พานายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และแกนนำพรรค ภท. เข้าไปยัง Thinklab creative space and cafe พร้อมนั่งพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ก่อนจะร่วมรับประทาน “ช็อคโกแลตมิ้นต์” เครื่องดื่มยอดฮิตประจำพรรค พท.

 

โดยนายอนุทิน กล่าวชมว่า รสชาติอร่อยดี ให้คะแนน 11 เต็ม 10 ก่อนที่ นพ.ชลน่าน จะพูดเสริมว่า 71 ซึ่งหมายถึงจำนวนเสียงของพรรค ภท. ผู้สื่อข่าวถามว่า รับหลักการมิ้นต์ช็อคหรือไม่ นายอนุทิน ย้อนถามสื่อว่า “คืออะไร” ผู้สื่อข่าวจึงอธิบายว่า แปลว่าอร่อยหรือไม่ ก่อนที่นายอนุทิน จะระบุว่า “ตามหัวหน้าชลน่าน อร่อย กินแล้วชื่นใจ”

 

เมื่อถามว่ามีโอกาสจะได้กลับมากินอีกหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “แล้วแต่ว่าหัวหน้าชลน่านจะเชิญมาอีกหรือไม่”

 

 

จากนั้นแกนนำของทั้งสองพรรค ได้ชนแก้วร่วมกัน โดยมีช่วงหนึ่งที่นายอนุทินได้ชูแก้วที่มีโลโก้ของ Thinklab ก่อนจะเอานิ้วโป้งทั้งสองข้าง ปิดข้อความหัวและท้าย จนเหลือแค่คําว่า ink ก่อนจะโชว์ให้ผู้สื่อข่าวและ นพ.ชลน่าน เห็น และให้สื่อมวลชนได้ถ่ายภาพ 

 

ต่อมาภายหลังจากที่ นพ.ชลน่าน​ ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ส่งแกนนำพรรคภูมิใจไทยเดินทางกลับ ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามถึงกรณีว่าลำบากใจหรือไม่ เนื่องจากพรรคภูมิใจไทยมี​จุดยืนชัดเจนว่าไม่ร่วมกับพรรก้าวไกล​ แต่พรรคเพื่อไทยเองมีจุดยืนว่าต้องเป็นพรรคจัดตั้งรัฐบาล​ นพ.ชลน่าน​ ถามกลับว่า หากเป็นสื่อมวลชนเองจะลำบากใจหรือไม่ พรรคเพื่อไทยเองก็ลำบากใจเหมือนกัน แต่เราต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ประเทศเดินหน้า

 

ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถาม​ นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ รองนายกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข​ ในฐานะพรรคภูมิใจไทย ว่า​ เป้าหมายหลักของพรรคภูมิใจไทย ที่มีการเจรจากับพรรคเพื่อไทยในวันนี้จะมีนายอนุทิน​ เป็นนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่

 

นายอนุทิน​ ระบุว่า ขอให้เป็นเรื่องการเจรจา ตอนนี้ยังไม่สามารถสรุปอะไรได้ เพราะต้องให้ทั้ง 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลจะต้องไปหารือกันก่อน​ พร้อมย้ำว่าหากมีพรรคก้าวไกลจะไม่มีพรรคภูมิใจไทย

จากนั้นบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย ได้พากันไปดื่มเมนูมิ้นต์ช็อค​ ซึ่งเป็นเมนูซิกเนอเจอร์ของคาเฟ่ Think Lab โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น​

 

โดยผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามนายอนุทิน​ว่า​ หากพรรคก้าวไกลถอยเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 แล้วพรรคภูมิใจไทยจะสามารถร่วมงานกับพรรคก้าวไกลได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกอย่างชัดเจนอยู่แล้วในแถลงการณ์ เราพูดไปแล้ว ทุกอย่างต้องเป็นไปตามนั้น 

 

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่นายแพทย์ชลน่าน​ ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ส่งแกนนำพรรคภูมิใจไทยเดินทางกลับ ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามถึงกรณีว่าลำบากใจหรือไม่ เนื่องจากพรรคภูมิใจไทยมี​จุดยืนชัดเจนว่าไม่ร่วมกับพรรก้าวไกล​ แต่พรรคเพื่อไทยเองมีจุดยืนว่าต้องเป็นพรรคจัดตั้งรัฐบาล​ นายแพทย์ชลน่าน​ ถามกลับว่า หากเป็นสื่อมวลชนเองจะลำบากใจหรือไม่ พรรคเพื่อไทยเองก็ลำบากใจเหมือนกัน แต่เราต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ประเทศเดินหน้า

 

 

ภูมิใจไทย ยื่นเงื่อนไขเพื่อไทยเขี่ยก้าวไกล ร่วมรัฐบาล

“อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แถลงหลังพบแกนนำพรรคเพื่อไทย เจรจาจัดตั้งรัฐบาล รับผลประชุมวันนี้ได้ยื่นเงื่อนไขชัด ถ้าจะร่วมรัฐบาลต้องไม่มีพรรคก้าวไกล หมอชลน่าน รับปากพร้อมเอาข้อหารือไปแจ้งต่อ

วันนี้ (22 กรกฎาคม 2566) ความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาล  ที่พรรคเพื่อไทย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองหัวหน้าพรรค, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค และ นายไชยชนก ชิดชอบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และบุตรชาย นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย เดินทางมายังที่ทำการพรรคเพื่อไทย เพื่อร่วมพูดคุยแนวทางเข้าร่วมรัฐบาล ตามคำเชิญจากพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล 

ภายหลังการหารือ นายแพทย์ชลน่าน แถลงว่า ตามที่ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ที่นำโดยพรรคก้าวไกล ได้มอบหมายภารกิจให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลพูดคุยหาเสียงสนับสนุนมาจัดตั้งรัฐบาลไม่น้อยกว่า 375 เสียง วันนี้พรรคเพื่อไทยได้พูดคุยร่วมกับพรรคภูมิใจไทยในการร่วมมือกันว่าเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนในการจัดตั้งรัฐบาล
 

นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้ได้มารับทราบเจตนารมณ์ของเพื่อไทยซึ่งตรงกับภูมิใจไทยที่ต้องการแก้ปัญหาการเมืองและตั้งรัฐบาลเร็วที่สุด ซึ่งพรรคภูมิใจไทยได้แจ้งข้อกังวลเจตนารมณ์ให้พรรคเพื่อไทยรับทราบว่ามีอะไรบ้าง

ส่วนใหญ่ก็ได้แจ้งในแถลงการณ์ของพรรคภูมิใจไทยอยู่แล้ว ถ้าจะเข้ามามีส่วนร่วมใด ๆ คงไม่สามารถทำงานได้ หากยังมีพรรคก้าวไกลอยู่ เรื่องนี้ไม่ใช่ความขัดแย้ง แต่เป็นวิธีการทำงาน แนวความคิดที่ทำงานในสภากันตลอดยังแตกต่างกันเยอะ หากมีอะไรที่ผ่านจุดที่เป็นอุปสรรคไปได้พรรคภูมิใจไทยก็พร้อมที่จะร่วมมือกับพรรคเพื่อไทย