posttoday

ตำนาน7-2 ขวางกั้น ก้าวไกล-พิธา อนาคตใหม่-ธนาธร ขึ้นสู่อำนาจ

19 กรกฎาคม 2566

มติศาลรัฐธรรมนูญ 7 ต่อ 2 สั่งให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ยุติปฏิบัติหน้าที่ ส่งผลกระทบ การโหวตเลือกนายกฯ ตัวเลข 7ต่อ2 ใช่ว่าจะเพิ่งเคยเกิดขึ้น เคยเกิดมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ละครั้งล้วนส่งผลกระทบต่อชะตากรรม พรรคอนาคตใหม่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จนมาถึง พิธา พรรคก้าวไกล ทั้งสิ้น

วันที่ 19 กรกฎาคม พุทธศักราช 2566
ตรงกับวันพุธขึ้น 2 ค่ำ เดือนแปดหลัง(88) ปีเถาะ
วุธวาร(ว) อาสาธมาส เบญจศก จ.ศ. 1385 , ค.ศ. 2023 , ม.ศ. 1945 , ร.ศ. 242
สุริยคติ เป็น ปกติสุรทิน ,จันทรคติ เป็น อธิกมาส ปกติวาร

กลายเป็นวันที่ไม่น่าจดจำ 'พิธา ลิ้มเจริญรัตน์' แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคก้าวไกล และ สมาชิกผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกล  ตรงกับวันที่ประชุมร่วมรัฐสภา โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เป็นครั้งที่2 ในช่วง สมาชิกรัฐสภา กำลังถกเถียง ยกข้อบังคับสภา ข้อที่41 สามารถเสนอ ญัตติ ชื่อของ พิธา ขึ้นมาโหวตซ้ำ อีกได้หรือไม่

ช่วงเวลาเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญ ประชุมพิจารณาคำร้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่าสมาชิกภาพส.ส.ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ จากเหตุมีชื่อถือครองหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด มหาชน จำนวน 42,000 หุ้น

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 7 ต่อ 2 สั่งให้นายพิธา ยุติปฏิบัติหน้าที่ส.ส. จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยศาล ออกมา

เป็นอันว่า ที่ประชุมร่วมรัฐสภา ไม่มีการโหวตชื่อ พิธา ดับฝันการก้าวขึ้นเป็น นายกรัฐมนตรี

 

สิ่งหนึ่งที่มีการเกี่ยวโยง ผูกพันธ์ ส่งผลถึงชะตากรรมพรรรค ชะตากรรมตัวบุคคล อย่างน่าประหลาดใจ ตัวเลข 7 ต่อ 2 และไม่ใช่เพียงแค่ครั้งนี้ ก่อนหน้าเคยส่งผล ต่างกรรม ต่างวาระ ต่อ 'พรรคอนาคตใหม่'  'ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ' จนมาถึง 'พิธา ลิ้มเจริญรัตน์'  'พรรคก้าวไกล' เรื่อยมา

 

21 ก.พ. 2563 
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ออกนั่งบังลังก์อ่านคำวินิจฉัยในคดียุบพรรคอนาคตใหม่ ตามคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง กรณีกู้เงินนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จำนวน 191 ล้านบาท ว่าเป็นการกระทำที่ ฝ่าฝืนมาตรา 72 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ที่ระบุ ไม่ให้พรรคการเมืองหรือผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมือง เช่น หัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค รับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยมีคำพิพากษา 4ประเด็น

 

ประเด็นที่ 1 ผู้ร้องมีอำนาจยื่นคำร้องนี้ ตามพ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 92 หรือไม่
ประเด็นที่ 2 มีเหตุยุบพรรคตามมาตรา 92 หรือไม่
ประเด็นที่ 3 กรรมการบริหารพรรคจะถูกเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งหรือไม่ เพียงใด
ประเด็นที่ 4 ผู้ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคที่ถูกยุบจะไปจดทะเบียนพรรคขึ้นใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรค ไม่ได้ภายในสิบปีหรือไม่

 

ในประเด็น 2 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมี มติ 7 ต่อ 2
ในประเด็นที่ 3 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมี มติ 7 ต่อ 2
ในประเด็นที่4 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมี มติ 7 ต่อ 2

 

พรรคอนาคตใหม่ ที่มี ธนาธร เป็นหัวหน้าพรรค ถูกสั่งให้ยุบพรรค ไปพร้อมกับ เพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง กรรมการบริหารพรรค ในเวลานั้น เป็นเวลาอีก 10ปี

 

หลังจากพลาดหวังจากการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีรอบแรก พิธา ไม่ได้รับความเห็นชอบจากเสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุม คณะส.ส.พรรคก้าวไกล ได้ยื่นหนังสือต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอเสนอ แก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 เพื่อต้องการตัดอำนาจสมาชิกวุฒิสภา(สว. )ไม่ให้โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี 

 

ตัวเลข 7- 2 อาจเป็นแค่เหตุ แห่งความบังเอิญ หรือ จะอะไรก็ตาม แต่หลายต่อหลายครั้งได้ส่งผลถึง ชะตากรรมพรรค ชะตากรรมส่วนบุคคล เรื่อยมา ยังไม่จบไม่สิ้น 

พิธา ก่อนกล่าวอำลากับ สมาชิกรัฐสภา ได้โพสต์ข้อความลงใน อินสตาแกรมส่วนตัว

'เป็นที่ชัดเจนแล้ว ในระบบปัจจุบัน ชนะความไว้วางใจจากประชาชนไม่เพียงพอ ที่จะบริหารประเทศชาติ ต้องขออนุมัติจากวุฒิสภาก่อน เผลอๆไม่พอที่จะเสนอชื่อเป็นครั้งที่2 ด้วยซ้ำไป'

 

ตำนาน7-2 ขวางกั้น ก้าวไกล-พิธา อนาคตใหม่-ธนาธร ขึ้นสู่อำนาจ

ฉากทัศน์ การเมืองหลังจากนี้  ใครจะเป็น นายกรัฐมนตรี ใครจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะมีการรวมเสียงจาก พรรคการเมืองใดบ้าง ฝ่ายใดจะเป็นฝ่ายค้าน ศาลจะนัดพิพากษาคดี พิธา พรรคก้าวไกล เมื่อใด วันไหน ผลจะออกมาเป็นอย่างไร

เลข7 กับ เลข 2 จะเข้ามามี อิทธิพล ส่งผลกระทบอะไรกับ พิธา พรรคก้าวไกล ให้ต้องจบแบบ เจ็บๆอีกหรือไม่ ต้องเฝ้าเกาะติดอย่างใกล้ชิดกันต่อไป